วันอาทิตย์, พฤษภาคม 25, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTS“ยิ่งลักษณ์”อ่วม!...จ่าย 10,028 ล้าน “ทักษิณ”เครียด!...ลุ้นระทึก 13 มิ.ย.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ยิ่งลักษณ์”อ่วม!…จ่าย 10,028 ล้าน “ทักษิณ”เครียด!…ลุ้นระทึก 13 มิ.ย.

มีนักกฎหมาย-ทนายความ บางส่วน ออกมาให้ความเห็นเชิงดักทาง-ปิดประตูใส่ ทีมทนายความ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แล้วว่า ประเด็นที่ทีมทนายความยิ่งลักษณ์ จะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ในเรื่องการจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว

หลังเมื่อ 22 พ.ค. ศาลปกครองสูงสุด สั่งให้ยิ่งลักษณ์จ่ายเงิน 10,028 ล้านบาท

โดย “ทีมทนายความยิ่งลักษณ์” จะใช้วิธียกปมข้อต่อสู้ว่า สมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่มี “ภูมิธรรม เวชยชัย” เป็นรมว.พาณิชย์ ได้มีการนำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไปขายและได้เงินมาร่วมแสนล้านบาท ดังนั้น จึงต้องนำเงินดังกล่าวที่ถือเป็นรายได้เข้ารัฐ มาคิดคำนวณว่า ข้าวในโครงการจำนำข้าวไม่ได้เสียหายทั้งหมด “ยิ่งลักษณ์” จึงไม่ต้องชดใช้เงินหนึ่งหมื่นล้านบาท ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด เพราะเงินที่ขายข้าวได้แสนล้านบาท มีมากกว่าจำนวนเงินที่ศาลสั่งให้ “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้

พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ข้อต่อสู้ของ “ทีมทนายความยิ่งลักษณ์” ต้องการให้ “ลูกความ” ไม่ต้องชดใช้เงินแม้แต่บาทเดียว “กรมบังคับคดี” ไม่สามารถยึดทรัพย์ของ “ยิ่งลักษณ์” ได้…นั่นเอง

กระนั้น นักกฎหมาย-ทนายความบางส่วน ไม่รอช้า ออกมาดักทางว่า รูปคดีดังกล่าว ไม่เปิดช่องให้ “ยิ่งลักษณ์” ร้องใหม่ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเปิดคดีใหม่ได้ เพราะไม่เข้าองค์ประกอบตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง มาตรา 75 ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการฟ้องคดีใหม่ในคดีเดิมที่ศาลปกครองตัดสินไปแล้วที่บัญญัติว่า

“ในกรณีที่ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีปกครองเสร็จเด็ดขาดแล้ว คู่กรณีหรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียหรืออาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีนั้น อาจมีคำขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีปกครองนั้นใหม่ได้ในกรณี

ดังต่อไปนี้

(1) ศาลปกครองฟังข้อเท็จจริงผิดพลาดหรือมีพยานหลักฐานใหม่ อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติแล้วนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ

(2) คู่กรณีที่แท้จริงหรือบุคคลภายนอกนั้นมิได้เข้ามาในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหรือได้เข้ามาแล้วแต่ถูกตัดโอกาสโดยไม่เป็นธรรมในการมีส่วนร่วมในการดำเนินกระบวนพิจารณา

(3) มีข้อบกพร่องสำคัญในกระบวนพิจารณาพิพากษาที่ทำให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรม

(4) คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ทำขึ้นโดยอาศัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใด และต่อมาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญซึ่งทำให้ผลแห่งคำพิพากษาหรือคำสั่งขัดกับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น

การยื่นคำขอตามวรรคหนึ่ง ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อคู่กรณีหรือบุคคลภายนอกไม่ทราบถึงเหตุนั้นในการพิจารณาคดีครั้งที่แล้วมา โดยมิใช่ความผิดของผู้นั้น การยื่นคำขอให้พิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งใหม่ต้องกระทำภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ผู้นั้นได้รู้หรือควรรู้ถึงเหตุซึ่งอาจขอให้พิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ได้ แต่ไม่เกินห้าปีนับแต่ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาด”

โดยเหตุผลที่มีการมองกันว่า ไม่น่าจะทำให้ “ยิ่งลักษณ์” ฟ้องใหม่ได้ เพราะคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ถือว่าสิ้นสุดแล้ว และที่ทีมทนายความจะยกข้อต่อสู้ว่า มีการขายข้าวในโครงการจำนำข้าวได้ จึงเท่ากับไม่ได้เสียหายอย่างที่กระทรวงการคลัง ยกตัวเลขมาให้ “ยิ่งลักษณ์” ต้องชดใช้

