วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSการเมืองร้อนแรงรับเปิดสภาฯ 23 พ.ค. “ดาบแรก”รอถล่มเวทีงบประมาณ '66
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

การเมืองร้อนแรงรับเปิดสภาฯ 23 พ.ค. “ดาบแรก”รอถล่มเวทีงบประมาณ ’66

หลังเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ที่เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ 22 พ.ค. เรื่อยไปเป็นเวลาสี่เดือน โดยจะไปปิดสมัยประชุมวันที่ 18 ก.ย.2565

พบว่า เปิดสภาฯมาได้แค่วันเดียว ทางสภาฯและวุฒิสภา ก็มีการนัดประชุมกันในสัปดาห์แรกนี้เลย เรียกได้ว่า แสดงความฟิตให้เห็นกันว่า ทั้งส.ส.และสว. ต่างพร้อมจะทำงานให้คุ้มกับภาษีประชาชน

และแน่นอนว่า เมื่อสภาฯเปิดแล้ว การเมืองในรัฐสภา จะกลับมาร้อนแรงตามฤดูกาลอีกครั้ง โดยเฉพาะในสมัยประชุมสภาฯรอบนี้ ที่กินเวลาสี่เดือน ช่วงสี่เดือนต่อจากนี้ หลายคนต่างจับตามองมากเป็นพิเศษว่า “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี จะรอดหรือไม่รอด กับศึกหนักสองปมที่รออยู่คือ…

1.ศึกที่เกิดขึ้นในสภาฯ นั่นก็คือ ศึกซักฟอก การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

2.คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคดีวาระนายกฯแปดปี ที่ฝ่ายค้านจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหลัง 24 ส.ค.2565

ที่พบว่า ตามปฏิทินการเมืองที่เปิดเผยออกมา มีแนวโน้มว่า ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากเดิมตอนแรกบอกจะยื่นตั้งแต่เปิดสภาฯวันแรก 23 พ.ค.เพื่อป้องกันไม่ให้ “บิ๊กตู่” ยุบสภาฯหนีศึกซักฟอก ต่อมาก็บอกว่า จะยื่นช่วงมิ.ย.

แต่ล่าสุดแนวโน้มจะยื่นหลังกฎหมายลูกสองฉบับที่แก้ไขรองรับการเลือกตั้งคือ พ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส. และพ.ร.บ.พรรคการเมือง ประกาศใช้ ที่คาดกันว่า น่าจะเป็นช่วงต้นเดือนส.ค. เพื่อให้อภิปรายก่อนวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งทุกอย่าง ฝ่ายค้านคงต้องพิจารณาไทม์ไลน์อย่างรอบด้าน เพื่อชิงจังหวะการเมืองให้เข้าทางตัวเองมากที่สุด

เมื่อดูตามนี้ หลังเปิดสภาฯมาแล้ว การเมืองในสภาฯ และนอกรัฐสภา อุณหภูมิการเมืองรับรองได้ว่า ร้อนแรงแน่นอน เพราะเป็นสมัยประชุมที่มีเรื่องสำคัญ-กฎหมายสำคัญหลายฉบับ รอการพิจารณาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคิวแรกเลยก็คือ “การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท” ที่จะเข้าสภาฯ วาระแรก ช่วง 31 พ.ค.ถึง 2 มิ.ย.นี้

และช่วงกลางเดือน มิ.ย. ก็จะถึงคิวการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.และพ.ร.บ.พรรคการเมือง วาระสอง ซึ่งที่ประชุมร่วมรัฐสภา จะต้องพิจารณาเรียงรายมาตรา

จุดที่น่าจับตาก็คือ ในตัวร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับ ยังมีหลายประเด็นที่กรรมาธิการเองรวมถึงส.ส.-สว. ต่างก็ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันหลายเรื่อง ไม่ได้ตกผลึกไปในทางเดียวกันหมด แม้ต่อให้ทางกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขร่างกฎหมายทั้งสองฉบับ จะเคาะออกมาแล้ว

เช่นเรื่อง สูตรคำนวณสัดส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่แต่ละพรรคการเมืองจะได้รับหลังเลือกตั้ง ที่กรรมาธิการเคาะให้ใช้สูตรเอา 100 หาร เพราะเริ่มพบว่า สว.บางส่วน กำลังเคลื่อนไหวเพื่อเช็คกระแสว่า จะสามารถพลิกเกม ล้มเรื่่องสูตร 100 ในวาระสองได้หรือไม่ 

