โครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” แจกเงิน 1 หมื่นบาทของ “รัฐบาลเพื่อไทย” ยังไม่รู้ออกหัวกออกก้อย สุ่มเสี่ยงเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ติดด่านที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” หาก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทผ่านรัฐสภา เชื่อว่ามีมือดีไปร้อง
“รัฐบาลเอาชะตากรรมเศรษฐกิจประเทศ ไปแขวนไว้ที่นโยบายเรือธง” ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล และแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน เตือนซ้ำรัฐบาลอีกครั้ง
ก่อน คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ชี้ขาด โดยนำข้อเสนอแนะของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขึ้นมาพิจารณา
ดูลีลา “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง ที่รับผิดชอบคัดท้ายเรือธง ประสานเสียงเดินหน้าชัวร์
แต่น้ำเสียงอ่อยๆ ปรับไทม์ไลน์แจกเงินออกไป และเตรียมหาทางลงกรณีออกพ.ร.บ.เงินกู้สุ่มเสี่ยงขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ อาจใช้อำนาจฝ่ายบริหารออกพ.ร.ก.เงินกู้ให้รู้แล้วรู้รอดไป การันตีว่า เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ
และสส.พรรคเพื่อไทยหลายคน ดาหน้าออกมาดีดปากผลแห่งการศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของป.ป.ช. ใช้อำนาจหน้าที่ส่อชี้นำฝ่ายบริหาร ล้ำเส้นแทรกแซง
พรรคเพื่อไทยย้ำให้เห็นเรือธงนี้ ต้องการวางโครงสร้างพื้นฐานการเงินพัฒนาใหม่ นำประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
โดยจุดนี้ยังไม่เห็นแสงสว่างบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จะเดินไปสู่จุดนั้นได้ เพราะรัฐบาลและประเทศไทยยังไม่มี “บล็อกเชนระบบสาธารณะ” และ “อินเตอร์เน็ต ออฟ แอดเซ็ต”
ซึ่งเป็นซอฟแวร์บนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อให้เอกชน ประชาชนเสียบปลั๊กใช้ได้ เหมือนประชาชน เอกชน ขอใช้บริการสาธารณูประโภค อย่างประปา ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ตปัจจุบัน
ปมนี้ “ราษฎรเต็มขั้น” เห็นแย้งกับ “ป.ป.ช.” แม้มีผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนมาให้ข้อมูลกับคณะอนุฯของป.ป.ช. จนมีข้อเสนอต่อรัฐบาลให้พิจารณาถึงความเหมาะสมใช้กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
แต่วันนี้เทคโนโลยบล็อกเชนที่ล้ำยุครอจังหวะเปิดตัว เพื่อเป็นเครื่องมือรองรับ รัฐบาลดิจิทัล หรือ Digital Government เสียดายป.ป.ช.มองไม่ขาด อ่านไม่ทะลุ แนะให้รัฐบาลต้องใช้เครื่องมือนี้สำหรับเดินหน้ารัฐบาลดิจิทัลด้วย ทั้งประหยัดงบประมาณ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณ อำนวยความสะดวกการบริหารงานภาครัฐและการบริการสาธารณะ
ก็ว่ากันไป ผ่านแล้วผ่านเลย ไปส่องดูมรสุมลูกใหญ่ที่รัฐบาลกำลังเผชิญ เบี่ยงตัวอย่างไรหักล้างชนวนของป.ป.ช. ถึงผลกระทบและความเสี่ยงต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินหน้านโยบายเรือธง
ทั้งต้องเน้นผลประโยชน์ต้องตกแก่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง ผู้ประกอบการรายย่อย ป้องกันส้มหล่นไปตกแก่พรรคการเมือง กลุ่มทุนใหญ่
ส่งสัญญาณเตือนรัฐบาลให้ลดวงเงิน 5 แสนล้านบาท ห่วงเป็นภาระทางการเงิน การคลังในอนาคต
โดยเสนอใช้งบประมาณแผ่นดินตามพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีปกติ เบรกใช้ “พ.ร.บ.เงินกู้” หรือ “พ.ร.ก.เงินกู้” และเน้นให้จ่าย “รูปเงินบาทปกติ” ในอัตราที่เหมาะสม กระจายจ่ายเงินเป็นงวดๆ
ตามลุ้น รัฐบาลเข็นเรือธงโดยหักดิบ “ป.ป.ช.” ลุยไฟไปตายดาบหน้า ออก “พ.ร.บ.เงินกู้” หรือ “พ.ร.ก.เงินกู้” 5 แสนล้านบาท แจกเงินกลุ่มหมายเต็มสตรีม และตั้งคณะอนุกรรมการติดตามการทุจริตขึ้นมาเป็นยันต์กันผี ลดแรงเสียดทานทุจริตเชิงนโยบาย ผลประโยชน์เข้าพรรคการเมือง
หรือยอมเป็นเด็กดีปฏิบัติตาม โดยลดขนาดกลุ่มเป้าหมายลง เน้นกลุ่มเปราะบาง และลดจำนวนเงินลงทั้งโครงการนี้
ไม่ว่าเลือกทางเดินไหน สุดท้ายนโยบายไม่ตรงปกไปจบที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ชี้ชะตา “รัฐบาลพรรคเพื่อไทย” ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้งสส. และพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังหรือไม่!!!
………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย…#ราษฎรเต็มขั้น