ไฟไหมปริศนาในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เจ้าหน้าที่สรุป “ไฟฟ้าลัดวงจร” เป็นควันแห่งประเด็นให้ขบคิด ต่อ จากเหตุปิดเกมไม่ลงตัว กรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับยศพันเอกตะลุยทำเนียบรัฐบาล
รวบ “เจ๋ง ดอกจิก” ยศวริศ ชูกล่อม และ “การ์ตูน” พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ แนบชิดค่าย “รวมไทยสร้างชาติ” ในคดีถูกกล่าวหาตบทรัพย์ “ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์” อธิบดีกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี “ศรีสุวรรณ จรรยา” นักร้องเรียนระดับชาติ ถูกรวบตัวก่อนหน้านั้น
สะท้อนให้เห็นผลประโยชน์มหาศาลในกระทรวงเกษตรฯ โดยงบประมาณกระทรวงเกษตรฯ ตามร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ได้ไป 1.18 แสนล้านบาท
อาทิ กรมชลประทาน 8.1หมื่นล้านบาท กรมปศุสัตว์ 5.3 พันล้านบาท กรมการข้าว 4.4 พันล้านบาท กรมประมง 3.6 พันล้านบาท กรมฝนหลวง 2.2 พันล้านบาท กรมหม่อนไหม 572 ล้านบาท
ตามท้องเรื่อง มีระดับ “บิ๊กการเมือง” เข้ามามีเอี่ยวผลประโยชน์ ตั้งแต่ คดีหมูเถื่อน ตีนไก่เถื่อน เนื้อวัวเนื้อควายเถื่อน และยังมีเหตุการณ์ ตีเมืองขึ้น อีก เพื่อโยกย้ายผลประโยชน์จากกระเป๋าใบเก่า…ไปกระเป๋าใบใหม่
เหตุการณ์นี้มองฉากหน้า กระทรวงเกษตรฯเสียภาพลักษณ์ หลายปมคดียังไม่คลี่คลาย ก็มีประเด็นร้อนให้ตรวจสอบอีก อย่างคดีกล่าวหาว่า “ตบทรัพย์” ลองย้อนไปดูที่ต้นเหตุ “มีมูล” ถึงกลัวถูกแฉ
จังหวะดีที่ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และ ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ขึงขังสั่งปราบปราม “ขบวนการตบทรัพย์” เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมว.เกษตรฯ ก็ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงคดีฉาว
ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ สะเทือนถึงขั้น “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี-รมว.พลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึงขังแสดงความไม่พอใจกลางที่ประชุมครม.
“จับกุมในทำเนียบรัฐบาล ไม่ให้เกียรติสถานที่ ตำรวจตามมาจากบ้านตั้งแต่เช้า ทำไมไม่จับกุมตอนนั้น”
ไม่นับรวม “หมายจับ” และ “หมายค้น” ในที่รโหฐานต้องแจ้งสถานที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอต่อศาล ได้แจ้งต่อศาลขอค้นที่บ้านของผู้ต้องหาหรือที่ไหน ไม่น่าเชื่อว่า จะมีการขอค้นในที่รโหฐานที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 อำนาจของเสาหลักประชาธิปไตย
ฉะนั้นเหตุการณ์ครั้งนี้ ฝ่ายที่ถูกตบหน้าฉาดใหญ่ เสียศักดิ์ศรีมากที่สุด คือ รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ปล่อยให้ตำรวจบุกไปรวบตัว “เจ๋ง ดอกจิก” ได้กลางที่ทำงานของนายกฯ ในทำเนียบรัฐบาล
ปกติทำเนียบรัฐบาลเหมือนองค์กรไข่ในหิน เพราะเป็นสถานที่ราชการสำคัญที่สุดระดับชาติ ขึ้นชื่อว่าศูนย์กลางอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน
ปกติมีประชุมคณะรัฐมนตรีทุกวันอังคาร ห้องทำงานของนายกฯ อยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า มีหลายหน่วยงานของรัฐตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว รวมถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
สถานที่แห่งนี้ยังเป็นศักดิ์ศรีของประเทศไทย คอยต้อนรับบุคคลสำคัญระดับผู้นำของต่างประเทศที่มาเยือนประเทศไทย และเข้าพบนายกฯ หรือรองนายกฯ
แสดงให้เห็นว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยต้องอยู่ขั้นสูงสุด ใครผ่านเข้า-ออกบริเวณทำเนียบรัฐบาล อย่างน้อยด่านแรกต้องแลกบัตร
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับยศพันตำรวจเอก ไฟเขียวผ่านด่านตลอด ทะลุด่านรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลจนประชิดตัว “เจ๋ง ดอกจิก” ได้
2 เหตุการณ์ ทั้ง ไฟไหม้ปริศนาในกระทรวงเกษตรฯ และ พฤติกรรมอาจหาญบุกจับ “เจ๋ง ดอกจิก” ในทำเนียบรัฐบาล ไม่ธรรมดาจริงๆ
ผู้บริหารประเทศมองเป็นคดีขี้หมูราขี้หมาแห้ง ไม่สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบก็แล้วไป
แต่งานนี้ไม่รู้ว่า “ประธานก.ตร.” หน้าชาหรือไม่ ที่ “มาตรการความปลอดภัยระดับประเทศ…หละหลวม” ถูกประจานไปทั่วโลก !!
……………………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น