“เลือกตั้ง-ปฏิวัติ” คอร์รัปชันก็เฟื่องฟู

จุดพลุสังคายนานโยบายปราบคอร์รัปชัน เสนอรัฐบาลชุดใหม่ จัดโดยสำนักข่าวอิศรา ฉลองครบรอบ 12 ปี กระเทาะเปลือกกลโกงในประเทศได้เห็นภาพ

พรรคการเมือง นโยบาย กลไกรัฐ กระจายก้อนเค้กแห่งผลประโยชน์สู่เครือข่าย ถึงผู้นำท้องถิ่น

พวกโกงชาติดูดเงินงบประมาณแผ่นเพียว ๆ ที่เป็นภาษีของประชาชนเฉลี่ยปีละ 3 แสนล้านบาท เกือบ 10% ของงบประมาณแผ่นดินแต่ละปี

ไม่นับผลประโยชน์ของผู้ใช้อำนาจที่ได้จากการออกกฎหมายเอื้อทุนใหญ่ และการได้สัมปทาน  สูบผลประโยชน์ชาติ… ดุดันไม่เกรงใจใคร !!

“สอดรับกับดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศ หรือ CPI (Corruption Perception Index) ย้อนหลัง 20 ปี คะแนนคงที่ 30-40 คะแนนตลอด แสดงว่าวิธีคอร์รัปชันไม่เปลี่ยนแปลง” ธานี ชัยวัฒน์ ผอ.ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุ

ระบบการเมืองไทยส่งผลต่อคอร์รัปชัน 100% ผ่านกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน โยกย้ายตำแหน่ง พอเปลี่ยนรัฐบาลก็เปลี่ยนเครือข่ายใหม่

“ปฏิวัติ ไม่ปฏิวัติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เคยมีความหวังว่าทุจริตมาก ๆ ปฏิวัติสักทีจะมีความหวัง ปฏิรูปให้เกิดความโปร่งใส่ แต่ 8 ปียังไม่เห็นปฏิรูปอะไรสำเร็จ” ประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) บอกให้เห็นนัย การโกงไม่มีแผ่ว

ลำพังองค์กรอิสระ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาคประชาชน วางระบบจัดการที่ดี แต่ยาแรงยังไม่พอ สยบเนื้อร้ายไม่อยู่

พลังของประชาชนเป็นทางออกที่ปั๊วปัง ช่วยเป็นหูเป็นตา คอยชี้เป้า แจ้งเบาะแส อีกไม่นาน สตง. ลุ้นรัฐบาลชุดใหม่อนุมัติงบประมาณ สร้างแอพพลิเคชันอำนวยความสะดวกให้ทุกคนช่วยรวมพลังปราบคอร์รัปชันให้สิ้นซาก

ถึงขั้นเทียบคดีคอร์รัปชันกับคดีแตงโม อดีตดาราดัง ที่ทุกฝ่ายสามัคคีเอกซเรย์ทุกรูขุมขน จนผู้ต้องหายืนอยู่ในสังคมยากลำบาก

ปรากฎการณ์ดังกล่าวอยากให้เกิดกับคดีคอร์รัปชันบ้าง เพื่อกำจัดพวกโกงชาติไม่มีที่ยืนอยู่บนแผ่นดินไทย

ในวงเสวนามีข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่ที่น่าสนใจ อาทิ อยากได้ผู้นำเข้ามาเปลี่ยนแปลงรื้อระบบเดิม สร้างระบบใหม่ เริ่มวางคนกล้าและดีเป็นหัวหน้าส่วนราชการ ระบบเข้าที่เมื่อไหร่รับรององค์กรอิสระ โดยเฉพาะป.ป.ช.แทบไร้ความหมาย ไม่มีก็ได้

และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องพิสูจน์ให้เห็นช่วงท้ายเทอมรัฐบาลก่อนมีการเลือกตั้งใหญ่ ถึงความโปร่งใส

ก้อนหินทดสอบทองแท้  24 ก.พ.นี้ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) นัดชี้ชะตาโครงการเอกชนร่วมลุงทุนปทุมธานี-รังสิตของการประปาส่วนภูมิภาค

เพื่อแก้ไขสัญญาให้เอกชนได้สิทธิดำเนินการผลิต-จำหน่ายน้ำประปาต่อไปอีก 20 ปี รัฐเสียหาย 3 หมื่นล้านบาท

ว่ากันว่า แลกกับเศษเงิน 300 ล้านบาทและคฤหาสถ์หรู 1 หลังที่ตั้งตระหง่านอยู่ต่างประเทศ โดยไม่เกรงกลัวป.ป.ช. ที่ตีหน้ายักษ์ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย เป็นข้อเสนอแนะและป้องกันการทุจริตไปแล้ว

ตบตูดด้วยหนังสือจากสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำทับตามเอกสารของ ป.ป.ช. ไปยังกระทรวงมหาดไทยอีกรอบ

อย่าเข้าทำนองหัวส่าย-หางกระดิก คอร์รัปชันถึงบานเป็นดอกเห็ด

………………………………………….

คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก

โดย #ราษฎรเต็มขั้น