สงครามการค้าโลกกำลังเดือดปุดหลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บริหารจัดการ “โลกใบเก่า” หวังปรับดุลอำนาจ “โลกใบใหม่” ทั่วโลกปั่นป่วนไปหมด
หันมาดูประเทศไทย ที่จีนรุกคืบเพิ่มบทบาททุกมิติในอาเซียน รวมถึงไทย ล่าสุดผลประชุมครม. 4 ก.พ.68 “นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” มีข้อสั่งการสำคัญโดยเฉพาะเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนเกี่ยวกับจีน…เรียงเป็นตับ
ถูกจับตามองที่สุด ไฟเขียวเมกะโปรเจกต์ 3.4 แสนล้านบาท โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับจีน พัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมภูมิภาคช่วงกรุงเทพ-หนองคาย (เฟส 2 นครราชสีมา-หนองคาย 357.12 กิโลเมตร)
รัฐบาลจีนพยายามทำทุกวิธีทางแจ้งเกิดให้ได้ ตามโครงการเชิงยุทธศาสตร์เชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียน และระดับโลก ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาของจีน หรือที่รู้จักในนาม Belt and Road Initiative
ครม.เคาะล่วงหน้าวันเดียวก่อน “นายกฯอิ๊งค์” และคณะ เดินทางไปเยือนจีนเป็นทางการพบพญามังกร “สีจิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน คงไม่ใช่แค่แลกเปลี่ยนส่งหมีแพนด้ามาไทย และช่วยปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น
เพราะก่อนหน้านั้นมีนายทหารหน่วยความมั่นคง เดินทางมาไทยพบระดับบิ๊กตำรวจ ก่อนลงพื้นที่ จ.ตาก โฟกัส “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลัง “ขบวนการอาชญากรข้ามชาติ” หลอกดาราจีนเข้ามา
ทุกมิติถูกเชื่อมโยงกันหมด เท็จปนจริง-จริงปนเท็จ ถูกตั้งข้อสังเกตฝีมือของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง หรือฝีมือจัดฉากของทางการกันแน่ เพื่อเป็นข้ออ้างหน่วยมั่นคงของชาติมหาอำนาจ ชิมลางหาข้อมูลการข่าวตามแนวตะเข็บชายแดน สู้กับชาติมหาอำนาจขั้วตรงข้าม ที่ส่งหน่วยข่าวเข้ามาเต็มพื้นที่
“รัฐบาลไทย” ควรระวัง “ชาติมหาอำนาจ” แทรกแซง “อำนาจอธิปไตยไทย” เจาะข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานด้าน “ความมั่นคงของไทย”
ขณะที่ในประเทศไทยมีการตั้งองค์กรสันติภาพโลก 2 องค์กร เพื่อเตือนรัฐบาลไทยระวังตกหลุมพรางชาติมหาอำนาจ กลุ่มแรกยังไม่เปิดหน้า แต่มีเป้าหมายให้ไทย และภูมิภาคอาเซียนไม่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโดยชาติมหาอำนาจ
เช่นเดียวกับคณะทำงานสันติภาพโลก ที่มีระดับผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศร่วมขบวนเคลื่อนไหวสะกิดรัฐบาลไทย ส่งสัญญาณถึงชาติมหาอำนาจ
ล่าสุด “เมธา มาสขาว” ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ และคณะทำงานสันติภาพโลก(World People Peace Working Group Thailand) เป็นห่วงปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ภัยคุกคามไทยที่รุนแรง
เสนอนายกฯไทยจัดตั้ง “ศูนย์บัญชาการ” ที่มีนายกฯเป็นประธาน ตรวจสอบนักการเมือง-ตำรวจ-ทหาร-มหาดไทย รับส่วยจากองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ? เพราะมีข้อมูลของ “ชาติมหาอำนาจ” พบ “ผู้มีอำนาจหลายคน” คอร์รัปชัน โดยเฉพาะ “ทหาร-ตำรวจบางคน” ที่อยู่ดูแลพื้นที่แม่สอด จ.ตาก
แค่สับสวิตช์ไฟจุดเจดีย์สามองค์ เมืองพญาตองซู รัฐมอญ-บ้านเหมืองแดง เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน-จุดสะพานมิตรภาพไทย-พม่า เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน-จุดสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และบ้านห้วยม่วง เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง มันเป็นเพียงแค่ “ปลายเหตุ”
ถึงเวลารัฐบาลกำชับให้หน่วยความมั่นคงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และย้ำหัวหมุดให้หน่วยความมั่นคงที่มีข้อมูลเต็มมือว่า “ใครรับส่วย-ใครคอร์รัปชัน” มีกระบวนการฟอกเงินอย่างไร ต้องจัดการให้สะเด็ดน้ำ
เพราะเกี่ยวพันผลประโยชน์มหาศาลใน ยุทธจักรอำนาจอิทธิพลสีเทาไทย ที่เปิดประตูบานแรกเปิดให้มีอาชญากรข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด ล้อมไทย และใช้ไทยเป็นสะพานสีเทาโยงกระทำผิดทั่วโลก
……………………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น