“นอสตราดามุสเมืองไทย” ผ่าดวงเมืองปีฉลู วัวไฟ ติดเขาวงกต ถูกถล่มจากอิทธิพลชุมนุมดาวร้ายใหญ่ๆ โคจรทับดวงเมืองแบบไม่เคยเป็นลักษณะนี้มาก่อน อภิมหากลียุคทุกด้าน วิกฤตสุดขั้วตั้งแต่ตั้งประเทศไทยเลยมาย้อนยุคไปก่อนตั้งกรุงสุโขทัย เตือนกลางปีเกิดขัดแย้งรุนแรงแตกหักบ้านเมืองเกิดสุญญากาศ
นายโสรัจจะ นวลอยู่ โหรชื่อดังฉายานอสตราดามุสเมืองไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ The Key News โดยได้ทำนายภาพรวมสถานการณ์บ้านเมืองปี 2564 ว่า “ดวงเมือง” ได้รับผลจากอิทธิพลของดวงดาวส่งผล ดวงบ้านเมืองในปีฉลู เป็นปีคนไทยติดอยู่ในเขาวงกต มีดาวสำคัญ ยังสถิตย์อยู่ราศีเมษ คือดาวมฤตยู ทับดวงเมืองมาช่วงหนึ่งแล้วและต่อไปกลางปี 2565 วันที่ 7 กรกฎาคม ถึงจะย้ายออกไปเข้าสู่ราศีพฤษภ
ที่สำคัญดวงดาวส่งผลตั้งแต่เดือนมกราคม ดาวอังคารย้ายเข้าสู่ราศีเมษ ทับลักคนาดวงเมือง ทับดาวมฤตยู ดาวอังคารเป็นเรื่องความร้อนแรง ขัดแย้งรวมไปถึงทุกด้าน เพราะดาวมฤตยู ถือว่ามีเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นจะเกิดขึ้นมา เกิดขัดแย้ง โรคภัย โรคระบาด ภัยพิบัติทางธรรมชาติใหญ่ๆ แต่น่าเป็นห่วงมากด้านเศรษฐกิจ ตกต่ำหนักกว่าทุกปี ปีนี้แย่กว่าปี 2563 ปีนี้เป็นปีที่กู้ยืมต่างประเทศ ไอเอ็มเอฟ เข้ามา
ดวงดาวที่สำคัญสองช่วงนี้ ก่อนกลางปี มีดาวอังคารมาทับดาวมฤตยู ในราศีเมษของดวงเมือง และที่สำคัญมาก ดาวอังคารจะย้ายเข้าสู่ราศีกรกฎ ร่วมกับดาวศุกร์ คือเลข 6 ดาวสองดวงไปเล็งดาวเสาร์ในราศีมังกร จะสังเกตว่าดาวอังคาร ดาวศุกร์ ย้ายเข้ามากรกฎในเดือนมิถุนายน ส่งผลสำคัญมากกับบ้านเมือง ไม่เคยเกิดมาก่อนตั้งแต่ตั้งประเทศไทย ย้อนไปกลับสมัยกรุงสุโขทัย ไม่เคยมีดวงดาวลักษณะแบบนี้มาก่อน อย่างที่บอกดาวมฤตยู อยู่แต่ละราศี ประมาณ 7 ปี และดาวมฤตยูมาเข้าราศีเมษ มาประจบรอบ ดาวอังคารเข้าราศีกรกฏ ดาวเสาร์เข้าราศีมังกร เรียกว่า ชุมนุมดาวร้าย ดาวร้อนแรงทั้งนั้น
ต้นปีนี้ดาวอังคารอยู่ราศีเมษ สังเกตว่า ช่วงนี้เริ่มมีอะไรบอกเหตุการณ์ร้ายๆ ว่าปีนี้ไม่ใช่ปีธรรมดา ทุกคนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน วิกฤตสุดๆ ที่ทุกคนไม่คาดคิดจะเกิดอะไรขึ้น แต่มันกำลังจะเกิด เหตุการณ์ที่เกิดทุกอย่าง ไม่ใช่เรื่องเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ, การเมือง หรือโรคภัยเท่านั้น แต่ทุกอย่างมาเกิดรวมกันในเวลาเดียวกันเกิดขึ้นพร้อมๆกัน เป็นอย่างนี้อย่างน้อยถึงกลางปี 2565
