ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ 2565 ขอให้แฟนตานุแฟนสุขภาพแข็งแรงถ้วนหน้า สุขภาพแจ่มจรัสช่วยให้ดวงชะตาพลิกผัน ชีวิตก้าวข้ามฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆไปได้อย่างสบายแฮ
แล้วใครจะหอบของขวัญติดไม้ติดมือไป…สวัสดีปีใหม่!! ผู้หลักผู้ใหญ่ ใครคิดไม่ออกจะจัดเตรียมอะไรเป็นของขวัญ ไม่ต้องซีเรียส..
อย่าง “ราษฎรเต็มขั้น” ทำเป็นธรรมเนียม “กระเช้าไข่ปีใหม่” ไปหา…ไข่ฟองใหญ่ๆ สัก 30 ฟอง 60 ฟอง บรรจงจัดวางใส่ตะกร้า แต้มสีสันผูกโบว์นิดหน่อย อุ้มไปสวัสดีปีใหม่ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรัก เพื่อนบ้านอย่างไม่เคอะเขิน
เพราะ “ไข่” เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม และสารอาหารที่มีประโยชน์ ทุกบ้านมีติดก้นครัว ใครๆ ก็ต้องโด๊ปไข่ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
“ไข่” ไม่ได้เป็นแค่ “ของขวัญชิ้นวิเศษ” สำหรับคนที่เรารักและเคารพเท่านั้น “ไข่” ยังเป็นประเด็นร้อนการเมืองมาทุกยุคสมัย
ไม่เชื่อลองพลิกความจำไปดูรัฐบาลแต่ละยุคซิ เอาแค่ในยุคที่นายกรัฐมนตรีเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ มีวิธีจัดการต่อราคาไข่คล้ายๆ กันไม่ว่าจะเป็น “ไข่ยุคลุงจิ๋ว-ไข่ยุคทักษิณ-ไข่ยุคปู-ไข่ลุงตู่”
แต่ “ไข่ยุคมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกวิจารณ์หนักสุดโดยฝ่ายค้าน หลังงัดมาตรการ “ไข่ชั่งกิโล” มาใช้ ในวงการค้าไข่รู้ดีหากกำหนดให้ “ไข่ชั่งกิโล” จะฟันกำไรได้น้อย แต่ชาวบ้านได้ประโยชน์ไปเต็มๆ
เพราะพ่อค้าไข่รายใหญ่ชอบชื้อไข่คละราคาถูกกว่าไข่เบอร์ มาคัดเป็นเบอร์อัพราคาขึ้นอีกนิดก่อนปล่อยให้รายย่อยไปขาย เท่ากับชาวบ้านซื้อไข่แพงขึ้น
ไม่น่าเชื่อ “ไข่” เป็นประเด็นที่โยงกับการเมืองทุกยุคสมัย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ “ไข่ยุคชวน” ชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน เกิดประเด็นปะทะคารมสุดคลาสสิคระหว่าง “ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง-จิ๋วหวานเจี๊ยบ”
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า “ผู้นำฝ่ายค้าน” จะฝากไข่ไอโอดีน มาเป็น “ของขวัญปีใหม่“ แก่นายกฯ โดย นายกฯชวน ระบุว่า “ถ้าท่านส่งไข่ไอโอดีนมาให้ ก็ต้องรับไว้ แล้วนำไปแจกจ่ายพี่น้องที่อยู่ห่างไกลทะเล…
…ขอให้ส่งมาเยอะๆ เถอะ แต่เกรงว่าคนที่อุตส่าห์ส่งมาให้ท่านจะผิดหวังและเสียใจ เพราะเขาตั้งใจส่งมาให้ท่านกินเอง แต่กลับเอาไปแจกคนอื่น เพราะบ้านผมอยู่ใกล้ทะเล ไม่ขาดแคลนสารไอโอดีน
….แต่เมื่อเป็นความประสงค์ของท่านที่จะส่งมา เรายินดีที่จะรับ เพราะช่วงปีใหม่เป็นประเพณีอันเป็นมงคล”
ผู้นำฝ่ายค้าน หวานใส่กลับ “…ไข่ไอโอดีนเป็นของโครงการสภากาชาติไทย เมื่อนำไปมอบให้นายกฯท่านจะไม่รับก็ไม่ได้ จะเอามาคืนก็ไม่ได้ เพราะมอบให้ด้วยความรัก
และไม่ใช่แค่ประเทืองปัญญาเพียงอย่างเดียว แต่เห็นว่านายกฯจะช่วยโปรโมตโครงการนี้ได้ อยากให้ท่านช่วยหน่อย”
ยังมีอีกเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ คือ ส.ส.บางจังหวัด เวลาช่วยเหลือชาวบ้านชาวช่อง จะมีกลเม็ดต่างกัน บางรายหาเสียงทางอ้อม โดยคราวใดชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือส.ส.ให้ฝากลูกฝากหลานเข้าโรงเรียน
ส.ส.ท่านนี้ก็ขอให้นำไข่ไก่บ้านมา 1 ตะกร้าเล็ก ไม่เกิน 30 ฟองมาแลกเปลี่ยน เป็น “ยุทธวิธีหาเสียงทางอ้อม” เพราะยามปกติชาวบ้านไม่ยอมขายไข่บ้าน ต้องการปล่อยให้ฟักออกมาเป็นลูก เลี้ยงจนได้ขนาดขายเป็นตัว กำไรงามกว่า
ฉะนั้นชาวบ้านที่ตระเวนหาไข่ไก่บ้านในหมู่บ้าน ในตำบล ไม่ใช่หากันง่ายๆ เจอบ้านไหนมีก็ต้องขอร้องแกมบังคับ ถามหาเหตุผลซื้อไปทำไม อธิบายจนเจ้าของไข่บ้านใจอ่อนยอมขายให้
ชาวบ้านฝากลูกเข้าโรงเรียนสำเร็จ เจ้าของไข่บ้านจำชื่อส.ส.ท่านนั้นได้ ส.ส.ได้ทำการตลาดทางอ้อมไปในตัว
ขอยกเหตุการณ์ “ไข่กับการเมือง” มาเล่าสู่กันฟังเบาๆ ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ขนาดผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองยังมอบ “ของขวัญปีใหม่เป็นไข่” ให้แก่กัน “ราษฎรเต็มขั้น” ก็อยากให้พวกเรามอบของขวัญปีใหม่ให้กันและกันเป็น “ไข่สด”
แข็งแรงถ้วนหน้าเผชิญหน้ากับโอมิครอนอย่างมีสติกันครับ ในปี 2565
………………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
