“เพื่อไทย”แข็งโป๊ก ตั้งหลักชน“ก้าวไกล”

พรรคเพื่อไทย ถ่ายเลือดใหม่ ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างมือเก๋าประสบการณ์ คนรุ่นกลาง และเสริมทัพคนรุ่นใหม่เข้ามาได้อย่างเหมาะเจาะ 

ปรับแบรนด์ใหม่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลงสมรภูมิการเมืองตัวจริงขึ้นเป็นแม่ทัพคนใหม่ ที่ได้ดีเอ็นเอ “โทนี” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้เป็นพ่อ และ “คุณหญิงอ้อ” คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ผู้เป็นแม่ มาเต็มๆ 

ประกาศนำพรรคกลับมาขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในหัวใจประชาชน โดยขยับสานต่ออุดมการณ์ ฟื้นศรัทธาให้เฟื่องฟูและเป็นแบ็คอัพให้รัฐบาลเศรษฐา มีสมาธิลุยงานบริหารราชการแผ่นดินตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยยึดสโลแกนเดิม “ตาดูดาว เท้าติดดิน” ยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนอย่างเข้มแข็ง มั่นคง 

ต้องยอมรับกันตรงๆ สภาพภายในพรรคเพื่อไทยมีปัญหาการสื่อสารภายใน เกิดหลายกลุ่มก๊วน ได้รับข้อมูลข่าวสารมากภายในมากน้อยต่างกันไป แม้ไม่ได้เป็นกลุ่มการเมืองที่มีอิทธิฤิทธิ์เหมือนยุคก่อนๆ แต่ทำให้พรรคอ่อนแอ 

พอถ่ายเลือดปุ๊บ แม่ทัพก็เตรียมสร้างองค์กรแนวราบ เปิดประตูให้ทุกคนมีส่วนร่วม เกิดกระบวนการตัดสินใจที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ 

ลูกพรรคกระชุ่มกระชวยทันตาเห็น เริ่มเห็นอนาคตที่สดใสในอีก 4 ปีข้างหน้า ที่มีโอกาสสูงทวงคืนกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง หลังจากเสียทีให้พรรคก้าวไกลในศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา 

หากใครจำกันได้ในชั่วโมงแรกที่ “อุ๊งอิ๊ง” นั่งประธานที่ปรึกษาด้านการเมืองส่วนร่วม และนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย วินาทีนั้นพรรคก้าวไกลปั่นป่วนทันที เพราะถูกแชร์ฐานเสียงคนรุ่นใหม่ไปพอสมควร ผลสำรวจโพลออกมา พรรคเพื่อไทย และ “อุ๊งอิ๊ง” คะแนนนำโด่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ 

เพิ่งมาเสียทีโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ปมเหตุหลักมาจากพรรคเพื่อไทยตอบไม่เคลียร์คัตไม่ชัดเจนจับมือ “2 ลุง” ตั้งรัฐบาล คือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 

ฉะนั้นผลการถ่ายเลือกครั้งนี้ แน่นอนพรรคเพื่อไทยแข็งโป๊ก แต่รัฐบาลตกอยู่ในสภาพที่ปั่นป่วน ทั้งเผชิญความผันผวนขอสถานการณ์โลกด้านเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ  

และยังตกอยู่ในสภาพพรรคร่วมรัฐบาลที่นิ่ง เพราะถูกกดด้วยอำนาจพิเศษ เป็นไปตามที่ “ต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกต “ประยุทธคิด เศรษฐาทำ ไอ้โม่งสั่ง” 

แต่ก้าวไกลพรรคอันดับหนึ่ง ที่เปิดเกมฝ่ายค้านเชิงรุกเต็มตัว ถึงวันนี้ก็ยังตั้งหลักไม่ได้ หลัง “ต๋อม” ชัยธวัช ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค เพราะไฟต์บังคับถูกผลักขึ้นมาขัดตาทัพ  

ภาระหนักอึ้งส่วนใหญ่ตกอยู่ที่แม่ทัพคนเดียว แทบไม่มีเวลาวางเกม และทำงานอยู่เบื้องหลังที่เป็นบทถนัดของตัวเอง  

ปัญหาภายในยังปั่นป่วน สส.150 คนส่วนใหญ่ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ยังเอาไม่อยู่ เปิดเทอมสภา เข้าค่ายละลายพฤติกรรมกันใหม่ เพื่อทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มตัวในสมัยประชุมสภาหน้า 

เพื่อไทยแข็งโป๊ก ปรับทัพครั้งนี้อยู่ยาวจนถึงวันเลือกตั้ง แต่ผลงานของรัฐบาลต้องรอเวลาพิสูจน์ 

ก้าวไกลอ่อนยวบ รอปรับทัพใหญ่อีกครั้งก่อนเลือกตั้ง และรอดูผลงานฝ่ายค้านเชิงรุกเข้าเป้าแค่ไหน 

วินาทีนี้ดูไม่ออกจริงๆ ระหว่างพรรคเพื่อไทยหากไม่ถืออำนาจรัฐกับพรรคก้าวไกล ใครถือแต้มต่อทางการเมือง

……………..

คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก 

โดย…. “ราษฎรเต็มขั้น”