2 โหรดังฟันธง เดือนธ.ค.63 ถึงก.พ.64 ดวงเมืองเดือดระอุ ดาวมฤตยูทับดวงเมือง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย บ้านเมืองจะมีวิกฤตเหมือนอดีต ในทุกๆ 30 ปี “2535 พฤษภาทมิฬ-2505 ปราบคอมมิวนิสต์-2475 เปลี่ยนแปลงการปกครอง-2445 เสียดินแดนให้ฝรั่งเศส” แถม “ดวงนายกฯลุงตู่” อาการหนัก ให้จับตา 14 ธ.ค.อาจเกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญอีกด้วย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า…ประเทศไทยจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร การปลุกปั่นกระแสทางการเมือง ก่อให้เกิดความขัดแย้งลุกลามบานปลายในวงกว้าง แม้แต่สังคมในครอบครัวก็เริ่มคุกรุ่นหนัก เมื่อพ่อ-แม่-ผู้ปกครอง พูด “คนละภาษา” กับบุตรหลาน The Key News มีโอกาสสนทนากับ “2 โหรดัง” อย่าง “ภิญโญ พงษ์เจริญ” นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ และ “อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา” ฉายา “โหร รสช.” เพื่อขอให้ทำนายเหตุบ้านการเมืองในมุมมองของโหราศาสตร์…ว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย…ในเวลานี้ และมีอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่…อย่างไร
“ภิญโญ พงษ์เจริญ” นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ
ดวงเมืองประเทศไทย จะมีเหตุการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และมีปัญหาเกิดขึ้น เหตุผลทางด้านโหราศาสตร์ คือ ‘ดาวมฤตยู’ ทับลัคนาดวงเมือง มีองศาเท่าๆ กันกับลัคนาเมือง ประมาณ 20 องศา ซึ่งดาวมฤตยูจรเข้ามาทับ องศาค่อนข้างสนิท เพราะฉะนั้น…จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ประกอบกับ ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ถือว่าเป็นดาวคู่แห่งการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย จะโคจรมาทับกัน วันที่ 21 ธ.ค. 63 ดาวพฤหัสถือว่าเป็นประธานฝ่ายศุภเคราะห์ หรือ “ฝ่ายดี” ส่วนดาวเสาร์เป็นประธานฝ่ายบาปเคราะห์ หรือ “ฝ่ายร้าย” ดาวสองดวงเกิดการกุมกัน ทับกันที่สนิทองศา ระนาบการโคจรเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้วย มองจากโลกแล้ว จะเห็นสองดวงจะซ้อนทับกันเป็นดวงเดียว เพราะฉะนั้นถือเป็นปีเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย
ที่ว่ากุมกัน…ไปกุมกันในราศีมังกร โดยราศีมังกรเป็นภพที่สิบของดวงเมือง หมายถึงเรื่องการปกครอง การบริหารราชการแผ่นดิน ผู้มีอำนาจหมายถึงตัวนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี พอดาวสองขั้วสุดโต่งซ้อนทับกัน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะเป็นดาวคู่แห่งการเปลี่ยนแปลง ดาวเสาร์ จะอยู่ 2 ปีครึ่ง ดาวพฤหัส 1 ปี ซ้อนทับสนิทองศาวันที่ 21ธ.ค. เป็นไปได้ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองช่วงใกล้ๆ นั้น หรือวันเวลาใกล้เคียง ส่วนจะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หรือไม่…ต้องรอดู เพราะเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่
ก่อนที่จะถึงวันที่ 21 ธ.ค. จะมีปรากฏการณ์บนท้องฟ้า เกิดขึ้นสองครั้ง ช่วงวันที่ 30 พ.ย.นี้ เกิดจันทรุปราครา เงามัว เกิดขึ้นราศีพฤษก ตรงระยะประมาณ 16 องศา ซึ่งราศีพฤษก อยู่ในเรือนกดุมภะ หมายถึงเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง การธนาคาร เพราะฉะนั้นจะเกิดการผันผวน แล้วดาวพระราหูจรอยู่ตรงนี้ เรียกว่า ราหูค้นทรัพย์ หมายถึงว่าค้นเอาทรัพย์สินที่มีอยู่ เงินทองสะสมไว้ เอามาใช้จนหมด
นอกจากนั้นต้องกู้ยืมเงินจากภายนอก มีการใช้จ่ายเงินจำนวนมหาศาลอย่างสิ้นเปลือง ได้ประโยชน์บ้าง-ไม่ได้บ้าง ส่งผลกระทบจิตใจอารมณ์คน ปรากฏการณ์จันทรุราครา ดวงดาวถูกบังคือดวงจันทร์ คือความรู้สึก ยังหมายถึงประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ซึ่งจากอิทธิพลของวันที่ 30 พ.ย. ส่งผลไปถึงหลังเกิดจันทรุปราคารด้วย เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องในอารมณ์ ประชาชนโดนกระทบทำให้ขุ่นมัว เรื่องการชุมนุม มีเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจด้วย
