วันพุธ, มิถุนายน 26, 2024
หน้าแรกCOLUMNISTSคดี 112 ‘ทักษิณ’ชนวนเพิ่มอุณหภูมิเดือด
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

คดี 112 ‘ทักษิณ’ชนวนเพิ่มอุณหภูมิเดือด

คดี 112 ที่ปักฉึกคาหลัง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ หลัง “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะ “ผบ.ทบ.” และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบให้นายทหารสำนักพระธรรมนูญ กองทัพบก ยื่นฟ้องที่ศาลอาญา ฐานความผิดคดีหมิ่นประมาท หลังไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประเทศเกาหลีใต้ เข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

“อัยการสูงสุด” ในยุค คสช.เรืองอำนาจปี 58 โดย “ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร” สั่งฟ้องในคดีร้อนฉ่า แต่พอ “ดีลลับ” สลับขั้วอำนาจลงตัวปี 66 “ทักษิณ” บินกลับประเทศไทยในรอบ 17 ปี เครื่องบินแตะรันเวย์ ที่รัฐสภาก็โหวตให้ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ด่านแรกผ่านฉลุย

โดยเจ้าตัวยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกฟ้อง ขอให้ “อัยการสูงสุด” พิจารณาหลักฐาน ขอให้การเพิ่มเติม อัยการไฟเขียวรับเรื่องเลื่อนฟังการสั่งคดีมาเป็นวันที่ 29 พ.ค.นี้

อย่าลืมว่า “อัยการสูงสุดคนเก่า” เขียนด้วยมือว่า “มีพยานหลักฐานเพียงพอในการสั่งฟ้อง” ท่ามกลางมีการปล่อยข่าวแรงขึ้นเรื่อยๆ ว่า คณะทำงานอัยการชุดนี้ที่พิจารณาคดี 112 เคาะแล้ว

“เดอะแจ๊ค” วัชระ เพชรทอง ได้รับสัญญาณชัดว่า “สั่งฟ้อง” แต่มี “ขบวนการดึงเกม” ถึงขึ้นมีการพูดเป็นการภายในหากไม่เดินตามแนวเดิม “ระวังเกษียณ” แล้วระวัง “กรรมติดจรวด” ตามทัน ไม่รอช้ารีบบุกไปที่อัยการสูงสุด ขอให้ยืนคำสั่งอัยการสูงสุดคนเดิมสั่งฟ้องนายทักษิณคดี 112 ดักคอล่วงหน้า อย่าใช้กระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐาน และอย่าเลื่อนคดีออกไปอีก

ว่ากันว่าทีมกฎหมายพรรคใหญ่นั่งไม่ติด หารือเครียดแก้เกมทันควัน หาช่องเลื่อนคดีออกไปให้ได้

สุดท้ายมีความเคลื่อนไหวจากทีมทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก “ทักษิณ” ไปยังสำนักงานคดีอาญา สำนักงานอัยการสูงสุด ขอเลื่อนนัดออกไป อ้างเหตุ “ทักษิณ” ติดโควิด โดยยังไร้สัญญาณจากอธิบดีอัยการ อนุญาตให้เลื่อนคดีหรือไม่

คดีนี้ถูกสังคมส่องสปอร์ตไลท์ตลอดทาง เพราะ “ทักษิณ” ถูกตั้งคำถามตลอด ตั้งแต่เข้าประเทศโดยไม่ได้รับโทษติดคุกแม้แต่วันเดียว จนถึงวันได้รับการพักโทษลากยาวถึง 20 ส.ค.67 ถึงเป็นอิสระ

และคดี 112 ที่ปักคาหลังอยู่ ระดับหัวแถวเบอร์ต้นๆ อย่าง “บิ๊กโด่ง” เลขาฯคสช.เป็นคนสั่งให้ฟ้อง แตกต่างกับคดี 112 ที่คนอื่นถูกฟ้องจากเจ้าหน้าที่ระดับธรรมดา นักการเมือง หรือคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม ผู้ถูกฟ้องยังเดินผ่านประตูคุกตารางเป็นทิวแถว บางรายได้ประกันตัว บางรายถูกจำคุก บางรายพลีชีพในคุก

แรงกดดันเหล่านี้รุนแรงยิ่งกว่าระเบิดทำลายล้างทางการเมือง กดดันกระบวนการยุติธรรมที่ต้องดำรงไว้

“หลักนิติธรรม-หลักนิติรัฐ” กดทับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร

ทั้งคดีการเมือง ช่วงเวลาทำผิดคดีทางการเมือง ตกตะกอนสรุปตรากฎหมายนิรโทษกรรมได้วันนี้ทันที แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องหน่วงเวลาออกไป รอจังหวะเหมาะสมถึงชงเรื่องเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เขี่ยลูกให้รัฐบาลเพื่อไทย ยิ่งประตูนิรโทษกรรมทะลุซอย

“ชนวนการเมือง” บ่มเพาะความร้อนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “แกนนำม็อบหลากหลายเสื้อสี” เริ่มพูดเป็นภาษาเดียวกัน เตรียมตั้งป้อมเคลื่อนไหวปลุกประชาชนลงท้องถนนอีกครั้ง

อย่าประมาทพลังอำนาจประชาชนเด็ดขาด เพราะถ้ารัฐบาลยังบริหารประเทศแบบเดิมๆ อยู่ไม่ถึงปี กระแสความนิยมนับวันแผวลง ไม่เห็นความหวัง ไม่เห็นโอกาส ไม่เห็นแสงสว่างแห่งการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ

แต่ประชาชนเริ่มเห็นความอยุติธรรมเพิ่มขึ้นๆ ซึ่งเป็นชนวนเชื้อไฟทางการเมืองชั้นดี ที่ปลุกประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาล

จังหวะนี้ยังดีที่อัยการสูงสุดอ้างเหตุเลื่อนคดี มีการอ้างการป่วยที่ติดโควิด ไฟเขียวให้เลื่อนไปวันที่ 18 มิ.ย.67 เพื่อนัด “ทักษิณ” มาพบอัยการ เพื่อยื่นคำสั่งฟ้องต่อศาลในวันดังกล่าว ตามกระบวนการอัยการก็นำสำนวนฟ้องไปยื่นต่อศาลในวันที่ 18 มิ.ย.

ศาลชี้ออกหน้าไหน ก็เพิ่มอุณหภูมิความร้อนฉ่าทางการเมือง เพราะคดีก็มีปัญหาจนร้อนระอุ การเมืองก็เป็นประเด็นจนโลกใบนี้เดือด !!

………………..

คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก

โดย… #ราษฎรเต็มขั้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img