วันพืชมงคล 13 พ.ค. เริ่มต้นฤดูฝน นับไปอีก 7 วัน ก็เริ่มเข้าสู่การทำนาเต็มตัว รัฐบาลต้องเจอด่านทดสอบ “ปุ๋ยแพง”
“ปุ๋ยยูเรีย” ทุกสูตรราคาขยับขึ้นกว่า 100% ชาวนากระดูกสันหลังของชาติ ต้องทนแบกรับต้นทุนหลังแอ่น จำใจทำนาตามวิถี หากทำแล้วไม่หว่านปุ๋ยบำรุง รวงข้าวก็ลีบ ไม่อวบอิ่มสมบูรณ์
รัฐบาล โดย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รู้สภาพปัญหา เคยสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ฤดูเพาะปลูก
หนึ่งในมาตรการที่ออกมา รัฐบาลส่งเสริมให้เกษตรกรลดใช้ปุ๋ยเคมี และหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทน โดยจูงใจให้สินเชื้อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
“รัฐบาล” ควรอาศัยจังหวะนี้ สนับสนุนให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น พ่วงมาตรการช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เพื่อปลุกกระแสใช้ “ปุ๋ยอินทรีย์ทั้งแผ่นดิน” เลิกใช้ปุ๋ยเคมี ลดต้นทุนการผลิต
เหมือนเลิกใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชยาฆ่าหญ้า ที่ล้วนมีอันตรายผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กว่าจะสำเร็จต้องเขย่ากันเสียหลายรอบ และสังคมออกมาเคลื่อนไหวร่วมกดดัน
เพราะเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในแต่ละกระทรวง ก็มาจากต่างพรรค และ “นายทุนยาฆ่าหญ้า” ก็หน้าตักหนา มีก้อนเค้กแห่งผลประโยชน์มหาศาล
งานนี้สะท้อนให้เห็นว่า แค่เรื่องเล็กๆ กว่ารัฐบาลจะคลายทีละปมได้ ต้องใช้เวลานานมาก ฉะนั้นใครหวังว่า รัฐบาลจะกล้าปลุกแสกใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทั้งแผ่นดิน คงกินแห้วไปตามระเบียบ
โดยเฉพาะช่วงท้ายเทอมรัฐบาล ขอไม่เปิดศึกหลายด้าน แค่เผชิญกับ 3 เกลอหัวแข็ง “โจ้-ภูกอง-เสี่ยหมา” คือ “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย และ “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่เคลื่อนไหว “ล้มตู่-ชูป้อม”
“ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกฯ ก็หงุดหงิดรำคาญใจ แล้วอาการก็ไปออกที่ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกฯ ตั้งการ์ดสูง ชนิดกลัวดอกพิกุลจะร่วงออกจากปาก
ตอบคำถามเกี่ยวกับการเขย่ารัฐบาล เหมือนไม่ตอบ สะท้อนให้เห็นถึงความระมัดระวังคำพูดในฐานะรักการนายกฯ และยังมองทะลุกำแพงเห็นเงาของขบวนการ “ล้มตู่-ชูป้อม”
“ต้องการให้เกิดความหวาดระแวงระหว่างนายกฯ กับพล.อ.ประวิตรหรือไม่” “ลุงเจี๊ยบ-พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ” ส.ว.และกมธ.พิจารณกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อนร่วมรุ่น ตท.12 ของ “ลุงตู่” ออกมาเบรกเกมของขบวนการล้มรัฐบาล
พร้อมเตือนถึงวิกฤติการเมือง ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในขณะที่กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งยังไม่ประกาศใช้
24 ส.ค.65 ปมร้อน 8 ปีนายกฯ ออกหน้าไหน และ 28 ก.ย.65 เกิดปรากฏการณ์ผึ้งแตกรัง ส.ส.ลาออกฝุ่นตลบไปหาบ้านใหม่ เพื่อสังกัดพรรค 90 วันก่อนเลือกตั้ง
นั้นหมายความว่า “ทีมกุนซือตึกไทยคู่ฟ้า” มีข้อมูลบนกระดานแห่งอำนาจทั้งหมด โดยไม่หวั่น “3 เกลอหัวแข็ง”
แต่หวั่นไหว ถ้า “ทุนใหญ่ไฟแรง-พล.อ.ดอกกุหลาบ” ลุยไฟทุบจริง “ลุงตู่” ไปชัวร์
…………………………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น