แล้วอุปราคราครั้งต่อไป ค่อนข้างสำคัญ ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ จะเกิดสุริยุปราคารเต็มดวง เป็นสรรพคราส ตรงราศีพิจิก ประมาณที่ 28-29 องศาในราศีพิจิก อยู่ภพมรณะของดวงเมือง ต้องระวัง เรื่องสูญสีย ปะทะ อุบัติเหตุเภทภัย อาจทำให้มีคนตายเกิดการสูญเสียจำนวนมากพอสมควร จึงขอเตือนๆ กันให้แต่ละฝ่ายยับยั้งชั่งใจ ไม่ว่าฝ่ายผู้ต่อต้านม็อบ หรือผู้รักษากฏหมาย อุปราคาวันที่ 14 ธ.ค.ค่อนข้างแรง…เกิดเต็มดวง เกิดขึ้นกับดวงอาทิตย์ หมายถึง “ผู้นำ บุคคลสำคัญ การเมือง การปครอง ผู้หลักผู้ใหญ่ อาจเกิดสูญเสียบุคคลสำคัญ หรือการสูญเสียของประชาชน จำนวนมากหลายๆ คน เกิดขึ้นตรงราศีพิจิกเป็นมรณะภพ
ประการสำคัญ…ดาวเสาร์ จะยกในวันที่ 5 ธ.ค. ย้ายจากราศีธนูไปสู่ราศีมังกร เป็นการเปลี่ยนภพเปลี่ยนราศี เพราะฉะนั้น ดาวเสาร์มีพลังที่มากขึ้นและกุมดาวพระพฤหัส นับเป็นการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย อยู่ 2 ปีครึ่ง…ยังไปเล็งดาวพระจันทร์ในดวงเมือง หมายถึงประชาชน จิตใจอารมณ์ มีความคิดเห็นขัดแย้งรัฐบาล ตามสถิติ ดาวเสาร์โคจร 1 ราศี ใช้เวลา 2 ปีครึ่ง จะอยู่ตรงนี้ถึงปี 2565 จากการศึกษาวงรอบดาวเสาร์ แต่ละ 30 ปี โดยเอา 2565 ลบด้วย 30 ไป จะเจอปี 2535 ดาวเสาร์เคยอยู่ตรงนี้ เกิดเหตุการณ์พฤษาทมิฬ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเมือง เกิดจราจลใจกลางพระนคร เกิดสูญเสีย และเมื่อศึกษาอิทธิพลของดาวเสาร์ เอา 30 ลบ 2535 ไปเจอปี 2505 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ คนไทยสู้รับกันเอง เหมือนกันทำการปราบปรามฝ่ายตรงข้าม ตอนนั้นมีพรรคคอมมิวนิตส์ และจอมพลสฤษดิ์ ถึงแก่อนิจกรรม มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเปลี่ยนขั้วอำนาจมาเป็นจอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร หากเอา 30 ลบ 2505 ไปเจอปี 2475 ก็มีการเปลี่ยนแผลงทางการเมืองครั้งสำคัญ การปฏิวัติสยาม เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
วิถีการโคจร ของดาวเสาร์แต่ละรอบใช้เวลา 30 ปี 1 ราศีใช้เวลา 2 ปีครึ่ง เพราะ ฉะนั้น 12 ราศีใช้เวลา 30 ปี เอา 2475 ลบ 30 ปี ไปตรงกับ 2445 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ปรากฏว่าปีนั้น ไทยเสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศส เกิดสองกบฎ จากการศึกษา วัฐะดาวเสาร์อยู่ราศีมังกร ในดวงชะตาที่สิบ ดวงเมือง เล็งดวงจันทร์ จะเกิดเหตุเภทภัย ซึ่งโหราศาสตร์ใช้ในการเตือน ดังนั้นเดือน ธ.ค.ต้องระมัดระวัง สุขุมรอบครอบ ทุกฝ่าย
ช่วงเดือนธ.ค.2563 ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ โควจรมาทับกัน อีกเดือนคือช่วงเดือนก.พ.2564 ประมาณวันที่ 11-14 ก.พ.จะมีดวงดาวเคราะห์มาชุมนุมกันตรงราศีมังกรถึง 7 องค์ จากดวงเคราะห์มีอยู่ 10 ดวง เพราะฉะนั้น พลังดวงดาวมาสะสมตรงนั้น อาจทำให้มีเหตุอะไรที่สำคัญ เช่นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อุบัติเหตุ เภทภัย แผ่นดินแยก แผ่นดินถล่ม
ส่วนการบริหารราชการแผ่นดิน ดาวพฤหัส ดาวเสาร์โคจรมากุมกัน ซ้อนทับกันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมือง หรือเปลี่ยนผู้นำรัฐบาล ทั้งเดือนธ.ค. และอีกครั้ง เดือนม.ค.-ก.พ. ไม่น่าเกินแถวนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่อนข้างชัด เพราะดาวราหู ที่จรตรงนั้น เรียกว่า “ราหูค้นทรัพย์” ผันผวน เสียหายเศรษฐกิจกู้เงินต่างประเทศ ดาวราหู อยู่ถึงต้นปี 2565 ประชาชนต้องระวัง การใช้จ่ายไปอย่างต่อเนื่อง
“อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา” หรือ “โหร รสช.”
