อุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤติ ปัจจัยสำคัญเกิดจากพฤติกรรมของคนไทย ซึ่งขาดระเบียบวินัย ขาดจิตสำนึกในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ก่อให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยเป็นจำนวนมาก
โดยศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน บน www.thairsc.com ระบุผู้เสียชีวิตสะสมและบาดเจ็บสะสมเฉพาะต้นปี 2566 ถึงวันที่ 19 ม.ค.2566 เสียชีวิตไปแล้ว 687 คน และบาดเจ็บ 30,862 คน เฉพาะ 19 ม.ค.วันเดียว เสียชีวิต 31 คนและบาดเจ็บ 2,005 คน
ก่อนหน้านั้น 21 ม.ค.65 เกิดอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ “หมอกระต่าย” พ.ญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกจักยานยนต์ชนขณะเดินข้ามทางม้าลาย บริเวณหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ กลางกรุงเทพฯ
เป็นเหตุให้ “หมอกระต่าย” เสียชีวิต เขย่าประชาชนและหน่วยงานเกี่ยวข้องตื่นตัวถึงมัจจุราชบนท้องถนนที่พร้อมเอาชีวิตของผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทุกวินาที
นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ซึ่งรณรงค์สร้างการตระหนักรู้เมาไม่ขับ ปักธงชงให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พิจารณากำหนดให้ 21 ม.ค.ของทุกปีเป็น “วันถนนปลอดภัยแห่งชาติ” ทันที
ครบรอบ 1 ปีเศษที่ “หมอกระต่าย” เสียชีวิต ครม.ไฟเขียว “21 ม.ค.2566 เป็นวันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน”
เพื่อปักหมุดหยุดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และไม่ให้เกิดเหตุการณ์รถชนคนข้ามทางม้าลายเกิดขึ้นซ้ำอีก
นับเป็นครั้งแรกที่สังคมไทยได้จังหวะกระตุ้นเตือน สร้างความตระหนักให้มีจิตสำนึกรักความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ถนนทุกเพศ ทุกวัย ผู้ขับขี่รถทุกประเภท
สิ่งสำคัญต้องช่วยกันส่งเสริม สร้างการรับรู้ให้เกิดเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัย มีระเบียบวินัยในการใช้รถ ใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
ป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนต่อไปอีก
โดยเฉพาะคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนหรือศปถ. ซึ่งมีรมว.มหาดไทย เป็นประธานโดยตำแหน่ง เป็นกลจักรสำคัญ เชื่อมกับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนนให้สำเร็จ
ดื่มไม่ขับ ง่วงงีบก่อนขับต่อ หยุดขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ล้วนเป็นสาเหตุหลักเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน นับจากนี้ต้องหมดไป
ถึงเวลาคนไทยร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนท้องถนนให้สำเร็จ รู้สิทธิ์และหน้าที่ของตัวเองบนท้องถนน นับเป็นอีกจุดเริ่มต้นหนึ่งของการปลุกจิตสำนึกสร้างประชาธิปไตยไปในตัว
ทุกคนใช้รถใช้ถนนปลอดภัย ประชาธิปไตยไทยก็เบ่งบานชัวร์
…………………………………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น