วิกฤติการณ์บ้านเมืองครั้งนี้ร้อนแรงสาหัสกว่าในอดีต เพราะเป้าหมายหนึ่ง คือมุ่งโจมตี สถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสิ่งที่คนไทยเทิดทูนเคารพรักยิ่งไว้เหนือหัว…มายาวนาน ทำให้อุณหภูมิร้อนขึ้นเรื่อยๆ
มีการวางหมากหลายชั้น โดยใช้ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ออกมาท้าทาย เร่งเร้า อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนหลายคนเป็นห่วงว่า ประเทศจะกลายเป็น “อภิมหากลียุค” อย่างที่โหรดังหลายราย…ทำนายไว้หรือไม่
“เดอะ คีย์ นิวส์ : The Key News” มีโอกาสได้พูดคุยกับ “พุทธะอิสระ” หรือ “สุวิทย์ ทองประเสริฐ” หรือ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” อดีตแกนนำกลุ่มกกปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข) ถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้
@@ จะแก้ไขสถานการณ์วิกฤติอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิด “ม็อบชนม็อบ” เช่นในอดีต
A : ดูว่าม็อบเยาวชนปลดแอก และกลุ่มคนเบื้องหลัง…ไม่ทำให้ประเทศไปสู่วิกฤต อย่าไปห่วงเลย ควรจะห่วงคนไทยบางส่วนที่ยัง 50/50 จะเป็นปัญหาของเรา ที่ต้องทำให้คนเหล่านี้ได้เข้าใจบริบทสถานการณ์จริงของแผ่นดินนี้ ซึ่งฉันจะเดินสายตะลอนไปทุกๆ จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค ไปพบปะพูดคุยกับประชาชนที่ยังไม่เข้าใจ จากที่ผ่านมา
เท่าที่เราไปจังหวัดต่างๆ เช่น นครราชสีมา นครสวรรค์ อยุธยา ทั้งให้ลูกศิษย์ไปทำความเข้าใจ แสดงความรู้ โครงการพระราชดำริต่างๆ มีมากมาย และที่สำคัญ “พระเจ้าอยู่หัว” ทรงไม่ทิ้งประชาชน ประชาชนไม่ทิ้ง “พระเจ้าอยู่หัว” ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จะระดมคนใส่เสื้อเหลืองมาให้มากถึงมากที่สุด ให้เต็มแน่นถนนรอบพระบรมมหาราชวัง ถนนราชดำเนินนอก-ใน เพื่อร่วมรับขบวนเสด็จแสดงความจงรักภักดี จะเป็นภาพงดงามอย่างที่สุด ขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศใส่เสื้อเหลืองร่วมเฝ้ารับเสด็จ
”ฉันจะเดินสายไปจ.ราชบุรี ลพบุรี ไปโคราช ประตูอีสาน ซึ่งวันที่10 พ.ย.นี้ ร่วมกับประชาชนรับเสด็จ “พระเจ้าอยู่หัว” ที่จ.อุดรธานี ก่อนจะถึงวันเสด็จจะไปจ.ขอนแก่น อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด โดยเฉพาะหมู่บ้านเสื้อแดง นัดกับผู้นำชุมชนทำกิจกรรม ได้รอให้เราเข้าพื้นที่เปิดโครงการ “รวมกันที่ลานบ้าน ชวนกันกินข้าว ฟังเรื่องเล่าพระเจ้าอยู่หัว” มีกิจกรรมแสดงพื้นบ้านของแต่ละกลุ่ม มีปราชญ์ชาวบ้าน ล้อมวงพูดคุยกัน”
“ม็อบปลดแอก” แท้จริงแล้ว ต้องการปฏิรูปหรือล้มล้าง หากดูใน 10 ข้อเรียกร้อง ห้าม “พระเจ้าอยู่หัว” พูดกับชาวบ้าน อย่างนี้ได้หรือ??? และเรื่อง“พระราชทรัพย์” บิดามีสิทธิอันชอบธรรมมอบให้กับบุตร จะมาลิดรอนสิทธิไม่ได้ การปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เสนอมา มีการทำให้ด้อยค่า ดูหมิ่นเหยียดหยาม ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ต้องนำไปบอกให้ชาวบ้านรับรู้