ปมนี้ นักกฎหมายหลายสำนักมองว่า ไม่น่าจะเข้าองค์ประกอบตามมาตรา 75 เพราะประเด็นที่ “ทีมทนายความยิ่งลักษณ์” ยกมา คล้ายกับ “การอุทธรณ์” หรือ “การฟ้องซ้ำในประเด็นเดิม” แต่การร้องใหม่ จะต้องมีองค์ประกอบสำคัญคือ เป็นการร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ในกรณีที่มีเหตุพิเศษที่กฎหมายกำหนด โดยศาลปกครองจะพิจารณาจากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ หากศาลเห็นว่าการวินิจฉัยเดิมถูกต้องและสมบูรณ์แล้ว หรือเหตุที่ยกมาไม่เป็นสาระสำคัญที่จะทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป ศาลอาจมีคำสั่งไม่รับคำขอไว้พิจารณาได้

แต่ทว่าเมื่อ “ทีมทนายความยิ่งลักษณ์” รับงานมาแล้ว และคงต้องการทำให้ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” พอใจและใช้บริการตัวเองต่อไป ต้องหาทุกวิธีการเพื่อทำให้ลูกความพอใจ ทำให้ “ทีมทนายความยิ่งลักษณ์” คงลุยร้องใหม่แน่ โดยมีเส้นตายภายในไม่เกิน 90 วันหลัง 22 พ.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งแนวทาง-รูปคดีที่จะออกมา ก็จะมี 2 แนวทางคือ

1.“ศาลปกครองกลาง” อาจจจะรับคำร้องไว้ แล้วให้มีการพิจารณากันใหม่ นับหนึ่งใหม่ แต่เป็นประเด็นตามที่ “ทีมทนายความยิ่งลักษณ์” ยื่นคำร้องมา ไม่ใช่ไปไต่สวนใหม่ตั้งแต่แรกในเรื่องโครงการจำนำข้าว

2.“ศาลปกครองกลาง” ไม่รับคำร้อง เพราะเห็นว่าประเด็นที่ยื่นไปไม่เข้าองค์ประกอบตามมาตรา 75 ของพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ จึงไม่มีเหตุให้รับคำร้องไว้พิจารณา

ส่วนจะออกมุมไหน รอติดตาม แต่น้ำหนักการประเมินพบว่า ส่วนใหญ่ประเมินไปในแนวทางว่า โอกาสที่ “ทีมทนายความยิ่งลักษณ์” จะประสบความสำเร็จรอบนี้ มีเปอร์เซ็นต์น้อย ถ้าไม่มีอะไรพลิกผัน

และแน่นอนว่า ผลคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดที่ออกมา ที่ให้ “ยิ่งลักษณ์” จ่ายเงินหมื่นกว่าล้านบาท หลังก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลางเคยตัดสินว่า “ยิ่งลักษณ์” ชนะ ไม่ต้องจ่ายแม้แต่บาทเดียว จากที่กระทรวงการคลังเรียกไปร่วม 35,000 ล้านบาท จนมีข่าวว่า หากชนะอีกในชั้นศาลปกครองสูงสุด ไม่แน่…อาจฟ้องกลับกระทรวงการคลังและคนในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไล่บี้ “ยิ่งลักษณ์” จนมีการอายัด-ยึดทรัพย์ “ยิ่งลักษณ์” ไปหลายรายการ ทำให้เสียชื่อเสียง แต่พอศาลปกครองสูงสุด พลิกตัดสินอีกแบบ ทำเอา “ยิ่งลักษณ์” และ “ทีมทนายความ” มี “อึ้ง”พอสมควร

ที่แน่ๆ คงทำให้ “ทักษิณ ชินวัตร” พี่ชายยิ่งลักษณ์ ที่มีคิวต้องไปขึ้นศาลฎีกาฯวันที่ 13 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯนัดไต่สวน ปมชั้น 14 ร.พ.ตำรวจ ตัว “ทักษิณ” คงเครียดพอสมควร เพราะไม่รู้ว่าผลการพิจารณาของศาลฎีกาฯจะออกมาอย่างไร หลังน้องสาวเจอไปหมื่นล้าน เพราะระยะหลัง ข่าวหลายกระแสเกี่ยวกับการไต่สวนคดีชั้น 14 ออกมาในทางไม่สู้ดีนัก กับ “ทักษิณ” !!!

…………………………………………

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย….  “พระจันทร์เสี้ยว” 

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img