ปิดหีบการเลือกตั้งใหญ่ ประเทศไทยเจอทางตันดักรออยู่ข้างหน้า ขั้วการเมืองก้าวหน้าหรืออนุรักษ์ขึ้นมา ต่างต้องเผชิญอุปสรรคคนละแบบ
เพราะการเมืองแบ่งข้างแบ่งขั้ว เป็นปฏิปักษ์ต่อสู้โค่นล้มกันตลอดเวลา รัฐบาลไร้สมรรถภาพแก้โจทย์สถานการณ์ที่ยาก ซับซ้อน รวดเร็ว ผันผวน ประชาธิปไตยแบบเดิมไม่ได้ผลแล้ว “มหาตมะ คานธี เมืองไทย” นพ.ประเวศ วะสี ราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ผู้ที่เคลื่อนไหวแนวสันติวิธีมาตลอดชีวิตถึงกับต้องโรงเตือนทุกคน
และยังชี้ให้สังคมได้เห็นประเทศไทยติดอยู่ในหลุมดำแห่งวิกฤติการณ์เรื้อรังมาเกือบ 1 ศตวรรษ ทำอย่างไรก็ไต่ขึ้นจากหลุมได้ไม่ได้
แค่ภาพลักษณ์ของวงการตำรวจ สะท้อนผ่านคดีเว็บพนันออนไลน์ ขบวนการทุจริตวิซ่าเอื้อจีนเทาเอี่ยว 3 นายพลตำรวจ คดีรับสินบน ถึงขั้นไล่ออก “รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา” อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
เหตุการณ์นักการเมืองเล่นเกมการเมืองในสภาตลอด 4 ปี ประเทศไทยหยุดหมุน ภารกิจปฏิรูปประเทศทุกด้านของฝ่ายบริหารและรัฐสภาย่ำอยู่ที่เดิม
คดี 112 สองผู้ต้องหาเยาวชน “ตะวัน-แบม” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และอรวรรณ ภู่พงษ์ อดอาหารประท้วง เรียกร้องให้ศาลพิจารณาประกันตัวเพื่อน 8 ราย ทั้งหมดเป็นเยาวชนและเป็นนักศึกษา แม้ศาลสั่งปล่อยตัว “ตะวัน-แบม” ชั่วคราว
ชี้ให้เห็นว่า การเมืองและระบบราชการมีข้อจำกัดเยอะมาก ปิดศักยภาพของประเทศประดุจถูกมัดตราสัง เป็นโครงสร้างที่ขึ้นสนิม ไม่รองรับสถานการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศและบนโลกใบนี้
ระบบเก่า ๆ ภายใต้กฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่งกว่า 1 แสนฉบับถูกออกแบบมาควบคุมมากกว่า เป็นอุปสรรคต่อสมรรถนะใหม่ที่ต้องการความร่วมมือ ริเริ่ม ตัดสินใจเผชิญสถานการณ์พลิกผัน
“หมอประเวศ” จุดพลุเสนอพรรคการเมืองไทยทั้งหมด และคนไทยร่วมมือกันจนเกิดพลังมหาศาล พาชาติออกจากวิกฤติ พัฒนาประเทศสู่ความเจริญ
ขับเคลื่อนแบบประชาธิปไตย 2 ขา โดยขาแรก ซึ่งเป็นประชาธิปไตยแบบเก่าที่เป็นทางการก็ปล่อยให้ขับเคลื่อนไปเหมือนเดิม แน่นอนไม่คล่องตัว แก้ปัญหาไม่ได้ ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง
ขนาด “ทักษิณ ชินวัตร” ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ปี 44 ขึ้นเป็นนายกฯ ยังถึงกับหลุดว่า “กลุ้มใจ ฉิบหายเลยโว้ย ทำไอ้โน่นก็ไม่ได้ ทำไอ้นี้ก็ไม่ได้” ติดกฎระเบียบเต็มไปหมด
เลือกตั้งปี 66 พรรคเพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ก็ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ปี 44 ขับเคลื่อนประเทศไม่ได้ชัวร์
โดยเฉพาะสภาพสังคม การเมือง เศรษฐกิจ หลังโควิด-19 มีความผันผวน ผกผัน ซับซ้อน ยิ่งตอกย้ำให้เห็นระบบการเมืองและระบบราชการที่อุ้ยอ้าย รับมือสถานการณ์เหล่านี้ไม่ได้
“หมอประเวศ” แนะทุกฝ่ายถึงเวลาประเทศไทยต้องผลักดัน ขาสองคือร่วมกันทำสิ่งใหม่ที่ดี เป็นสายกลาง ไม่แยกข้างแยกขั้ว ไม่เป็นปฏิปักษ์ ทุกพรรครวมตัวร่วมคิดร่วมทำกับประชาชน ก้าวข้ามความขัดแย้งทุกชนิด ประเทศไทยเกิดพลังมหาศาล ทำอะไรสำเร็จทุกเรื่อง
ช่วยการเมืองเก่าที่มีข้อจำกัดมาก ประชาธิปไตยเก่าบูรณาการกับประชาธิปไตยใหม่ เป็นทางออกจากวิกฤติเรื้อรังของไทยและของโลก
เปรียบเหมือนการเมืองควอนตัม ซึ่งเป็นธรรมชาติการเมืองที่ไม่ตายตัว บูรณาการระหว่างประชาธิปไตยเก่ากับประชาธิปไตยใหม่ เป็นทางออกจากวิกฤตการณ์เรื้อรังของไทยและทั่วโลก
……………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย…#ราษฎรเต็มขั้น