แต่เบื้องต้น สว.บางส่วน เช็คเสียงดูแล้ว พบว่า มีปัญหา เพราะเสียงสนับสนุนจากฝ่ายสว.แม้จะสามารถรวมเสียงกันได้ระดับไม่ต่ำกว่า 200 เสียง แต่ฝ่ายส.ส.พบว่าพรรคใหญ่-กลาง เช่น พลังประชารัฐ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา จับมือกันแน่นให้เอาสูตร 100 หาร เลยทำให้การเคลื่อนไหวเพื่อล้มสูตร 100 หาร ในวาระสอง น่าจะทำได้ยาก หากพรรคการเมืองไม่เอาด้วย อย่างไรก็ตาม ของแบบนี้ ต้องจับตาดูกันอย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีอะไรพลิกผันเกิดขึ้นก็ได้ แม้จะยากก็ตามที

ห้องประชุมสภา

นอกจากนี้ก็ยังมีกฎหมายสำคัญๆ หลายฉบับที่รอผลักดันให้ออกมาประกาศใช้ให้ทันในสมัยประชุมสภาฯรอบนี้ เช่น “ร่างแก้ไขพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ” ที่เป็นกฎหมายแม่ที่สำคัญที่สุดของวงการตำรวจ ที่ข่าวว่า กรรมาธิการของรัฐสภา เสียงแตกในหลายประเด็น เช่นเรื่อง “โครงสร้างของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ” (ก.ตร.) ที่เป็นบอร์ดอรหันต์ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กตำรวจระดับนายพลทั่วประเทศ

ท่ามกลางข่าวว่า มีการงัดข้อ-ประลองกำลังกันหลายยก ของกรรมาธิการจากฝ่ายต่างๆ ในการแก้ไขกฎหมายตำรวจ ฉบับนี้ จนมีการคาดการกันว่า ยามเมื่อที่ประชุมรัฐสภา พิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ คงใช้เวลาอภิปรายถกเถียงกันอย่างน้อยสองวันหรือสามวัน

แต่ว่าระยะใกล้สุด หลังเปิดสภาฯมา วาระที่ต้องจับตาก็คือ “การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ฯ 2566” ในวาระแรก เพราะขนาดครม.ยังไม่ส่งร่างฉบับเต็มของร่างพ.ร.บ.งบฯ ไปให้สภาฯ เพื่อให้ส.ส.ได้ศึกษาก่อนถึงวันประชุมฯสัปดาห์หน้าที่จะประชุมกันสามวัน 31 พ.ค.-2 มิ.ย. แต่พบว่า ฝ่ายค้านมีการออกมาโหมโรงแล้วว่า จะใช้เวทีสภาฯ “ชำแหละ-จัดหนัก” รัฐบาลในเรื่องการจัดสรรงบฯรอบนี้อย่างหนักแน่นอน

โดยเฉพาะพวกงบในกระทรวงที่จะอภิปรายไปถึงแกนนำรัฐบาลแต่ละกระทรวงได้ ซึ่งหลักๆ ก็มีอาทิเช่น “งบกระทรวงกลาโหม” ที่พล.อ.ประยุทธ์ นั่งควบนายกฯ-รมว.กลาโหม ยังไง…โดนอภิปรายหนักแน่นอน

เพราะตอนนี้ ฝ่ายค้านนำร่องมาแล้วว่าจะอภิปรายงบบางรายการของแต่ละกองทัพ เช่นที่ฉายหนังตัวอย่างออกมาแล้วก็คือ “งบของกองทัพอากาศ” ที่ตั้งงบอนุมัติ “งบซื้อเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่จำนวน 4 ลำ วงเงินกว่า 13,800 ล้านบาท” ซึ่งเป็นงบผูกพันงบประมาณปี 2566-2569

ที่แน่นอนว่า การอภิปรายงบกลาโหมอย่างหนัก ก็เพราะฝ่ายค้านหวังใช้เวทีนี้ ลากโยงไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะรมว.กลาโหมนั่นเอง

ลำพังแค่นี้ก็เห็นชัด เปิดสภาฯมาได้สัปดาห์เดียว “รัฐบาล-พล.อ.ประยุทธ์” ก็มีศึกหนัก…รออยู่แล้ว กับศึกอภิปรายงบประมาณรายจ่ายปี 2566 ที่เป็น “เวทีซ้อมย่อย” ของฝ่ายค้าน ก่อนถึงศึกซักฟอกกลางปีนี้ นั่นเอง            

………………….

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย.. พระจันทร์เสี้ยว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img