“จากนี้ไปจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนถึงกลางปี 65 ที่ดาวมฤตยูถอยออกแต่ไปเข้าราศีพฤษภ เข้าอยู่ในภพกดุมภะ ภพเรื่องการเงิน อยู่ไปอีก 7 ปีกว่า กระทบเศรษฐกิจทรุดหนักมาก ซึ่งการทำนายอนาคตเพื่อให้ประชาชนรู้ว่ายังมีอุปสรรคต่างๆ รออยู่อีกมาก เพราะฉะนั้นต้องสามัคคี ต้องฝืนดวง ควรทำบุญสุนทานตามที่เราเคยทำ หรือว่าสวดมนต์ ทำบุญตลอดจากใจจริง ทุกคนมีความเมตตากัน ถึงจะฝืนดวงหรือแก้ดวงเมือง ตรงนี้ช่วยได้เยอะมาก มองอิทธิพลของดวงดาว ยังแรงต่อเรื่อง เกิน 10 ปี ที่สำคัญช่วงนี้พยายามแก้ไข ทำบุญ ให้เบาลง เพราะดาวอังคาร เกี่ยวกับความขัดแย้ง ทั้งการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ โรคระบาด เผชิญไป จะเป็นโรคระบาดพัฒนาตัวเอง กลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ พัฒนาตัวเอง ใช้ชื่อใหม่ไปเลย อนาคตมีโรคระบาดด้านอื่นด้วย”
นายโสรัจจะ กล่าวว่า ถือว่าเป็นปีที่ อภิมหากลียุค หนักมากกว่าปีที่แล้ว เพราะดาวอังคารเกี่ยวกับความขัดแย้ง ต้องแก้ดวงฝืนดวง “ผู้นำรัฐบาล” ต้องพยายามออมชอม มีเมตตา หันหน้ามาคุยกัน ไม่อย่างนั้น เจอกันก็จะห่ำหั่นกัน จริงๆ บ้านเมืองเราอากาศร้อน ทำให้คนอารมณ์ร้อน แต่ปีนี้อากาศกลับกลายเป็นหนาวจัด หนาวขึ้น แต่อารมณ์คนสวนทางร้อนมาก ทะเลาะกัน จากนี้ไปเรื่อย ๆ กลางปีถือว่าสุดๆ เกิดอะไรเปลี่ยนแปลง แตกหักครั้งใหญ่
“ตั้งแต่ดาวอังคาร เข้ามาเรื่องร้ายเห็นชัดเดือนกุมภาพันธ์ เดือนมีนาคม สถานการณ์การเมือง โรคระบาด คนตกงาน ด้านการเกษตร ย่ำแย่ ภูมิอากาศ แปรปรวน แห้งแล้งบางพื้นที่ ทั้งบางแห่งก็ยังมีน้ำท่วมมากเกินไป การเกษตรเสียหายวงกว้าง เกิดไฟป่า เยอะมากกกว่าทุกปี รวมถึงฝุ่นละออง ฝุ่นพิษ มีเยอะยาวนานเจอสภาพอากาศรุนแรงน่าเป็นห่วง เพราะมาทุกด้านทั้งการขัดแย้ง อารมณ์คน จากเศรษฐกิจตกต่ำ สภาพอากาศโรคระบาดกลายพันธุ์ ช่วงกลางปีหนักที่สุด เริ่มช่วงจากนี้ไปการขัดแย้งมีตลอดในทางการเมือง ช่วงรุนแรงมากๆกลางปี มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ หลังจากนั้นทุกอย่างเป็นสูญญากาศ”นายโสรัจจะ กล่าว
จากนี้ สถานการณ์บ้านเมืองไม่เกิดเรื่องเล็กๆ เช่น ปรับครม. จะมีแต่เรื่องใหญ่ๆ เกิดขึ้น ที่แก้ไม่ได้ มีลักษณะของเศรษฐกิจส่งผลมากกระทบการเมือง คนเดือดร้อนทั่วประเทศ การทำงานคนตกงานเยอะแย่ไปหมดร้านค้าปิดกิจการกัน ไปสู่การเกิดม็อบ เต็มบ้านเต็มเมือง ลงถนน ความเดือดร้อนรอบด้าน ภาพรวม หนักกว่าตั้งแต่ประเทศไทยมาเลย ไม่เคยเกิดดูแล้วน่าเป็นห่วงขนาดนี้ เกินคำว่าเผาจริง กลางปีคือสูญญากาศ ดวงดาวปีนี้ น่ากลัวมากๆ เกิดอะไรไป จากการตัดสินใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถึงขั้นรุนแรงเพราะ ดาวอังคาร ดาวเสาร์ ดาวมฤตยู เกี่ยวกับความขัดแย้ง แตกหัก
