ปลดล็อกโซลารูฟท็อป เป็นเสียงสะท้อนของประชาชนผ่านไปยังสส.ผู้แทนของปวงชนชาวไทย เพื่อให้รัฐบาลออกมาตรการเอื้อต่อการติดตั้งโซลารูฟท็อป ในยุคราคาพลังงานน้ำมัน ไฟฟ้า แก๊ส แพง
มีทั้งตั้งกระทู้ถามสดรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง กลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาค่าไฟแพงถาวร ตลอดกาล
และ “รัฐบาลเพื่อไทย” เข้ามาใหม่ๆ “พีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค” รมว.พลังงาน ตั้งคณะกรรมการรื้อโครงสร้างพลังงานทั้งระบบ แก้ปัญหาในระยาว
อย่างน้อยรัฐ โดย กรมธุรกิจพลังงาน ต้องหยุดเหวี่ยงแหอุ้มราคาก๊าซแอลพีจี น้ำมันดีเซล โดยออกแบบระบบดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบข้อมูลต่างๆ เชื่อมโยงกันได้หมดโดยไม่ผ่าน “คนกลาง” จดบันทึกว่า ใครมีพลังงานอยู่เท่าไหร่ ระบบนี้ต้องง่าย สะดวก ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้
1.เพื่อสนับสนุนราคาก๊าชแอลพีจี ทำแบบขั้นบันได ยิงตรงไปครัวเรือน ไม่เหวี่ยงแห ลดเงินอุดหนุนลงได้มาก ตรงนี้ปรับไปใช้น้ำมันดีเซล เพื่อการเกษตร ยิงตรงไปถึงเกษตรกรแบบไม่เหวี่ยงแห เอาไปปรับใช้กับเรือประมงได้ด้วย
2.สามารถตรวจสอบสำรองแก๊สตามกฎหมายได้ถูกต้องแม่นยำตลอดเวลา
3.สามารถตรวจสอบสำรองน้ำมันตามกฎหมายได้ถูกต้องแม่นยำตลอดเวลา ทั้งหมดทำให้กรมธุรกิจพลังงานมองเห็นการเคลื่อนย้ายน้ำมัน และแก๊สแอลพีจีได้ทั่วประเทศแบบเรียลไทม์
และออกมาตรการระยะสั้นแก้ปัญหาแบบอัดยายซื้อขนมยาย ลดความเดือนร้อนของชาวบ้านเฉพาะหน้า
เมื่อกระทรวงพลังงานมีระบบดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ถึงเร่งวาดภาพโซลารูปท็อป ตอนนี้เทคโนโลยีโซลาร์เซลล์พัฒนาไปรวดเร็วมาก แผงขนาดเล็กลงเกือบ 3 เท่าตัวผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น-เร็วขึ้น
บ้านเรือน สถาบันการศึกษา และผู้ประกอบการ ต้องการเข้าสู่ระบบไฟฟ้าเสรี ผลิตเหลือขายให้รัฐและรัฐโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ต้องมีระบบสำรองไฟฟ้าเพียงพอ
แม้วันนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมเสนอออกประกาศ เพื่อยกเว้นให้ผลิตไฟฟ้าโซลารูฟท็อป ชนิดติดตั้งบนหลังคาบ้าน อาคารสถานที่ สถานประกอบการ สถานที่ราชการ ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าไม่เกิน 1 เมกกะวัตต์ โดยไม่ต้องขอใบอนุญาต “รง.4” ตามพ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม
การปลดล็อกจะเอื้อต่อการผลิตพลังงานทดแทน เร่งให้ประเทศไทยปรับเปลี่ยนทิศทางสู่ยุคพลังงานสะอาด และมีระบบกำจัดแผงโซลาร์เซลล์หมดอายุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
งานนี้โชคดีได้ลุ้นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เมื่อ “พีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค” รมว.พลังงงาน และ “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” รมว.อุตสาหกรรม อยู่ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ทั้งคู่ คงทำงานสอดประสานกันได้ลงตัว
ต่อไปประเทศไทยต้องหมดยุค มีกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองล้นเกิน เอื้อ “ทุนใหญ่” เป็น “เสือนอนกิน” ส่งผลให้โรงงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ไม่ได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อถ่ายเทไปที่โรงงานไฟฟ้าขนาดเล็กผลิตแทน เป็นต้นกำเนิดรีดเลือดกับปู เก็บค่าเอฟทีกับประชาชน
ผลประโยชน์ที่ตกแก่ “นายทุน” ค่าพลังงานไม่ยุติธรรมสำหรับประเทศและประชาชนที่มีมาอย่างยาวนาน
4 ปี รัฐบาลเพื่อไทย โครงสร้างพลังงานของประเทศไทยต้องชัดเจน
หมดยุค “ทุนใหญ่” เป็น “เสือนอนกิน” ผลักภาระให้ “ประชาชน” แบกรับ
……………………………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
