“อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี-หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนิยม นำ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านฯ-หัวหน้าพรรคประชาชน เป็นสัญญาณที่ดีตามระบอบจากการเลือกตั้ง
นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ “2 ขั้วการเมือง” ซึ่งมี “คนรุ่นใหม่” เป็น “ผู้นำ” อายุอานามเท่ากัน ทำหน้าที่เพื่อประเทศ และประชาชนทั้งคู่ ฝ่ายแรก…นำทัพครม.บริหารราชการแผ่นดิน ฝ่ายหลัง…นำทัพทำหน้าที่ตรวจสอบให้รัฐบาลบริหารประเทศโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ดีกว่าประเภทการเมืองที่พยายามล่อเล่นให้เกิดแตกหัก สร้างความขัดแย้งจนคนเบื่อการเมือง
ถึงมีกลุ่มคนพยายามปลุกกระแสให้ประชาชนจุ้นการเมือง ไม่เช่นนัันประเทศมีโอกาสตกอยู่ใน
กำมือ “คนโง่” โดยยกคำของเพลโต “คนที่ฉลาดเกินกว่าจะยุ่งเรื่องการเมือง จะถูกลงโทษด้วยการถูกคนที่โง่กว่าปกครอง” ปลุกให้คนสนใจการเมืองเป็นสิ่งสวยงาม แต่อย่าสอดไส้ยุให้ “อำนาจนอกระบบ” ล้มโต๊ะ “การเมืองในระบบ” อีกรอบ
ต้องปล่อย “อิ๊งค์” ไปต่อ แม้ถูกพวกไม่ชอบขี้หน้า วิพากษ์ว่า อาศัยบารมีพ่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นมา ยังดีที่ “นารีกู้ชาติ” ผ่านด่านทดสอบถูกกดดันมาหลายสถานการณ์ เชื่อว่าเอาตัวรอดไปได้ ล่าสุดของล่าสุด ยังติดโผ Time 100 Next “ขึ้นแทนผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต”
แต่มีสิ่งที่ขาดหายไปบ้างคือ ประสบการณ์บริหารประเทศ เพราะพาสชั้นก้าวขึ้นเป็นนายกฯ เร็วกว่ากาล ทำให้แอคชันบางจังหวะ บางงานดูขาดๆ ไปนิด เกินๆ ไปหน่อย ดูจากมุม “กองเชียร์” ก็น่ารักอีกแบบ หากดูจาก “กองแช่ง” มักถูกแขวะจนเสียผู้เสียคน
ยังดีมี “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม คอยประคองเกมช่วย และยังได้ “5 กุนซือบ้านพิษณุโลก” แท็กทีมช่วยเสริมอีกแรง โดยมี “พ่อ” คอยเป็น “พี่เลี้ยง” ให้น้ำตอนพักยก ดูทรงแล้วนายกฯยังไปต่อ
ต่างกับ “เท้ง” ในบทบาท “ผู้นำฝ่ายค้านฯ” เมื่อหันหลังไปดูไพร่พลเกือบ 150 คน มีเพียงไม่กี่คน…ที่เป็นกำลังหลักหาอาหารเลี้ยงคนเป็นร้อย แม้จะดูทรงดีกว่า “อิ๊งค์” แต่อาการภายในพรรคเครื่องกำลังรวน หลังถูกยุบพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล ถูกเผาบ้านสองครั้ง เจ้าบ้านตายเรียบ
หากไม่รีบฟิตเครื่อง ตั้งหลักไม่ดี การเมืองเสี่ยงวิกฤติ เพราะ “คนรุ่นใหม่ก็เซ็งการเมือง” ส่อหันหลังให้วงการ นักการเมืองเก่าในหลายพรรค ก็เริ่มโรยรา บรรดาพรรคการเมืองแย่ ประชาชนขาดที่พึ่ง ไม่มีใครเป็นตัวแทนประชาชนทำหน้าที่เป็นรัฐกันชน ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศ
สมมติรัฐบาลใช้เงินของประชาชน ซึ่งถูกจัดเก็บผ่านภาษีรูปแบบต่างๆ นำไปบริหารประเทศ ไม่ใช่แค่ใช้เงินของประชาชนชนิดเทน้ำเทท่าเท่านั้น ยังกักเก็บเอาไว้ใช้อีกต่างหาก ฝ่ายค้านอ่อนแอปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนไม่ได้ หายนะประเทศยืนรออยู่แค่ปลายจมูก
คนไทยไม่ควรปล่อยมือให้ “การเมืองถูกบอนไซ” ตกเป็นเหยื่อของ “อำนาจนอกระบบ” เอะอะก็กระโดดลงถนน กวักมือเรียกคนลงถนนได้ ถือเป็นสิทธิตามกติกา แต่ต้องเคารพสิทธิของคนอื่นด้วยตามกติกาเชนเดียวกัน และพรรคเพื่อไทยยังเจออิทธิฤทธิ์ “ยึดอำนาจ-ยุบพรรค” ล่าสุดถูกประหารชีวิตทางการเมืองนายกฯอีกราย พรรคประชาชนก็ตกอยู่ในสภาพคล้ายกัน
“เพื่อไทย” ถืออำนาจรัฐเต็มอยู่ในมือ หยุดยักท่าชักเข้าชักออก เหมือนหวั่น “อำนาจนอก” ระบบเล่นงาน
ถึงเวลาจับมือพรรคประชาชนแก้รัฐธรรมนูญ รื้้อโครงสร้างประเทศ บาลานซ์ “3 เสาอำนาจ” ตีกรอบองค์กรอิสระ โดยชิงจังหวะตุลาอาถรรพ์ เปิดฟอร์ให้ฝ่ายนิติบัญญัติลุยทะลุซอย ประเดิมแก้รายมาตรา
เปิดประตูบานใหม่สร้างแรงดึงดูดให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่สนามการเมือง ทดแทนนักการเมืองเก่า
………………………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
