14 พ.ค.66 ชี้ชะตาประเทศไทย จะได้เห็นโฉมหน้าแคนดิเดตนายกฯ ตัวจริงกันเสียทีว่า ใครมีโอกาสได้ขึ้นเป็น “ผู้นำคนที่ 30”
แน่นอนสปอร์ตไลท์โฟกัสไปที่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
ทั้ง 2 คนถูกวางตัวขึ้นบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 และเบอร์ 2 ตามลำดับ และคนที่สามเป็นใครไม่สำคัญ เพราะดูตามท้องเรื่องแล้ว ต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติที่ไม่โดดเด่น หรือหวือหวาเท่า 2 คนแรก
ฟังดู “โทนี่-ทักษิณ ชินวัตร” พลิกมุมคิดในเรื่องนี้ว่า ใครเหมาะสมขึ้นเป็นผู้นำประเทศคนต่อไป อธิบายทำนองใครขึ้นเป็นก็ได้ สุดท้ายทิ้งมุก พรรคเพื่อไทยอาจจับฉลากว่า “อุ๊งอิ๊งหรือเสี่ยนิด” ใครจะไปต่อ
ประเด็นคือ พรรคเพื่อไทย สถาปนาตัวเองเป็นสถาบันทางการเมือง บริหารจัดการภายในแบบประชาธิปไตย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคที่ตัดสินใจ
คำถามคือ ทุกพรรควางตัวแคนดิเดตนายกฯ เป็นระดับหัวหน้าพรรค ยกเว้น พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถูกฝ่ายอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย ย้ำตลอดว่า พรรคนี้ต่อท่ออำนาจ คสช.
“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ถูกวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ถูกมองติดลบอย่างไร เชื่อว่าทุกคนเข้าใจได้
แต่พรรคเพื่อไทยสลัดธรรมเนียมสถาบันการเมืองตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เบี่ยงวางตัวหัวหน้าพรรค หรือแม่ทัพใหญ่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ
นั่นหมายความว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ที่มีหัวหน้าพรรคเป็นประธาน ต้องถูกตั้งคำถามว่า เป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจจริงหรือเป็นแค่นอมินีของใครกันแน่
“พรรคเพื่อไทยไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว บุคลากรของพรรคเพื่อไทยล้วนเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยม มีความรู้ความสามารถ” “เสี่ยนิด-เศรษฐา” แจงแทน “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร”
ซึ่งเป็นคำถามของนักข่าวต่างประเทศ ถามถึงความกังวลตอกย้ำภาพความเป็นพรรคของครอบครัวชินวัตร ทำให้ “อุ๊งอิ๊ง” ส่งไมโครโฟนให้ “เสี่ยนิด” ตอบคำถามแทน
แม้ “เสี่ยนิด” ผายมือไปยังที่นั่งของคณะกรรมการบริหารพรรค และผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งในวันเปิดตัว 400 เขต แต่คำตอบของ “เสี่ยนิด” ไม่เคลียร์คัตชัดเจน
หากบอร์ดพรรคมีอำนาจจริงเสียงจริง ไม่เป็นนอมินีหรือร่างทรงของใคร ผมเห็นว่าแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 3 ต้องมีชื่อของ “นพ.ชลน่าน”
ยังพอมีเวลาที่กว่าจะถึงวันเปิดรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ บอร์ดพรรคเพื่อไทยถึงเวลายึดอำนาจ แสดงให้สมกับเป็นสถาบันการเมือง และยืนอยู่ฝ่ายที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตยจริง
ไม่เช่นนั้นข้อกล่าวที่โยนระเบิดให้ฝ่ายตรงข้าม เท่ากับประฌามตัวเอง
…………………………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น