รัฐบาลสลายขั้ว นำโดย พรรคเพื่อไทย จัดตั้งเรียบร้อย โดย “นายกฯก้านยาว-เศรษฐา ทวีสิน” และรัฐมนตรีอีก 35 คน โฉมหน้าหล่อเหลาหรือเต้าหู้ยี้ อยู่ที่การโชว์ฝีมือบริหารนับตั้งแต่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาที่กำลังเกิดขึ้น
หนึ่งในนโยบายที่บรรดพรรคหลักร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่มี คือ “ต้านโกง” เพื่อให้การบริหารงานทุกกระทรวง ทุกองค์กรของรัฐโปร่งใส ไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน
นำโดย พรรคเพื่อไทย สนับสนุน Open Government ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล-ชำระค่าธรรมเนียมระบบอิเล็กทรอนิกส์ ลดทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง-ปราบคอร์รัปชันตั้งแต่บนลงลงล่าง-เครือข่ายประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมปราบปราบในพื้นที่ระดับหมู่บ้าน
พรรคพลังประชารัฐ เน้นนโยบายสังคมสีขาว-ลดการใช้ดุลยพินิจในระบบราชการ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ-เพิ่มโทษนักการเมืองทุจริตเป็น 2 เท่า
พรรครวมไทยสร้างชาติ ปล่อยทีเด็ดชูนโยบายปราบปรามคอร์รัปชันเป็นอันดับ 1 ของพรรค-สังคายนากฎหมาย และระเบียบที่เป็นช่องว่างของการทุจริตในการบริหารราชการ
เมื่อผนึกพลังกับฝ่ายค้าน นำโดย พรรคก้าวไกล ชู “รัฐโปร่งใสไร้กลโกง” เน้นเปิดข้อมูลรัฐทันที ประชาชนเป็นเจ้าของ ซึ่งรัฐมีหน้าที่คุ้มครองสิทธิให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล รัฐต้องเปิดข้อมูลเป็นหลัก รวมถึง “ความลับราชการ” ต้องกำหนดวันเปิดเผย ไม่เป็นความลับตลอดไป
พร้อมมีระบบจับโกงอัจฉริยะ เมื่อข้อมูลเปิด ระบบจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์แบบ real time ปักธงแดง เพื่อให้ประชาชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ
และ ออกกฎหมายคุ้มครองคนที่ออกมาแฉ หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดกันทุจริตก่อน ให้ได้รับการลดโทษหรือกันเป็นพยาน ภายใต้โครงการคนโกงวงแตก จูงใจให้คนคิดที่จะโกงระแวงกันเอง
เช่นเดียวกับ พรรคประชาธิปัตย์ พยายามผลักดันให้การแก้ปัญหาคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติเร่ง ด่วน
“ราษฎรเต็มขั้น” ยกตัวอย่างพรรคหลัก ๆ ทวนความจำ โดยเฉพาะสะกิดต่อมต้านโกงของพรรค
เพื่อไทย แสดงความบริสุทธิ์ใจ และทำการเมืองมิติใหม่ ถือฤกษ์ 7 ก.ย. ประเดิมให้ฝ่ายค้านเลือกตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญ 35 คณะก่อน
โดยไม่ต้องใช้วิธีการจับสลาก เพื่อให้สส.ของพรรคตัวเองไปนั่งประธานคณะกรรมาธิการฯ ที่ตรงกับรัฐมนตรีในพรรคบริหารกระทรวงนั้นอยู่
เช่น พรรคเพื่อไทย คุณเศรษฐา ทวีสิน นั่งรมว.คลัง ต้องเปิดให้สส.พรรคก้าวไกล หรือสส.พรรคประชาธิปัตย์ นั่งประธานคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณแผ่นดิน
เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย เปิดศักราชสร้างทำเนียมการเลือกประธานคณะกรรมาธิการฯ แบบนี้ก่อน และร่วมกันยกร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ล็อกเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการชุดสำคัญที่มีอำนาจ และหน้าที่ตรวจสอบได้ทุกกระทรวงโดยอัตโนมัติ
กำหนดตายตัว สส.ฝ่ายค้านต้องเป็นประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณ คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการปกครอง เพื่อประเดิมมิติการเมืองใหม่
หากพรรคเพื่อไทย ไม่เป็นฝ่ายเริ่มเรื่องนี้ก่อน รับรองพลิกฟื้นศรัทธา และต้นทุนการเมืองที่สูญเสียไปจากการตระบัดสัตย์เพื่อชาติ กลับมาได้ยากลำบาก
………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย..“ราษฎรเต็มขั้น”