เกมนี้ไม่ธรรมดา เมื่อ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว พร้อม ตัวแทนสว.สำรอง 30 คน ยื่นคำร้องต่อ อธิบดีดีเอสไอ ขอให้ร่วมสอบสวน “คดีฮั้ว โกง บล็อกโหวตการได้มาซึ่งสว. ฟอกเงิน”
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดเลือกสว.ระดับประเทศ 26 มิ.ย.67 ถูกร้องเรียน และคัดค้าน 200 เรื่อง ดังกระหึ่มเมือง “เลือกสว.ไม่สุจริต-เที่ยงธรรม” แต่ “กกต.” ตีตกคำร้อง ยุติเรื่อง
ยังอยู่ระหว่าง “กกต.” ดำเนินการอีกกว่า 300 เรื่อง ตามกรอบเวลาสืบสวนเพื่อวินิจฉัยภายใน 1 ปี นับแต่วันเลือกสว.เหลือไม่ถึง 100 วัน มีโอกาสถูกตีตกสูง
งานนี้ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม มอบหมายให้ “สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ” ที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม ลงมารับเรื่อง คดีนี้รับรองรวดเร็ว เพราะ “ดีเอสไอ” ที่ร่วมเป็นคณะทำงานกับ “กกต.” ตั้งแต่ต้น
มีหัวเชื้อรวบรวมพยานหลักฐานในชั้นสืบสวน บันทึกถ้อยคำพยานบุคคล หลักฐานทางดิจิทัล สถานที่จัดฮั้วสว. เอกสารเกี่ยวกับโพยสว. พบมีความผิดปกติจริง เข้าข่ายกระทำผิดพ.ร.บ.การได้มาซึ่งสว. ผิดฐานอั้งยี่ ผิดฐานฟอกเงิน
นับจากนี้ คดีเลือกสว.ไม่สุจริต เที่ยงธรรม “กกต.” รับผิดชอบ ตามพ.ร.บ.การได้มาซึ่งสว. คดีฮั้ว คดีฟอกเงิน อยู่ในอำนาจของ “ดีเอสไอ” ตามลุ้นหลักฐานลากถึง “ผู้จัดฮั้ว” เส้นทางการเงินโยงถึง “ผู้บงการใหญ่”
แต่กลับเกิดเหตุสะเทือน “เทือกเขาดงพญาเย็น” เข้าอีก เมื่อ “ธนดล สุวัณณะฤทธิ์” ที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ เปิดเอกสารสำคัญออกเอกสารสิทธิทับที่ดินส.ป.ก.กว่า 4 หมื่นไร่ ที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ส่วนใหญ่นายทุนกวาดพื้นที่ไปทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นโรงแรม สนามกอล์ฟ สนามแข่งรถ เตรียมลงพื้นที่สแกนทุกตารางนิ้ว
จงใจทิ้งบอมบ์ใส่ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิไจไทย เจ้าตัวถึงกับหลุดคำว่า “หน้าตัวเมีย แต่พร้อมให้ตรวจสอบ” ตีหน้ายักษ์ใส่คนวางเกมการเมืองเด็ดหัวแม่ทัพใหญ่สีน้ำเงิน เตรียมเอาคืนทบต้นทบดอก
คดีฮั้ว คดีฟอกเงิน ในมือดีเอสไอ กระทรวงยุติธรรมกำกับดูแล ที่ส.ป.ก. อยู่ในการกำกับดูแลของ “อาจารย์แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ ที่มอบให้ “อิทธิ ศิริลัทธยากร” รมช.เกษตรฯ รับผิดชอบสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
มองเป็นอื่นไม่ได้ “เจ้าของค่ายแดง” เปิดหน้าเล่นงาน “เจ้าของค่ายน้ำเงิน” เขย่าเขากระโดง สะเทือนสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลระหว่าง พรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย
ต่อให้ “ภูมิใจไทย” ผ่านคิวเป็นเจ้าภาพดินเนอร์พรรคร่วม 25 ก.พ. เพื่อเคลียร์ใจทุกปมร้อน แต่ไม่ช่วยดับอุณหภูมิความหวาดระแวงที่มีต่อกัน เพราะ ตลอดที่ร่วมรัฐบาล “เพื่อไทย” ไปซ้าย “ภูมิใจไทย” ไปขวา สายสัมพันธ์นับวันยิ่งแตกร้าว
“จิ๊กซอว์แตกหัก” สุดท้ายจับตาไปที่ ร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” หากเกิดเหตุซ้ำรอย “เพื่อไทย” เดินไปข้างหน้า “ภูมิใจไทย” เดินถอยไปหลัง ตกอยู่ภายใต้สภาพแบบนี้ไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทย
คงถึงเวลา ดูดสส.ภูมิใจไทยไปพรรคอะไหล่ของพรรคเพื่อไทย เตรียมตะเพิดออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
………….
คอลัมน์ : ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย…..#ราษฎรเต็มขั้น