การทำนายดวงเมือง มีสองทาง…ถ้าบริหารบ้านเมืองทางผิดก็ล้มสลาย แย่ลง ถ้าไปในทางถูก ก็รุ่งเรืองเจริญ เราต้องพัฒนาเด็กเยาวชน สิทธิ สตรีเพศ เน้นการศึกษา…สำคัญคือส่งเสริมอาชีพให้มีงานทำ ต่อยอดได้ อย่าเอาแต่ประกาศนียบัตร
ในทางร้าย ไม่โทษตัวนายกรัฐมนตรี ต้องโทษ “ที่ปรึกษานายกฯ” ทำไมไม่ช่วยนายกฯ คนอยู่รอบข้าง อยากเป็นใหญ่เป็นโต ยกมือข้างเดียวได้เงิน หลับๆ ตื่นๆ ได้เงินเดือนแสน/สองแสน ซึ่งกฏหมายต้องละเอียดอ่อน อย่าเอาเปรียบประชาชน
ดวงเมืองจะเกิดอภิมหากลียุค ช่วงปลายเดือนวันที่ 25 ธ.ค. บ้านเมืองระเนระนาด ดาวอังคาร กุมดวงเมือง ดวงโลก อาจมีสงครามโลกที่สาม ทั้งจีน อเมริกา แตกแยก ซึ่งไทยมีน้ำท่วมใหญ่ เกิดเรื่องร้ายแรง เกิดขึ้นทั่วไปหมด การจี้ปล้นฆ่า คนไม่มีกิน
ดวงนายกรัฐมนตรี เกิดธาตุน้ำ เดือนนี้ดี แต่เดือนธ.ค. ร้อนระอุ เดือนม.ค.-ก.พ.ไปกันใหญ่ ถ้าอยู่รอด ก็บอบช้ำ ไม่รอดก็เหมือนเดิม หรือรอดก็เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นต้องเปลี่ยนวิธีบริหารประเทศใหม่ เพราะปลายปีนี้ถึงปีหน้า ม็อบต่างๆ แรงขึ้น คนไม่มีจะกิน คนมาม็อบมากขึ้น
นายกฯอาการสาหัส ถึงจะอยู่-ไม่อยู่ มีค่าเท่ากัน อยู่ก็เหมือนเดิม ไม่อยู่เหมือนเดิม เพราะมาจากต้นตำรับเดิม ข้อสำคัญที่สุด…ทำอย่างไรให้ประชาชนมีกินมีใช้ด้วยการทำงาน ไม่ใช่ด้วยการขอเงิน แจกเงิน ต้องเปลี่ยนประชาขนให้มีอาชีพ ไม่ต้องยืมจมูกหายใจ วิฤกติหนักปีหน้าทุกด้าน เพราะจุดชนวนกันมาแล้ว คนยากจนกว่าเดิม ทุกคนอาจอดอยาก เกิดม็อบไปตลอด ตราบใดที่คนยากจน ม็อบจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าประเทศไทยมี “สถาบันพระมหากษัตริย์” เป็นจุดยืนให้ประเทศไทยอยู่รอด
ดาวมฤตยูอยู่อีก 10 ปี ทั้งไทยและทั่วโลก ซึ่งไทยยังมีดาวอังคาร ทับดวงเมือง เกิดปฎิรูปเยอะแยะไปหมด ถ้าพัฒนาบ้านเมืองไปได้ เพราะดาวมฤตยู คือดาวแห่งเทคโนโลยีด้วย ถ้ามีการพัฒนาจะเป็นอย่างก้าวกระโดด ไทยจะเป็นที่ 1 ของภูมิภาคนี้
อย่างไรก็ตาม ให้ระวังตั้งแต่ช่วงวันที่ 5 ธ.ค. เหตุอะไรจะเกิดเหมือนจุดไฟติด จะแก้ไม่หาย อย่าใช้กฏเหล็กมากไป ต้องใช้ความนุ่นนวล สยบความวุ่นวาย ใช้กฏหมายไม่ได้ ส่วนปัญหาเศรษฐกิจ ต้องใช้คนเก่งแก้ได้ ขี่ม้าขาวออกมา
…………………….