สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงรวดเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าผ่า เมื่อ “ค่ายสีน้ำเงิน” ไม่ยอมคลายชิ้นปลามัน “รมว.มหาดไทย” ให้ พรรคเพื่อไทย ขอกลืนเลือด ยอมเป็นฝ่ายค้าน ปล่อยให้ “นายกฯอิ๊งค์-อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ยึดคืนได้ตามสบาย
“เพื่อไทย” มั่นใจเกมนี้กด “ภูมิใจไทย” อยู่ รัฐบาลสามารถบริหารประเทศต่อไปโดยสะดวกโยธิน เตรียมผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 แต่งตั้งโยกย้ายใหญ่ประจำปีช่วงเดือนก.ย.68
พร้อมเปิดทางกลไกกระบวนการยุติธรรมเผด็จศึกคดีฮั้วเลือกสว. จับ 140 สว.ยัดหม้อถ่วงน้ำ และช่วงเดือนก.ค.68 คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมชี้มูลความผิด 44 สส.พรรคก้าวไกล คดีจริยธรรม ในจำนวนนี้มี 25 สส.พรรคประชาชนด้วย
ป.ป.ช.ส่งอัยการสูงสุดฟ้องต่อศาล อย่างน้อย 20 สส.พรรคประชาชนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ รัฐบาลเดิมโดยไม่มีภูมิใจไทยมีเสียงปริ่มน้ำ 261 แต่เสียงของฝ่ายค้านหายไปเหลือเพียง 214 คน รัฐบาลเชื่อมั่นเอาอยู่ เดินหน้าบริหารราชการแผ่นดินต่อไม่ง้อภูมิใจไทย
“ค่ายแดง” ดีใจแค่เสี้ยววินาที เสียงสะท้อนจากคลิปสนทนา 17 นาที ระหว่าง “นายกฯอิ๊งค์” กับ “ฮุนเซน” กลายเป็น “ระเบิดนิวเคลียร์” เขย่าความมั่นคงของ “รัฐบาลเพื่อไทย” สั่นคลอนตึกไทยคู่ฟ้าสะเทือน “บ้านจันทร์ส่องหล้า”
คำพูดที่ดูแคลน “แม่ทัพภาคที่ 2” ที่ว่า “ไม่อยากให้ไปฟังคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา พอไปฟังฝั่งตรงข้ามอย่างแม่ทัพภาคสอง เป็นคนฝั่งตรงข้ามหมดเลย..เพราะตอนนี้ทางนั้นเค้าอยากจะดูเท่ เค้าจะพูดอะไรออกไปที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ….”
เปรียบเสมือน “หยามคนไทยทั้งชาติ” แม้อ้างเป็น “เทคนิคเจรจาต่อรอง” รักษาความสงบสุขของบ้านเมือง รักษาอธิปไตยของไทย แต่มันฟังไม่ขึ้น!!!
งานนี้สะเทือน “รัฐบาลเพื่อไทย” ให้ทรุดลงไปอีก และรุนแรงถึงขั้น มีโอกาสปิดฉากชีวิตทางการเมืองของ “นายกฯอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” กันเลยทีเดียว เพราะเจอ ทุกฝ่าย “สบถใส่” กดดันนายกฯลาออกจากตำแหน่ง
ภาคประชาชนขยับเคลื่อนทัพประชิดทำเนียบรัฐบาล และยังมีมือดีเตรียมเอาผิดต่อจริยธรรมทางการเมือง แถมเล่นอาญาหมวดความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร มีโทษตั้งแต่ประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตกันเลยทีเดียว
เจอการเมืองผสมโรงขย่มซ้ำเข้าไปอีก โดยพรรคภูมิใจไทยชิงจังหวะลงมติถอนยวงออกจากพรรคร่วมรัฐบาล บีบ “นายกอิ๊งค์” แสดงความรับผิดชอบต่อพฤติการณ์ทำให้ชาติไทยเสียเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของชาติ ประชาชนและกองทัพ
เจอเกมนี้เหมือนบีบให้พรรคร่วมรัฐบาลอื่น ทั้ง “พรรครวมไทยสร้างชาติ-พรรคชาติไทยพัฒนา-พรรคกล้าธรรม-พรรคประชาธิปัตย์-พรรคประชาชาติ-พรรคชาติพัฒนา-พรรคไทรวมพลัง-พรรคเสรีรวมไทย-พรรคประชาธิปไตยใหม่-พรรคไทยก้าวหน้า” ต้องรีบสละเรือที่กำลังจม
จากเป็นฝ่ายบีบรุกภูมิใจไทย กลายเป็นตั้งรับแก้เกมความผิดพลาดครั้งใหญ่ของตัวเอง ทางออกการเมืองถูกบีบให้แคบลงเรื่อยๆ แต่หนทางที่ยังพอรักษาเกียรติได้คือ “นายกฯอิ๊งค์” ต้องลาออก รีเซ็ตการเมืองใหม่ อย่าปล่อยให้ประเทศไทยต้องกลับไปฟังเพลงมาร์ชอีกครั้ง เพราะความดื้อดึงของผู้นำที่รู้จักคำว่า “รับผิดชอบ”
……………………………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย… #ราษฎรเต็มขั้น