นอสตราดามุสเมืองไทย กล่าวว่า ดวงดาว จะแสดงอนาคตให้ล่วงรู้หน้าก่อนเสมอทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นต้องมีวิธีแก้ เพื่อฝืนดวง เช่น ทำบุญ เกี่ยวกับความร่วมมือ สามัคคี ถึงดวงดาว ตกหนัก ร่วมกันแก่ไข ช่วยกัน อย่าขัดแย้ง พยายามเข้าใจ มุ่งร่วมไปข้างหน้าทุกอย่างจะบรรเทาลง ถ้าเราไม่ได้ทำอะไร ปล่อยไปตามดวงดาว ยิ่งไปกันใหญ่ ดวงดาวส่งผลภัยธรรมชาติ แห้งแล้ง มีไฟป่า ฝุ่นละอองมีปัญหานาน อากาศร้อนก็ร้อนจัด หนาวแบบรุนแรง มีคนเสียชีวิต ทั่วโลก เกิดภัยธรรมชาติ คล้ายๆกันประชาชนต้องเผญิชกับเรื่องเฉพาะหน้าที่ไม่เคยเกิด ถึงขั้นขาดแคลนอาหารการกิน ต้องแย่งกัน
เมื่อก่อนอาจเกิดปัญหาเศรษฐกิจแต่มีข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ แต่ครั้งนี้โดนทั้งเศรษฐกิจตกต่ำ และไม่คาดคะเนมาก่อน บ้านเมืองเราเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ จะเกิดภัยพิบัติ อะไรตรงข้าม เกิดเร็วมาก แล้งมากจนขาดแคลนน้ำ น้ำประปาแบ่งปัน น้ำท่วมมาเยอะ พัดพังทะลาย แผ่นดินทรุด ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพ บ้านเรือนเสียหาย จนน้ำท่วมบางแห่งด้วย ไม่น่าเป็นไป ช่วงเวลาปีเดียว อาจมีแผ่นดินไหวด้วยเยอะเหมือนกันทั่วประเทศ พายุลูกเห็บ ทำลายพืชผลการเกษตร สิ่งก่อสร้างบ้านเรือน เดือนกุมภาพันธ์นี้จะเห็นมีหนาวจัด และร้อนจัด โรคระบาดมีเป็นระยะไป
ความอดอยาก เกิดไปเรื่อยๆ ทุกอย่างระเบิดออกเหมือนระเบิดปรมาณูรวดเร็วมาก ปีนี้ทำเล่นๆ ไม่ได้ ดวงดาวทั้งหมดต้องเกิดขึ้นถ้าเราคิดไม่ดีกับบ้านเมือง สิ่งสำคัญในด้านการเมือง ปัญหาคอร์ปรัปชั่น คนเหล่านั้นถูกลงโทษ ไปตามดวงดาว ปีนี้ต้องเกิด อันนี้คือดวงดาวทั้งนั้นลิขิตมา ซึ่งบางคนหลงทางไปกับการคอร์รัปชั่น มาซ้ำเติมบ้านเมือง จะมีช่วงเดือนเมษายน มีความร้อนแรง มีเรื่องมีราว การขัดแย้ง มีไอเอ็มเอฟ เริ่มเข้ามา ทุกอย่างดูแรง ทุกคนเตรียมตัวตั้งรับให้ดี ทุกอย่างหนักมากๆ
ปิดท้ายเลยว่า การพยากรณ์ทำนายอนาคตอาจเกิดหรือไม่เกิด มีทั้งถูกและผิด เราทำความดี ทำบุญถือศีล 5 ทุกคนจะพ้นทุกอย่างไปได้ ดวงดาวจะร้ายแรงแค่ไหน จะช่วยเบาลงทุเลาลง ผ่านพ้นเขาวงกต ปีนี้เป็นปีที่เราอยู่ในเขาวงกต ทุกคนอย่าท้อ จะสำเร็จ วิธีแก้ตรงนี้ต้องให้วิกฤตน้อยลง เอาธรรมะเข้ายึดหลักธรรม ทุกอย่างอย่างน้อยช่วยได้