เข้าสู่สัปดาห์สุดท้าย เหลือเวลาอีกไม่กี่วันเท่านั้น ก็จะถึงวัน เลือกตั้งซ่อมสส.เขต 8 นครศรีธรรมราช ที่จะเลือกกันวันอาทิตย์นี้ 27 เม.ย. เพื่อให้ได้ สส.เมืองคอนฯคนใหม่ แทน “มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล” อดีตส.ส.เขตดังกล่าวจากพรรคภูมิใจไทย ที่ถูกศาลฎีกาฯตัดสินว่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตอนเลือกตั้งใหญ่ปี 2566
ซึ่ง “มุกดาวรรณ” ก็ดันสามีตัวเอง “ไสว เลื่องสีนิล” อดีตหัวหน้าแผนกวิชาสัตวศาสตร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศรีธรรมราช ลงมาป้องกันพื้นที่ ไม่ให้พรรคอื่นมาแย่งไปได้ ที่ช่วงก่อนสัปดาห์สุดท้าย “ไสว” จากภูมิใจไทยยังคงเป็นเต็งหนึ่ง ในฐานะลงมาป้องกันแชมป์ เพราะมีคะแนนฐานเสียงเดิมของภรรยาตุนไว้ระดับหนึ่ง
แต่พอถึงเข้าโค้งสุดท้าย สัปดาห์นี้ ที่เหลืออีกไม่ถึงเจ็ดวันก็เลือกตั้ง ก็ไม่แน่ “ไสว” อาจไม่ใช่เต็งหนึ่งก็ได้ ถ้าเกิดการพลิกในช่วงสัปดาห์สุดท้าย
เพราะลือกันมาจากพื้นที่ เมืองคอน-นครศรีธรรมราช ว่า คู่แข่งทั้งจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง และพรรคฝ่ายค้าน คือ “พรรคประชาชน-พรรคส้ม” ที่ก็ส่งคนลงสมัครเช่นกัน พบว่า เกือบทั้งหมดในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง แกนนำแต่ละพรรคเตรียมอัดเต็มที่เหมือนกัน ทั้งอัดกระสุนดินดำและอัดการหาเสียงแบบใส่เต็มที่ เพราะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี
บางพรรคเตรียมส่งขนแกนนำลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครกันสุดตัว เช่น “พรรคประชาธิปัตย์” ตอนแรก คนนึกว่า แกนนำพรรคภาคใต้อย่าง “เดชอิศม์ ขาวทอง” รมช.สาธารณสุข-เลขาธิการพรรค และ “ชัยชนะ เดชเดโช” รองหัวหน้าพรรคภาคใต้และสส.นครศรีธรรมราช จะโดดเดี่ยวไม่ช่วย “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” อดีตสส.เมืองคอน 9 สมัย จนทำให้สอบตกอีกหนึ่งสมัย หลังเห็นมีแค่ “ชวน หลีกภัย” ลงไปช่วยให้เท่านั้นช่วงหยุดยาวสงกรานต์ แต่ข่าวว่า สัปดาห์สุดท้าย “แกนนำพรรคภาคใต้” เปลี่ยนใจจะไปช่วยให้
เพราะหาก “ชินวรณ์” แพ้ยับขึ้นมา “ปชป.” ต้องถูกมองว่า “ขาลง” ในภาคใต้ และที่นครศรีธรรมราช
หลังก่อนหน้านี้ “กนกพร” อดีตนายกฯอบจ.นครศรีธรรมราชจากบ้านใหญ่ “เดชเดโช” ที่เป็นแม่ของ “ชัยชนะ” รองหัวหน้าพรรคปชป. ก็เพิ่งแพ้ศึกเลือกตั้งนายกฯอบจ.นครศรีธรรมราชให้กับ “ภูมิใจไทย” จน “ชัยชนะ” รองหัวหน้าพรรคปชป. เสียหน้าอย่างมาก
ดังนั้นรอบนี้ “ชัยชนะ” แม้ไม่อยากช่วย “ชินวรณ์” แต่ก็อดใจไม่ได้ เพราะ หาก “ปชป.” แพ้แบบหมดรูป ย่อมจะถูกมองว่า “เสื่อมหนักในภาคใต้” แล้วยังถูกโยงว่า คนเมืองคอนฯไม่เห็นด้วยที่ “ปชป.” เข้าร่วม “รัฐบาลเพื่อไทย” และ “ทักษิณ ชินวัตร” เลยโดนสั่งสอน ให้คนของพรรคปชป. แพ้ทั้ง “นายกฯอบจ.” และแพ้เลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 ซึ่งจะทำให้ “แกนนำพรรคปชป.ปัจจุบัน” ต้องโดนถล่มอย่างหนัก เลยต้องเข้าไปช่วย “ชินวรณ์” เสียหน่อย ถึงต่อให้ เป็น “มวยรอง” ก็ตาม
ส่วนอีกพรรคร่วมรัฐบาลที่ส่งคนลงสู้กับภูมิใจไทย นั่นก็คือ “พรรคกล้าธรรม” ของ “รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่ส่ง อดีตสจ.นครศรีธรรมราช “ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ” ที่เป็นลูกเขยของ “ชินวรณ์” ลงสมัคร
