วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSกู้เงิน 5 แสนล้านเพื่อบริโภค “หายนะ”ประเทศไทย???
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

กู้เงิน 5 แสนล้านเพื่อบริโภค “หายนะ”ประเทศไทย???

60 วันจากนโยบายสู่ลงมือทำของ “รัฐบาลก้านยาว” นำโดย “เศรษฐา ทวีสิน” ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เข้ามาเผชิญหน้ากับวิกฤติใหม่ที่ระเบิดตูมๆ พอดี 

ทั้ง ส่วยทางหลวง ศึกในวงการสีกากี เยาวชนยิงกลางห้างใหญ่กลางกรุง และสถานการณ์ตะวันออกกลาง 

ผลงานที่รัฐบาลโชว์ให้เห็น เน้น 3 Quick Win ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้และขยายโอกาส เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สำรวจดูนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา นับว่าผลงานตรงปก 

อาทิ คลอดมาตรการเร่งด่วนระยะสั้นลดรายจ่ายให้ประชาชน ลดค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 10% ปรับลดราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล แต่ทำไมต้นทุนอาหารที่ขยับขึ้นก่อนหน้านี้ กลไกรัฐถึงไม่ใช้มาตรการเด็ดขาด สั่งให้ลดตามราคาต้นทุนที่ลดลง  

ขณะที่อีกมุมมองเห็นว่า รัฐบาลเดินเกมผิดที่สั่งให้ทบทวนงบประมาณปี 67 ใหม่ ปฏิทินงบเลื่อนออกไปโดยปริยาย การใช้งบล่าช้า กว่าจะเปิดหวอใช้ก็เข้าไปเดือนเม.ย.หรือพ.ค.67 

เกมนี้รัฐบาลหวังเกลี่ยงบใส่นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต แต่ผิดคาด เกลี่ยไปเกลี่ยมาทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่มีงบเหลือนำมาใช้สำหรับนโยบายนี้  

ซ้ำเติมสถานการณ์ที่เศรษฐกิจกำลังแย่ เพราะรัฐบาลไม่มุ่งเบิกจ่ายภาครัฐ เน้น Quick Win กระตุ้นเศรษฐกิจ 

เตือนความจำนายกฯอีกครั้ง ที่เคยประกาศต่อสาธาณะกลางเวทีสภา โดยชี้ให้เห็น สภาพเศรษฐกิจไทยเปรียบเหมือนคนป่วย  

จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้จ่าย เพิ่มความเชื่อมั่นเพื่อดึงดูดการลงทุน ฟื้นฟูเครื่องยนต์เศรษฐกิจ 

นโยบายเดิมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต จะทำหน้าที่เป็นตัวจุดชนวนกระตุกเศรษฐกิจประเทศให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง 

คำถามคือเงิน 5.6 แสนล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือ สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา อัดงบมากกว่าถึง 3 เท่า ยังกระตุ้นไม่ขึ้น จีดีพีไม่โต 

แต่วันที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มั่นใจถึงพลังทุ่มหมดหน้าตัก เติมเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง กระจายไปยังทุกพื้นที่ให้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้ถึงฐานราก 

หวังให้เกิดจับจ่ายใช้สอย ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสประชาชนประกอบอาชีพ ภาคธุรกิจขยายการลงทุน ขยายกิจการ เกิดผลผลิตสินค้ามากขึ้น 

แน่นอนเกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ เกิดหมุนเวียนกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกหลายรอบ สุดท้ายรัฐบาลได้รับผลตอบแทนคืนในรูปของภาษี 

“ที่สำคัญนโยบายนี้จะวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้ประเทศ เตรียมพร้อมให้เข้าสู่เศรษฐกิจใหม่ สร้างโอกาสใหม่ใหประชาชน เปิดประตูให้ภาคธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใส ให้กับกลไกการชำระเงินของระบบเศรษฐกิจและรัฐบาล” นายกฯระบุชัด 11 ก.ย.66 

ภาพเบลอๆ มาตลอดของนโยบายร้อน ชัดเจนแต่ไม่ตรงปก เมื่อนายกฯก้าวยาวชี้แจงละเอียดยิบ ทั้งแหล่งที่มาของเงิน เดิมย้ำไม่กู้ มาวันนี้ต้อง “กู้เงินเพื่อแจกบริโภค” ในภาวะปกติต้องกู้มาเพื่อลงทุนเท่านั้น   

เป้าหมายแจกจากคนอายุ 16 ปีขึ้นไป วันนี้ตั้งเกณฑ์คนที่รายได้ต่ำกว่า 7 หมื่นบาทต่อเดือนและเงินรวมทุกบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท  

มองทุกมิติแล้วรู้สึกผิดหวัง ไม่เห็นภาพตามที่รัฐบาลต้องการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสู่รัฐบาลดิจิทัลและสนับสนุนดิจิทัลบาทของธปท. เพื่อเปิดประตูสู่เศรษฐกิจดิจิทัล 

ตามดูต่อไปว่า เป็นหายนะหรืออนาคตประเทศไทย ตามสไตล์คิดใหญ่ ทำไม่เป็น

……………………………..

คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก

โดย #ราษฎรเต็มขั้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img