ไทม์ไลน์เลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567 หลังวุฒิสภาชุดทายาท คสช.สิ้นสุดลง 11 พ.ค.67 พอมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง สว. ตามขั้นตอนทั้งหมด เดือนก.ค.67 ก็ทราบผล เห็นโฉมหน้า “สว.ชุดใหม่” ที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยในระดับประเทศ อยู่ยาว 5 ปี นับตั้งแต่ประกาศผลการเลือกตั้ง
เบื้องต้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดย “อิทธิพล บุญประคอง” ประธานกกต. ระบุ มีผู้สมัคร 1 แสนคน แบ่งเป็นกลุ่มสาขาอาชีพ
ในจำนวนนี้ผ่านตะแกรงทองร่อนเลือกกันเอง “โดยสุจริต เที่ยงธรรม” ของบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์อาชีพให้เหลือเพียง 200 คน
ตามรัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของ สว.เข้มข้นมาก ป้องกันใช้พลัง-บารมีของพรรคการเมือง นักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่น
หัวใจรัฐธรรมนูญวางกติกาให้ สว. “ต้องไม่ฝักใฝ่ ยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดๆ”
แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ที่ต้องการเข้าสู้อำนาจเป็น สว. เริ่มวิ่งเข้าหาพรรคการเมืองตั้งแต่ตั้ง “รัฐบาลเศรษฐา” สะเด็ดน้ำ
แม้ “กกต.” มีมาตรการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตระดับจังหวัด หรือแอปพลิเคชันตาสับปะรด ตั้งรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส จ่ายสูงสุด 1 ล้านบาท ก็แค่ “เขียนเสือให้วัวกลัว-เขียนหมาให้แมวสะดุ้ง” แต่ไม่สามารถเลือกกันเอง “โดยสุจริต เที่ยงธรรม” ได้ชัวร์
“ฮั้วหรือจัดตั้งกันมา” ตรวจสอบได้ยาก ไร้มาตรการป้องกันจับเอาผิดได้
เป็นอำนาจหน้าที่ “องค์กรอิสระ” ต้องไว้ลายเสือ อย่าให้ใครมองเป็นแค่ “แมวเหมียว” เหมือนการเลือกตั้ง สส.ครั้งล่าสุด ซื้อเสียงมโหฬารทำลายประวัติศาสตร์ แต่เอาผิดได้บางเขตเท่านั้น
แอคชั่นบู้ล้างผลาญ สู้ “กกต.ชุดแรก” ไม่ได้ ที่สร้างผลงานสะเทือนจักรวาล แจกใบแดง ใบเหลืองว่อนสนาม สส.บางเขตเจอเลือกตั้งซ่อมถึง 7 ครั้ง สะบักสะบอมถึงผ่านด่านมะขามเตี้ยเข้าสภาฯได้
แม้ สว.ชุดนี้ไร้พิษสง ไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เหมือนสว.ชุดทายาท คสช.ได้ แต่ยังมีอำนาจหน้าที่ทำหน้าที่นิติบัญญัติ ตรวจสอบรัฐบาล กลั่นกรองกฎหมาย และเฟ้นเลือกกรรมการองค์กรอิสระได้
เข้าทางนักการเมือง โดยเฉพาะผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง ที่ว่ากันว่า ชำนาญด้านการแทรกแซงองค์กรอิสระ จนเป็นอีกปัจจัยหนึ่งก่อให้เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองมาจนถึงทุกวันนี้
ฉะนั้นประเทศฝากความหวังไว้ในอุ้งมือ “กกต.” ต้องทำหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ ให้การเลือกตั้งสว. “สุจริต เที่ยงธรรม” หยุดเพาะเชื้อความขัดแย้ง
ส่วน “ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง-พรรคการเมือง-สส.” ที่พร่ำบ่นคาถาให้ประเทศออกจากความขัดแย้ง ควรหยุดปล่อยเชื้อกินรวบ เพื่อสร้างฐานอำนาจ เข้าไปแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งสว.
เพื่อใช้อิทธิพลออกใบสั่ง เลือกตั้งกรรมการองค์กรอิสระให้ได้คนของตัวเอง ไปเป่าคดีหรือหากระดูกในไข่ ยัดความผิดให้นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามหรือคู่แข่งทางการเมือง
ถึงสมกับเป็นรัฐบาลสลายขั้ว-ก้าวข้ามความขัดแย้ง
…………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย….#ราษฎรเต็มขั้น