“รัฐบาลสลายขั้ว” เผยโฉมให้เห็นชัดเจนทันที เมื่อระดับทีมเจรจาระหว่าง 2 ขั้ว พรรคเพื่อไทย กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดดีลเป็นทางการ
เห็นร่วมกันขอก้าวข้ามประวัติศาสตร์ความขัดแย้ง ยอมรับเงื่อนไขพิเศษซึ่งกันและกัน โดยพรรคเพื่อไทยยืนยันไม่มี พรรคก้าวไกล ที่มีนโยบายแก้มาตรา 112 เข้าร่วมรัฐบาล
ใครเคยเห็นภาพเก่าๆ ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หรือลากให้ยาวออกไป ก็ช่วงที่พรรคเพื่อไทยถลกหนังอภิปรายไม่ไว้วางใจครม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดุเดือดเลือดท่วมจอ ชนิดผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ ระหว่าง “พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย”-“พรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ”-“พรรคเพื่อไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ”
ถึงขั้นมีคำสั่งเด็ดขาดจากเจ้าของพรรค และทุนใหญ่ที่ลงขัน หัวเด็ดตีนขาดไม่เอาพรรคภูมิใจไทยร่วมสังฆกรรมเป็นรัฐบาลด้วย
แกนนำระดับมือดีล 2-3 ในพรรคเพื่อไทยก็พูดทำนอง ไม่เอาพรรค 2 ลุงทั้งในที่ลับ และที่แจ้ง
ตามท้องเรื่องชี้ให้เห็นระดับ “มือดีลลับ” ปิดจ๊อบล่วงหน้าก่อนเลือกตั้ง 1 สเต็ป คือ เขียนบทให้พรรครวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาล และ ปิดจ๊อบหลังเลือกตั้งอีก 1 สเต็ป เพิ่มบทขอขมา เปิดให้พรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมได้
โดยที่ “มือดีลในที่แจ้ง” ของพรรคเพื่อไทย รอรับมุกจาก “ผู้มีบารมี” อย่างน้อย 3 คน เพื่อเปิดต่อสาธารณะและทำความเข้าใจกับบรรดาสส.ในพรรค รวมถึงแฟนคลับ เป็นที่มาของฉายา “เพื่อไทยการละคร”
บรรทัดนี้ขอบอกว่า ระบอบประชาธิปไตย ที่ผลิตวาทะกรรมห้ำหั่นชนิดเอาเป็นเอาตาย ใครยืนอยู่ข้างนี้เป็นขาว-ใครยื่นอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นดำ เพื่อเป็นเครื่องมือปั่นมวลชนให้นิยมชมชอบ
ทั้งที่ประชาธิปไตยทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย มันคือกระบวนการแชร์ผลประโยชน์ให้กับกลุ่มต่างๆ ในสังคม ในประเทศนั้นอย่างลงตัว สมดุล
จังหวะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังอยู่ในกระบวนการแชร์ผลประโยชน์ให้กับทุกกลุ่มอย่างลงตัว ในฐานะถูกมอบหมายให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ พรรคก้าวไกล การแสดงถูกวางบทให้เป็นฝ่ายค้าน และมีพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเล่นบทถนัดช่วยเสริมตรวจสอบรัฐบาลอีกแรง
โดยพรรคร่วมรัฐบาลมี 317 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 2 เสียง และพรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคใหม่ พรรคประชาธิปไตยใหม่ อีก 6 เสียง
พรรคร่วมฝ่ายค้านมี 181 เสียง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 149 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง พรรคเป็นธรรม 1 เสียง
พรรคเพื่อไทย ต้องการเสียงสว.สนับสนุนอีกแค่ 58 คน แคนดิเดตนายกฯ ถึงผ่านด่านที่ประชุมรัฐสภา 375 เสียง ซึ่งไม่ใช่ปัญหา
ระดับมือประสานสิบทิศที่อยู่ในพรรคช่วยกันออกแรงคนละไม้คนละมือ และยังมี “พลังพิเศษ” จาก พรรครวมไทยสร้างชาติ สามารถส่งสัญญาณถึงกลุ่มสว.ช่วยโหวตให้ผ่านฉลุยจากพรรคร่วมไทยสร้างชาติ สามารถส่งสัญญาณถึงกลุ่มสว.ช่วยโหวตให้ผ่านฉลุย
22 ส.ค.66 โอกาสประเทศไทยอาจมีนายกฯหญิง ที่ชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร
……………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
#ราษฎรเต็มขั้น