“วาระประเทศ-วาระประชาชน ในสถานกาณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ จำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลชุดพิเศษ”
พรรคเพื่อไทย โดย “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองหัวหน้าพรรค ตัวหลักประสานงาน สส.-สว. และเป็นจานดาวเทียมคอยรับสัญญาณพิเศษจากทุกกลุ่ม ท่องคาถานี้มาตลอด 1 สัปดาห์เต็ม
บนสถานการณ์ของประเทศไทยอยู่ในช่วงบรรยากาศแห่งความหวัง ชนิดที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่สัมผัสได้
ทันทีที่ “ปิดดีลข้ามขั้ว” สำเร็จ โดยระดับ เจ้าของพรรคเพื่อไทย และ เจ้าของพรรคภูมิใจไทย เปิดแถลงโชว์ที่พรรคเพื่อไทย ดีลมินต์ช็อก เปิดประตูสลายขั้วทางการเมือง
ไม่มีพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมที่ฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียง และไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่มี 188 เสียง
ข้อเสนอที่พูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย “ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลง ภูมิใจไทยสนับสนุนแคนดิเดิตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงจุดที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ แม้แต่ชื่อ คุณเศรษฐา ทวีสิน เพื่อไทยไม่ได้ระบุมา” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชี้ให้เห็นภาพที่พรรคเพื่อไทยยังไม่เคาะชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากเพื่อไทย
เป็นจังหวะที่ “ชูวิทย ์ กมลวิศิษฎ์” อดีตนักการเมือง เปิดปฏิบัติการดับเครื่องชน “เศรษฐา” ขยายผลฉีกแผลทำนิติกรรมอำพราง หลบเลี่ยงภาษีที่ดินบริษัทยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์
ชนักปักกลางหลัง แล้วส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่ดิน มีเอี่ยวช่วยบริษัทยักษ์ใหญ่เลี่ยงภาษี ตามด้วยยื่นกรมสรรพากรเอกซเรย์ซ้ำอีกดอก
และมีมือดีตามขยี้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา สอบปมร้อนฉ่า
เขย่าหลายกระทอก เพื่อชี้ให้เห็นว่า ขาดคุณสมบัติขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องมีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต อย่างน้อยมี สว.บางกลุ่มต้าน เสี่ยงไม่ผ่านด่าน 376 เสียง
ระดับพรรคเพื่อไทย ป่าวประกาศมาตลอดโหวตนายกฯ ม้วนเดียวจบ แม้ภูมิใจนำเสนอชื่อ “เศรษฐา” มาตลอด
สังคมก็มาเอะใจตอนที่ “อนุทิน” เปิดผลดีลมินต์ช็อก
นับเป็นเข็มทิศชี้ให้เห็นว่า เตรียมเปลี่ยนชื่อวินาทีสุดท้ายก่อนโหวตนายกฯ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นข้อบังคับที่ 41 เป็นญัตติ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ เพื่อไม่ให้กระเพื่อมเกิดแรงต่อต้าน
ฉะนั้นโฉมหน้ารัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยได้ ต้องการเปิดทางให้พรรคก้าวไกลทำการเมืองมิติใหม่ โหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย แต่ไปเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว เพื่อเปิด ปิดสวิตซ์ สว.-ปิดสวิตซ์ 2 ลุง และเปิดโอกาสได้ รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
แต่พรรคก้าวไกลยังไม่ตกผลึก พรรคเพื่อไทยถึงเปิดไพ่ไฟเขียวดึง “พรรค 2 ลุง” ร่วมโหวตนายกฯ คนที่ 30 ให้รู้แล้วรู้รอดไป
เพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดสุดพิเศษ ตอบโจทย์วาระประเทศ วาระประชาชน
…………………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น