เริ่มถูกจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ หลังลือกันว่า “ธรรมนัส” ต้องการให้พรรคกล้าธรรมชนะการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดตัวอย่างสวยงามกับการส่งคนลงสมัครเลือกตั้งแล้วได้รับชัยชนะทันที เพราะสส.ของพรรคกล้าธรรมเวลานี้ร่วมๆ 25 คน ล้วนแล้วแต่เป็นสส.ที่มาจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ย้ายตามมากับ “ธรรมนัส” และพวกสส.พรรคเล็ก ที่ยุบ-ควบรวมมาอยู่ด้วยกัน แต่ยังไม่มีสส.ของพรรคที่ชนะเลือกตั้งในนาม “พรรคกล้าธรรม”
เลยทำให้ “ธรรมนัส” คาดหวังไว้มากกับการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า “ต้องการชนะ” เพื่อทำให้ “พรรคกล้าธรรม” ส่งคนลงสมัครครั้งแรก ก็แจ้งเกิดทางการเมืองได้เลย เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นเดิมพันสูงของ “ผู้กองธรรมนัส” ที่ต้องการชนะให้ได้ ก็เลยต้องใส่เต็มที่เช่นกัน
สิ่งนี้ทำให้ “อนุทิน ชาญวีรกูล-เนวิน ชิดชอบ-ภูมิใจไทย” หนักใจอย่างมากกับการลงมาสู้เต็มที่ของ “กล้าธรรม-ธรรมนัส” ที่สร้างความลำบากใจให้กับ “ภท.” มากกว่า “ชินวรณ์-ปชป.” เสียอีก
และผลของการแข่งขันแบบสูสีเข้มข้น ของพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองแบบนี้ เลยทำให้ “พรรคประชาชน” ที่ส่ง “ณัฐกิตติ์ อยู่ด้วง” ลงสมัคร เลยมีความหวังขึ้นมา เพราะมองว่า ทั้ง 3 พรรคร่วมรัฐบาล สู้กันแบบนี้ ก็ทำให้ ตัดคะแนนกันเอง โดยเฉพาะ “พ่อตาชินวรณ์-ลูกเขยก้องเกียรติ”
จนแกนนำพรรคประชาชน เกิดฮึดขึ้นมาว่า คนของพรรคส้มมีสิทธิ์เบียดลุ้นสู้ได้ ไม่แน่เผลอๆ หากกระแสมาในช่วงสัปดาห์สุดท้าย ถึงหากแพ้ ก็อาจมาที่ 2 ไม่ใช่ที่ 4 อย่างที่ถูกปรามาส
“พรรคประชาชน” เลยใช้วิธีหาเสียงชูว่า หากไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล และอยากให้ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลเข้มแข็งมากขึ้น ก็ขอเทเสียงเลือกพรรคประชาชน ให้ฝ่ายค้านได้มีสส.ในสภาฯเพิ่มอีกหนึ่งคนเพื่อไปตรวจสอบรัฐบาล
ข่าวว่า แนวหาเสียงดังกล่าวตรงใจกับ “คนเมืองคอน” ไม่ใช่น้อย แต่ก็ติดที่ว่า “คนเมืองคอน” ที่เคยเป็นกำลังหลักของ “ม็อบเสื้อเหลืองพันธมิตรฯ” และ “ม็อบกปปส.” ยังรับไม่ได้กับ “แนวคิดการเมือง” ของ “พรรคส้ม” ในเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งหากไม่มีเรื่องนี้ กระแสพรรคส้มที่เมืองคอนน่าจะมีมากกว่านี้
ทว่า ต้องรอดูว่า สัปดาห์สุดท้าย “พรรคประชาชน” ที่ขนแกนนำลงไปช่วยหาเสียงให้อย่างหนัก โดยมี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นหัวหอก จะเร่งสปีดสร้างกระแสได้หรือไม่ ซึ่งหากทำได้ แกนนำภูมิใจไทยคงปวดเฮดหนัก เพราะต้องสู้กับทั้ง “กล้าธรรม-ประชาธิปัตย์” ไม่พอ ยังต้องสู้กับ “พรรคส้ม” อีก
โค้งสุดท้าย ศึกเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 8 นครศรีธรรมราช ห้ามกระพริบตา งานนี้ทั้ง “กระแส” และ “กระสุน” ในพื้นที่…พรึ่บแน่นอน
………………………..
คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง
โดย…. ..” พระจันทร์เสี้ยว ”