”ฉันจะไปพูด ทำความเข้าใจ ตลอดเดือนพ.ย.นี้ จะเดินสายตะลอนไป ใช้ทุนตัวเอง ไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากหน่วยงานรัฐ หรือเรี่ยไรจากใคร แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเรี่ยไร ตั้งแต่เริ่มออกไปต่อสู้ที่ถนนแจ้งวัฒนะ กรณีธรรมกาย กรณีเงินทอนวัด สู้มาด้วยลำแข้งตนเอง อะไรมีที่มา ใช้อย่างไร ครอบครัวธรรมอิสระ เขารู้ ว่าเราจะไปไม่ไหว ก็ต่างระดมหาเงินมาให้ใช้จ่ายค่ารถ จ่ายอาหาร ค่าที่พัก ทีมงาน ลงพื้นที่ไปจัดเตรียมงาน รวมลานบ้านกินข้าว หาข้าวปลา น้ำให้เขา อุปกรณ์ทีวี เครื่องไฟ จอโปรเจกเตอร์ ยุคโควิด-19 จะรีดนาทาเร้นอะไรเอากับประชาชน”
“วันที่ 5 ธ.ค. ‘พระเจ้าอยู่หัว’ ทรงเสด็จบำเพ็ญพระราชกุศล จะนำประชาชนสวมเสื้อเหลืองมาเฝ้าให้เต็มพื้นที่ เต็มไปด้วยสีเหลือง รองเรืองเป็นเหมือนดั่งทองของแผ่นดิน ฉันตั้งใจไว้จะออกตะลอนไปทั่วทุกภูมิภาค ส่วนใหญ่ไปพบหมู่บ้านแดง เสื้อแดง ผกค.เก่า ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ตามจังหวัดต่างๆ ชวนเขามาร่วมรับเสด็จ ซึ่งทราบว่า จ.อยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กรุงเทพและปริมณฑล มากันมาก ร่วมมาแสดงพลัง”
@@ ม็อบเยาวชนยังคงเดินหน้าชุมนุมวันที่ 8 พ.ย.นี้เรียกร้อง 3 ประเด็นเดิม และชักชวนให้ประชาชนออกมาร่วมมากๆ เพื่อเดินไปถวายหนังสือเรียกร้องถึง “พระเจ้าแผ่นดิน”
A : ฉันไม่ได้หวังเด็กเยาวชนจะกลับใจ เรื่องทั้งหมดต้องรอเวลา ประสบการณ์ตรง ไม่คิดไปโน้นน้าว หรือหยุดยั้ง คิดว่า “พระเจ้าอยู่หัว” ไม่ทอดทิ้งประชาชน ประชาชนไม่ทอดทิ้ง “พระเจ้าอยู่หัว” ภาพเหล่านี้ไปเปลี่ยนความคิดคนรอบข้าง จะชี้ให้เห็นว่า “พระเจ้าอยู่หัว” จับต้องได้ พยายามปรับตัวเอง เห็นว่าทรงงานหนักมาก แต่ละครั้งเสด็จออกรับประชาชน ทรงเดินเซ “พระราชินี” พยุงปีก ไปหาประชาชน คนโน้นดึง คนนี้ดึง ทรงอายุ 60 กว่าปี พระองค์เดิน 2 ชั่วโมง ไม่ง่าย
กลุ่มม็อบพวกนี้คิดมิบังควร เหิมเกริม ยังกระทำการไม่ควรมากยิ่งขึ้น แต่ฉันกลับคิดว่า นี่จะทำให้คนใส่เสื้อเหลืองกันมามากขึ้นไปอีกในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ช่วยเรียกแขกให้ฉัน ยิ่งเหิมเกริม คนก็มามากขึ้น ฝากขอบคุณด้วย ให้กล้าหน่อย ถ้าไปทำอย่างที่พูด ทำให้ช่องว่างระหว่าง “สถาบัน” กับ “ประชาชน” น้อยลงไป ฉันไม่มองเหมือนคนอื่น เพราะทุกข์ทดสอบคน เกิดสำนึกรู้ได้ ปรับเปลี่ยนแปลงได้ แก้ไขได้ ทุกกระบวนการ พระพุทธเจ้าทรงสอน รู้เหตุจะดับทุกข์ได้ ซึ่ง “พระเจ้าอยู่หัว” “พระราชินี” ทรงทราบกระบวนการเหล่านี้ดี รับรู้ทรงปฏิรูปแล้ว ไม่ใช่มาบีบคั้นกัน เร็วๆ นี้พระองค์จะทรงเสด็จไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
