หน้าแรกCOLUMNISTSโหนกระแส“ชาตินิยม”จนถึงเลือกตั้ง!!! แต่ทำไม???...“โลก(ยัง)ล้อมไทย”อยู่

โหนกระแส“ชาตินิยม”จนถึงเลือกตั้ง!!! แต่ทำไม???…“โลก(ยัง)ล้อมไทย”อยู่

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ปิดจบก่อนสิ้นปี 68 หรือไม่…กรณีเหตุการณ์สงครามชายแดนไทย-กัมพูชา ท่ามกลางรอลุ้นจนถึงวันที่ 20 ม.ค.69 และมีโอกาสลากยาวจนถึงวันเลือกตั้ง 8 ก.พ.69 ทั้งหมดขึ้นอยู่กับวันชี้ขาด 27 ธ.ค.68 ผลประชุมคณะกรรมการชายแดนไทยทั่วไป (GBC)

แต่ระหว่างประชุมระดับฝ่ายเลขานุการ GBC “พล.อ.เตีย เซรฮา” รมว.กลาโหมเขมร ทิ้งไพ่ถึง “บิ๊กเล็ก-พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” รมว.กลาโหมไทย ทำนองสนับสนุนการประชุมระดับทวิภาคี แต่สไตล์จิ้งจอก เล่นสงครามประสาท เสนอสถานที่ประชุมให้ย้ายจากไทยไปมาเลเซีย อ้างเป็นแหล่งปลอดภัย เป็นกลาง ขืนประชุมที่จ.จันทบุรี ย่อมผวาความปลอดภัยจากเหตุสู้รบตามตะเข็บชายแดนที่ยังปะทุไม่หยุด

โดยขีดเส้นผลเจรจาต้องยุติการสู้รบทั้งหมดโดยทันที กลับไปสู่จุดนับหนึ่งใหม่ให้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 28 ก.ค.68 รวมถึงปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์ 26 ต.ค.68 เพื่อเปิดประตูให้กลไกที่มีอยู่ภายใต้กรอบปฏิญญาขับเคลื่อนต่อ ที่มีทั้งกำหนดเขตแดน เก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อมนุษยธรรม แถมเปิดให้ผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ (AOT) รับรองการดำเนินการทั้งหมด

“บิ๊กเล็ก” เล่นบทกร้าว ตีไพ่เกทับ ปฏฺิเสธข้อเสนอทั้งหมดไป ขีดเส้นเจรจากในประเทศไทยเท่านั้น ผลเจรจาลงเอยถึงขั้นสะเด็ดน้ำ รมว.กลาโหม 2 ฝ่ายจรดปลายปากกาเซ็นก็กลับไปสู่การเดินตามข้อตกลงหยุดยิง 28 ก.ค.68 และปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์

แต่ไทยที่ได้เบ่งกล้ามโชว์แสนยานุภาพทางกองทัพ กระแสชาตินิยมจุดติดพรึบอีกครั้ง กองเชียร์ส่งเสียงดังกระหึ่มรอบทิศ โดยทุกฝ่ายมั่นใจชนะทุกมิติ ทั้งใช้กำลัง-ขุดลากถอนโคนสแกมเมอร์-โลกล้อมกัมพูชา

ปรากฏว่า ดอกแรกเจอชาติยักษ์ใหญ่ “อินเดีย” ร่อนแถลงการณ์ตำหนิกองทัพไทย ที่รื้อถอนรูปปั้นเทพเจ้าฮินดูหรือนักรบแปดมือ ในพื้นที่ช่องอาน ที่ทำลายความรู้สึกของผู้ศรัทธา

พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช

ก่อนหน้า “บิ๊กเล็ก” จงใจเปิดให้คนไทยได้รับรู้ถึง สถานะไทยที่ถูกโดดเดียวบนเวทีโลก ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ประชาคมโลกให้น้ำหนักกัมพูชามากกว่า โดยมองไทยในฐานะประเทศที่ใหญ่กว่า ไปรุกรานประเทศที่เล็กกว่า โดย ไม่มีประเทศใดประณามกัมพูชาวางทุนระเบิดในเขตไทย กลับกดดันให้ไทยลดความรุนแรง ภาพลักษณ์ไทยในสายตาต่างชาติกลายเป็นผู้ร้ายไปเสียฉิบ

แม้ไทยยึดกฎหมายระหว่างประเทศเป็นเกราะกำบัง ทั้งกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ 51 ที่เน้นย้ำสิทธิป้องกันตนเอง เพื่อยืนยันต่อชาวโลกว่าไทยมาถูกทาง ที่ใช้กฎหมายสยบความขัดแย้ง แทนใช้กำลังทหารเพียงอย่างเดียว

ถึงมีคำถามตามมาว่า สัญญาณที่ “บิ๊กเล็ก” ปล่อยออกมา เป็นความแตกหักระหว่างกองทัพกับรัฐบาล หรือต้องการกระตุกรัฐบาลกันแน่ ดูทรงคงต้องการชี้ให้เห็นว่า กองทัพแสดงจุดยืนที่เข้มแข็ง เพื่อส่งสัญญาณถึงปวงชนชาวไทยว่า กองทัพ กระทรวงกลาโหมยังทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่

พร้อมสะกิดรัฐบาลให้ใช้ความระมัดระวังในการเจรจา หรือดำเนินการนโยบายใด ๆ ที่อาจทำให้ไทยเสียเปรียบในระดับสากลมากขึ้น ตอกย้ำยามขาดพันธมิตรในเวทีโลก ต้องหันหน้าใช้ความชอบธรรมทางกฎหมาย เป็นเครื่องมือในการต่อสู้

ถึงได้เห็นภาพ “พรรคภูมิใจไทย” พลิกเกม ส่งกระบี่มือหนึ่งด้านต่างประเทศ “สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” ขึ้นทำเนียบฯแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 2 ต่อจาก “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล”

ปล่อยมือให้ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์-เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” สองขุนพลด้านเศรษฐกิจ ค่อยเสริมทัพหลังค่ายน้ำเงินชนะเลือกตั้งจัดตั้งรัฐบาลได้เบิ้ลอีกสมัย

ดูทรง “กระแสชาตินิยม” คงหล่อเลี้ยงลากยาวถึงวันเลือกตั้ง อย่างน้อย…ต้องเปิดนโยบายฉีก MOU 43-44 ปลุกไฟ “โคตรรักชาติ” ให้ลุกโชติช่วงชัชวาล หวังล้ม “ค่ายส้ม” ให้อยู่หมัด

……………………………………….

คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก

โดย #ราษฎรเต็มขั้น

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img