วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTS“โทนี่-หญิงอ้อ”พร้อมเสี่ยง??? ไฟเขียว “อุ๊งอิ๊ง” คุมพท.-ลงการเมือง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“โทนี่-หญิงอ้อ”พร้อมเสี่ยง??? ไฟเขียว “อุ๊งอิ๊ง” คุมพท.-ลงการเมือง

เริ่มชัดทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ามีแนวโน้มสูงแล้วที่ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” บุตรสาวคนเล็กของ “โทนี่-ทักษิณ ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง และ “คุณหญิงอ้อ-พจมาน ณ ป้อมเพชร” จะเดินเข้าสู่การเมืองแน่นอนในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต

เพราะนับแต่เปิดตัวเข้าสู่พรรคเพื่อไทย กลางที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย เมื่อ 28 ต.ค. 2564 ที่จ.ขอนแก่น ที่เข้ามารับตำแหน่ง “ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย”

หลังจากนั้น ก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวของ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” อย่างต่อเนื่อง ในการเดินทางไปที่ทำการพรรคเพื่อไทยหลายครั้ง เพื่อร่วมประชุมทั้งแบบที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว กับแกนนำ-ส.ส.พรรคเพื่อไทยและคณะทำงานชุดต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ทั้งวงใหญ่-วงเล็ก เรียกได้ว่า อย่างน้อยก็เดือนละสองครั้งเป็นอย่างต่ำ

แต่ช่วงหลังพบว่า เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” กับ “คนในพรรคเพื่อไทย” ถี่ยิบมากขึ้น เช่น เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็ไปร่วมประชุมพรรคเพื่อไทยวงใหญ่ เพื่อรับฟังเสียงของส.ส.แต่ละภาค โดยเปิดโอกาสให้ส.ส.เพื่อไทย นำภาพความเคลื่อนไหวดังกล่าวไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของแต่ละคนได้อย่างเต็มที่ และล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ไปร่วมกิจกรรมเวิร์กชอป “คิด-เปลี่ยน-โลก สร้างโลกที่ดีกว่าและแก้ปัญหาด้วยความคิดเชิงนวัตกรรม” ที่พรรคเพื่อไทยจัดขึ้น ณ ที่ทำการพรรค โดยกิจกรรมเวิร์กชอปดังกล่าว แกนนำและเพื่อไทยจำนวนมากต่างไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว

ที่น่าสนใจก็คือ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” เริ่มแสดงความเห็นทางการเมืองบางอย่าง ให้คนในพรรคเห็นแล้วว่า เธอทำการบ้านเรื่องการบ้านการเมือง และเรื่องนโยบายพรรคการเมืองมาพอสมควร…ระดับหนึ่งแล้ว ผ่านการนำเสนอแนวคิดเรื่อง การใช้นวัตกรรมทางความคิดเข้ามาทำงานทางการเมืองกับพรรคการเมือง

“มองว่าพรรคเพื่อไทย สามารถนำเอากระบวนการคิดเชิงนวัตกรรม มาสร้างนวัตกรรมทางการเมืองผ่าน ส.ส. และสมาชิกในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พรรคการเมืองจึงต้องมีการปรับวิธีการเก็บข้อมูล ที่ต้องมาจากประชาชนและการรับฟังเพื่อเข้าใจปัญหาที่แท้จริง นำมาผ่านกระบวนการคิดและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคโนโลยี” แพทองธาร ระบุไว้กลางกิจกรรมเวิร์กชอปพรรคเพื่อไทย

ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ ให้จับตากันให้ดี เพราะกิจกรรมต่างๆ ที่เพื่อไทยจะจัดในช่วงมี.ค.-พ.ค. เพื่อรณรงค์หาเสียงสร้างกระแสนิยมให้กับเพื่อไทย โดยเฉพาะการออนทัวร์ต่างจังหวัด ที่จะเป็นเวทีแยกมาจากกิจกรรมที่ทำในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่จะเดินสายไปยังจังหวัดต่างๆ ในหลายภาค เพื่อเปิดเวทีไล่ถล่มรัฐบาลและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยนอกจากเวทีฝ่ายค้านแล้ว ก็จะมีเวทีกิจกรรมของเพื่อไทย ที่ใช้ชื่อแคมเปญว่า “คาราวานครอบครัวพรรคเพื่อไทย” ที่แยกมาต่างหากจากเวทีกิจกรรมของฝ่ายค้าน

โดยกิจกรรมของเพื่อไทยในแคมเปญดังกล่าว อาจจะได้เห็น “อุ๊งอิ๊ง” ไปร่วมปรากฏตัวให้ฮือฮาเล่น 

หลังมีข่าวว่า ทีมวางแคมเปญของเพื่อไทย ได้เลือกที่จะเริ่มทำกิจกรรมดังกล่าว ครั้งแรกวันที่ 19 มี.ค.นี้ ที่จ.อุดรธานี ฐานที่มั่นใหญ่ของเพื่อไทยในภาคอีสาน จังหวัดที่เพื่อไทยชนะเลือกตั้งยกจังหวัดมาหลายสมัยแล้ว

และหมดจากเวทีที่อุดรธานี ก็มีข่าวว่า เพื่อไทยจะจัดกิจกรรมลักษณะดังกล่าวอีกหลายจังหวัด เพื่อเดินสายการเมืองให้เต็มที่ บนความเชื่อของแกนนำพรรคที่ว่า อาจจะเกิดการยุบสภาฯ เกิดขึ้นช่วงส.ค.-ก.ย.ปีนี้ จึงต้องเร่งเตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้ในการทำพื้นที่เลือกตั้ง

ส่วนเมื่อจัดแล้ว จะได้เห็น “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัย บนเวทีหรือในงานกิจกรรมต่างๆ หรือไม่ ต้องรอลุ้นกันอีกที แต่หากใครได้เห็น การขึ้นพูดของเธอตอนประชุมใหญ่พรรคที่ขอนแก่น ที่เป็นวันเปิดตัวเข้าสู่การเมือง คงเห็นตรงกันว่า “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นเวทีปราศรัย พูดการเมืองได้สบาย โดยเฉพาะหากมี “พี่เลี้ยง” คนในพรรคคอยช่วยสนับสนุน ที่หากทำได้ราบรื่น ก็จะทำให้ “สปอร์ตไลท์การเมือง” จะยิ่งเพ่งเล็งทุกการเคลื่อนไหวของ “แพทองธาร” มากขึ้น กับกระแสข่าวที่ออกมาตลอดว่า สุดท้ายแล้ว “โทนี่-ทักษิณ” อาจใส่ชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” เป็นหนึ่งในสามแคนดิเดตนายกฯของ “เพื่อไทย” ก็ได้

ท่ามกลางกระแสข่าวที่ออกมาจากคนในพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีคนในพรรคเพื่อไทย ที่เป็นระดับแกนนำพรรค เคยบินไปหา กินข้าวพูดคุยกับทักษิณ ที่ดูไบ และแกนนำเพื่อไทยคนดังกล่าว เคยถามทักษิณ ตรงๆ กลางวงกินข้าวว่า จะผลักดันหรือเสนอชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” เป็นนายกฯหรือไม่ ซึ่งทักษิณก็ไม่ได้ตอบอะไรแบบชัดๆ แค่พูดทำนองว่า “เอาไว้ให้ถึงช่วงเลือกตั้งก่อน ค่อยว่ากัน ตอนนี้อยากให้เขาเข้าไปเรียนรู้การเมืองในพรรคเพื่อไทยก่อน

ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว “โทนี-ทักษิณ” ก็เคยพูดไว้ตอนจัดรายการใน Club House ที่บอกไว้ตอนหนึ่งว่า…“หวังว่าปี 65 ผมจะเป็นของขวัญให้คนไทย ไปทำงานรับใช้คนไทยและประเทศไทย ส่วนจะกลับวันใดให้ถามน้องอิ๊ง”

และวันรุ่งขึ้น “แพทองธาร” โพสต์ข้อความผ่านไอจีสตอรี่ส่วนตัว ingshin21 โดยแชร์สตอรี่ระหว่างนายทักษิณกำลังพูดเรื่องดังกล่าว พร้อมกับระบุว่า…“ไม่บอกกันก่อนเลย งงมาก เซอร์ไพรส์เก่ง”

งหากมองท่าที-การสื่อสารต่างๆ ของ “ทักษิณ” ที่ให้ “อุ๊งอิ๊ง” เข้ามาทำงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยเต็มตัวและพยายามสื่อให้เห็นว่า “อุ๊งอิ๊ง” มีความสำคัญในเรื่องการที่ทักษิณ อาจจะได้กลับประเทศไทย จึงน่าจะชัดแล้วว่า “ทักษิณสนับสนุนให้ลูกสาวคนเล็กเข้ามาทำงานการเมืองเต็มตัว” เพียงแต่เหลือรอการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า จะให้พรรคเพื่อไทย ส่งชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่…เท่านั้นเอง

‘อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร’ ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนรวมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย

ขณะเดียวกันก็มีข่าวด้วยว่า ในช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา “คุณหญิงอ้อ-พจมาน” ได้เปิด “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ของครอบครัวชินวัตร เพื่อจัดงานส่งท้ายปีใหม่ โดยมีการเชิญแกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำพรรคฝ่ายค้าน บางส่วน ไปร่วมงานแบบไม่เป็นทางการ แต่ไม่มีการระบุชัดว่า คุณหญิงอ้อมีการพูดคุยหรือสอบถามเรื่องการเมือง กับแกนนำพรรคเพื่อไทยอย่างไรหรือไม่ โดยเฉพาะการถามความเห็นเรื่องที่ “อุ๊งอิ๊ง” เปิดตัวเข้าสู่การเมืองไปก่อนหน้านี้

“แต่ที่คนในพรรคเพื่อไทย แปลกใจกันก็คือ ที่ผ่านมา คุณหญิงพจมานพยายามเก็บตัวทางการเมืองมาตลอด โดยเฉพาะกับการเจอคนในพรรคเพื่อไทย หรือคนในแวดวงการเมืองแบบวงใหญ่ๆ แต่งานกินข้าวปีใหม่ดังกล่าว คุณหญิงพจมานนอกจากให้คนติดต่อเชิญคนของเพื่อไทยไปกินข้าวปีใหม่แล้ว ยังมีการเชิญแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านบางส่วน ไปร่วมงานปีใหม่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่คนในพรรคเพื่อไทย ก็แปลกใจกันมาก แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยให้ข้อมูล

แม้การเข้าสู่ถนนการเมืองของ “อุ๊งอิ๊ง” การตัดสินใจของ “ทักษิณ-หญิงอ้อ” จะมีความสำคัญมากในการว่าจะ “ไฟเขียวหรือติดเบรก” ที่ตอนนี้ทั้งสองคนคงยังไม่รีบตัดสินใจอะไรออกมา จนกว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่หากถามใจ “อุ๊งอิ๊ง” ก็เชื่อได้ว่า “เธอพร้อมแล้ว” ที่จะเข้ามาลุยการเมืองเต็มตัว

เพื่อเข้ามาทำภารกิจหลายอย่างและหนึ่งในนั้นคงไม่พ้น “การหาวิธี-ช่องทาง” ในการทำอย่างไรให้ “ทักษิณ” ได้กลับบ้าน อย่างที่ “ทักษิณ” เคยบอกไว้หลายครั้ง

……………………………………….                                         

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย “พระจันทร์เสี้ยว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img