“พระองค์ท่านทรงปฏิรูปตนเองมานานแล้ว ฉันอ่านข่าวของประเทศเนเธอร์แลนด์ แค่คนโพสต์หมิ่นกษัตริย์ เขาถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ของเรา…ลากออกมาขุดรากเหง้า ประจาน ดังนั้นนายธนาธร อย่ามาใช้คำว่า ‘โดนเบียดบัง กลั่นแกล้ง รังแกประชาชน’ ถ้าไม่ทำผิด…ใครจะไปรังแกคุณได้ คุณขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะการกระทำเข้าข่ายของคุณเอง ผิดระเบียบ ผิดกฏหมาย คนพวกนี้เป็นแผ่นเสียงตกร่อง อยู่อย่างนี้ตลอดเวลา”
@@ ห่วงเรื่องม็อบเยาวชนจะมียุทธวิธีใหม่ๆ ออกมาจูงใจประชาชนมาร่วมมากขึ้น
A : มองว่าเป็นเรื่องเด็กๆ ยุทธวิธีเด็กๆ แต่อาจดูแปลกใหม่ในสังคม เชื่อว่าคนวางแผน อยู่ในระดับ เสธ. ไม่ใช่คนไทย เป็นคนต่างชาติ วางหมาก วางกองกำลัง ยุทธวิธีให้ ซึ่งไม่ว่าอะไรสิ่งใดทุกอย่างมีจุดด้อยเสมอ ต้องคลำหาให้เจอ อย่างเช่นนายธนาธร นายปิยะบุตร น.ส.พรรณิการ์ เคยคิดว่ากลุ่มตนเองเคลื่อนไหวไม่มีพลาด แต่ไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่จะทำอะไม่ผิดเลย มันไม่มี ก็กลายเป็นไม่เหลือบ่ากว่าแรง
@@ มองอย่างไรกับการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เอาจริงเอาจัง เพื่อให้คู่ขัดแย้งมาอยู่บนโต๊ะเจรจา โดยเทียบเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นกรรมการด้วย
A : ฉันโทรคุยกับเลขาฯคุณชวน ถ้าเสนอคนเหล่านี้ออกมา มองดูแล้ว…ไม่มีทางทำให้บ้านเมืองสงบ คณะกรรมการ 3 ใน 4 “ไม่เอาเจ้า” ที่ผ่านมาในขณะที่ดำรงตำแหน่ง…มองว่า “เจ้า” ไม่มีส่วนสำคัญในสังคม อย่าเอ่ยชื่อ…เดี๋ยวจะเสียหาย มองว่าความปรองดอง มันจะเกิดตรงไหน และบอกว่าจะไปเชิญ พล.อ.สุรยทธ จุลานนท์ ประธานองคนมนตรี มาร่วมด้วย ซึ่งอยู่เหนือการเมือง ยิ่งยาก ก็เห็นทางตันแล้ว ถ้ายังจะดันทุรังตั้ง ฉันจะพาคนไปเยี่ยมหน้ารัฐสภา
ส่วนที่เป็นอดีตนายกฯ เห็นหลักคิดวิถีทำอยู่ในขณะอยู่ในตำแหน่ง ไม่เห็นความสำคัญของสถาบัน ผลงานแสดงออกมา ในยุคของเขา คนจาบจ้วง ลอยหน้าลอยตา ยังอยู่ได้มาถึงวันนี้ จะอาศัยคนพวกนี้มาปกป้องสถาบันหรือ???
ฉันเห็นว่า ควรโยนเรื่องนี้เข้าสู่สภา ลงมติฉันทานุมัติ หาคนเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด มีหัวใจ มาทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งคนกลุ่มใหญ่ ของประเทศ ยึดโยงสถาบัน ต้องใช้คนเป็นกลางมีหลักชัยในหัวจิต หัวใจ อย่าพยายามดึงสถาบันลงมากลายเป็นคู่ทะเลาะวิวาทการเมือง คนมาเป็นคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ ต้องทำให้รู้ว่า “สถาบันอยู่เหนือการเมือง” เหนือความขัดแย้งใดๆ นี่คือสิ่งถูกต้อง
อย่างนี้ประชาชนส่วนใหญ่จะยอมรับได้ และจะเห็นว่าประเทศชาติ ประชาชนได้ประโยชน์ อันใด ถ้าจะด้อยค่าสถาบัน ดูถูกหยาดยาม กดขี่สถาบัน แม้บอกว่า ไม่ทำร้าย ไม่ล้มล้าง แต่ให้เป็นหุ่น ถูกบอนไซที่อยู่ในกระถาง บ้านเราไม่มีกฏหมายใด ที่จะคุ้มครองสถาบัน ถ้าอ้างประชาธิปไตย ข้ามหัวพ่อแม่ได้หรือ มาด้อยค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่นั่งนิ่ง ปล่อยพวกเด็กเล่นขายของทำข้างเดียว
คณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ ตั้งมากี่ชุด…หมดงบไปพันๆ ล้านบาท เดี๋ยวก็แท้ง เป็นผีตายท้องกลม ทำงานอะไรไม่ได้ ก็เพียงทำกันไปตามวิถีทางเท่าที่ทำได้ ถามว่าคู่ขัดแย้ง แต่ละกลุ่ม เขายอมรับไหม คุณชวนคิดแบบคนเคยเป็นผู้นำ จะนำคนอื่นได้ แค่คิดก็จบแล้ว ไม่ต้องก้าวเดินต่อไป โดนตีโต้กลับ ฝ่ายม็อบประกาศไม่เอา ฝ่ายหนุนม็อบไม่เอาด้วย จะดันทุรัง ดูเป็นตัวตลกสภาโจ๊ก
อย่างไรก็ตาม…ทำอะไรทำไป ถ้ายึดโยงสถาบันเจอกัน ฉันอายุปูนนี้…ขอตายในสนามรบ มีความสุขกว่าตายในวัด…อย่างเหงาๆ
@@ ล่าสุด นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เรียกให้ “ปฏิวัติ” แล้วคืนพระราชอำนาจ ให้ “พระมหากษัตริย์” พระราชทานนายกรัฐมนตรี จะเป็นทางออกให้บ้านเมืองหรือไม่
A : เรื่องบางเรื่อง…ต้องปล่อยกาลเวลากลืนกินตัวมันเอง ทุกสรรพสิ่ง ถ้าคนไทย อดทนมากๆ คนรุ่นใหม่ทนไม่ได้ เลิกไปเอง ขอเพียงเราอย่าไปยั่วยุ เจ้าหน้าที่วางตัวเป็นกลาง ดำเนินคดีใช้กฏหมายตรงไปตรงมา มีอะไรผิดก็ดำเนินคดีไป อย่าไปบ้าจี้ตามสำนักสิทธิมนุษยชน อย่างประเทศสหรัฐฯ ไนจีเรีย ปราบม็อบรุนแรง ไม่มีใครไปทำอะไร รัฐบาลไทยอ่อนไหวง่าย เวลาต่างประเทศ ส่งสัญญาณมาก็สะดุ้ง ซึ่งม็อบต่างๆ มีมาตลอด ไม่มีใครสนใจ…ก็จบ ไปให้ค่า เหมือนเล่นละคร ถ้าไม่ดู…เดี๋ยวก็เลิก
”ผลไม้ไม่แก่ บังคับให้หล่น…ไม่สุก จะไม่หอมหวาน เอากำลังเข้าข่ม สุดท้ายก็ไม่จบ ถ้าจะให้จบ ต่างคนต่างจาก หมดเรี่ยวแรงกันไปเอง เมื่อ 2 วันที่ผ่ามา ม็อบมีคนกี่คน เริ่มฝ่อ ก็ถอยตั้งหลัก จัดกระบวนทัพกันใหม่ ถ้าปล่อยระยะยาว จะแฟ่บ ดูไม่ยาก”
…คนพวกนี้ ฝากไปถึงรัฐบาลอย่าผลีผลาม อดทน อดกลั้น เล็งเป้า…ใครคือตัวปัญหา ทำความเดือดร้อนบ้านเมืองก็ว่าไปตามกฏหมาย วันนี้ถ้ามองทางจบ…เร็วเกินไป วันหนึ่งสังคมรับขบวนการพวกนี้ไม่ได้ สุดท้ายกลายเป็นบูมเมอแรง ตีกลับไปหาคนพวกนี้เอง
ตอนนี้เด็กที่หนีพ่อ-แม่ไปม็อบ กลับมาอยู่บ้านกันหมดแล้ว เพราะเพื่อนๆ ให้แต่คำว่ากำลังใจสู้ๆ มันกินไม่ได้ ไม่มีที่นอน ผ้าผ่อนใครจะซัก ใครหาข้าวให้กิน ม็อบมีเด็กๆ พวกนี้เยอะเกินครึ่ง พ่อแม่ต้องรู้จักวางตัวให้ชัดเจน ถ้าโอนอ่อนผ่อนตาม…สุดท้ายไปประกันตัว…เลือกเอา ฉันส่งสัญญาณถึงรัฐบาล ให้กาลเวลามันกลืนกินสรรพสิ่งและกัดกินชีวิตสัตว์ไปเรื่อยๆ พร้อมทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเวลานี้ไปเรื่อยๆ แล้วสุดท้าย…ทุกอย่างก็จะจบ ต่างคนต่างจากกันไปเอง ยกเว้นถ้าเร่งเร้า กระบวนการมะม่วงสุกข้างนอก ข้างในเปรี้ยว จะเละ ไม่มีหวาน เพราะรีบสอยลงมา ดีที่สุด…ปล่อยร่วงเอง หรือปล่อยเน่าคาต้น
วันหนึ่งเด็กพวกนี้โตขึ้นมารับรู้ สำคัญสิ่งที่สงสัย ระแวง ต้องไม่หยุดที่จะพิสูจน์ตัวเอง ทำต่อเนื่อง ทำอย่างยั่งยืนยาวนาน จนพวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความจริงใจและจริงจัง เหมือนดั่งเพชรแท้ที่ไม่กลัวการพิสูจน์ ทองแท้ไม่กลัวการเผาไฟ คนดีแท้ๆ ไม่กลัวการพิสูจน์ทราบ
……………………………
ทีมการเมือง The Key News