วันเสาร์, เมษายน 12, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTS“ยุบสภา”…รอสถานีสุดท้าย 
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ยุบสภา”…รอสถานีสุดท้าย 

ยุบสภา? แค่ลูกพรรคเพื่อไทยขู่ บรรดานักการเมืองยังตกใจ ต่างกับนักการเมืองพันธุ์คุณภาพสูงของแดนกิมจิ เกาหลีใต้ ทันทีที่ “ยุน ซุก ยอล” ประธานาธิบดีสายขวาจัด-ปีกอนุรักษ์นิยม กระชับอำนาจ “ประกาศใช้กฎอัยการศึก”

แอ็กชันสั่งทหารบุกล้อมรัฐสภา เตรียมยึดอำนาจกันเลยทีเดียว อ้างภัยคอมมิวนิสต์จากเกาหลีเหนือเข้าแทรกซึมพรรคฝ่ายค้าน ชาวแดนกิมจิตบเท้าประท้วงทันที สมาชิกรัฐสภา ทั้งฝ่ายรัฐบาลจับมือฝ่ายค้าน ใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติคว่ำถอดสลักกฎอัยการศึก จน “ยุน ซุก ยอล” ยอมสั่งถอนกำลังทหาร 

เห็นการเมืองเกาหลีใต้พัฒนาไปไกลสุดลูกหู-ลูกตา สมาชิกรัฐสภาฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน มีประชาชนเป็นผนังกำแพงทองแดงให้พิงสู้ภัยยึดอำนาจแล้ว กลับมามอง การเมืองไทยยังไปไม่ถึงไหน วนเวียนอยู่แค่ “ยึดอำนาจ” ผ่าน “นิติสงคราม” แทน “กองทัพใช้รถถังเคลื่อน”

แพทองธาร ชินวัตร

เอาเป็นว่ายุบสภาหรือไม่ยุบ ดาบอาญาสิทธิ์ยังเสียบอยู่ในฝักบนกำมือ “นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” ไม่มีท่าทีชิงจังหวะชักดาบ คืนอำนาจให้ประชาชน หลังลูกพรรคเพื่อไทย “นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์” สส.บัญชีรายชื่อ  ออกลีลาพยศใส่หน้า พลพรรคภูมิใจไทย ที่ทำตัวเป็นท่อนซุงยักษ์ขวางความฝันต่างๆ ของรัฐบาลเพื่อไทย 

ฝันค้างเติ่งหลายปมเข้า โดยเฉพาะเกณฑ์ผ่านประชามติ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนหนุน  

“เสียงข้างมากชั้นเดียว” แค่เสียงข้างมากเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ เท่ากับเป็นคาถาสะเดาะกลอนประตู ที่ถูกปลุกเสกไว้ด้วยเวทมนตร์ของ คสช. เปิดอ้าซ่าให้แก้รัฐธรรมนูญฉบับวางระเบิดเวลายั้วเยี้ยเต็มไปหมด 

แต่ “พรรคภูมิใจไทย” หายใจเข้า-ออกจังหวะเดียวกับเสียงของ “สว.ส่วนใหญ่” ถือหางเกณฑ์ผ่านประชามติตาม “เสียงข้างมาก 2 ชั้น” โดยผู้ออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเสียงเห็นชอบต้องเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ เท่ากับร่ายเวทมนตร์เขมรให้ขลังกว่าเดิม ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันแก้รัฐธรรมนูญได้เลย

อารมณ์ลูกพรรคเพื่อไทยถึงระเบิดตูม แต่มันก็เป็นแค่ระเบิดควันเตือนกันเบาๆ เฮ้ย…ควรให้ความร่วมมือผลักดันความฝันของกันและกันให้ไปถึงฝั่งฝัน หยุดทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ค้านตะบันทำหน้าที่ยิ่งกว่าฝ่ายค้านมืออาชีพ  

แต่ความจริงแค่เป็นฝ่ายค้านในพรรคร่วมรัฐบาล ลีลาที่เห็นตบจูบตลอดทาง แค่เบรกเพื่อต่อรองแล้วไปต่อ ไม่ถึงขั้นยิ่งใหญ่แล้วแยกทางเดินทางใครทางมัน

เอาแค่ประเด็นใหม่ และใหญ่ที่ ครม.ไฟเขียวหลักการสร้างทางด่วนบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทาง 35 กิโลเมตร ลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐ-ภาคเอกชนในกิจการของรัฐ หรือ PPP มูลค่า 4.7 หมื่นล้านบาท สัมปทาน 30 ปี คาดปี 71 เสร็จ 

แบบนี้ควรออกมาค้านหัวชนฝา เพราะสวนทางนโยบายสวยหรูของรัฐบาล รถไฟฟ้า 20 บาททุกสาย รณรงค์คนเมืองใช้รถไฟฟ้า แต่กลับทุ่มสร้างทางด่วน สู้เอางบประมาณเกือบ 5 หมื่นล้านไปพัฒนาพื้นที่ชนบทดีกว่า หรือมันมีอะไรในก่อไผ่ ระดับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในครม.ไม่ค้านในประเด็นแบบนี้

แต่ออกมาดีดปากคนเปิดประเด็นยุบสภา ทางหนึ่งโชว์ให้เห็น “อย่าไปให้ค่าเด็กในพรรค” อีกทางหนึ่งยามปกติมีสาย “ฮอตไลน์” ยกหูโทรศัพท์ถึงกันตลอด 3 เวลาหลังอาหาร มีประเด็นร้อน พาดพิงทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียหาย เคลียร์ใจกันตลอด  

โดยเฉพาะ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย แม่ทัพใหญ่ภูมิใจไทย กับ “แกนนำพรรคเพื่อไทย” เคลียร์ใจตลอด จากปมร้อนๆ ก็กลายเป็นนมเย็น กอดคอร่วมรัฐนาวา ฝ่ามรสุมใหญ่ต่อไป ไม่มีใครคิดสละเรือ ทุบเค้กแห่งผลประโยชน์

เลือกตั้งท้องถิ่นจบ 1 ก.พ.68 ก็ยังต้องกอดคออยู่ร่วมกันต่อไป จนกว่ามีผลงานชิ้นโบว์แดง สร้างกระแสให้พรรคเพื่อไทยกระเตื้องขึ้นมาก่อน รับรองมันไม่ฟีเวอร์เหมือนยุครัฐบาลทักษิณ 100% เพราะในช่วงนั้น จังหวะทุกอย่างของรัฐบาล มันบิงโกพอดี 

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร-ทักษิณ ชินวัตร

ด้วยเหตุผลนานัปการเหล่านี้ รวมถึงคดีต่างๆ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ “นายกฯอิ๊งค์-พรรคเพื่อไทย” และ “อดีตนายกฯปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” รอนับถอยหลัง ปัดเป่าพ้นตัว ถอดสลักระเบิดเวลาการเมือง 

แล้วรอจนกว่า “ภาวะผู้นำ” ของ “อิ๊งค์” ฟิตเต็มร้อย ค่อยซักดาบอาญาสิทธิ์ ปูทางเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชน!!!

………………………………..

คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก

โดย #ราษฎรเต็มขั้น 

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img