วันอาทิตย์, กันยายน 8, 2024
spot_img
หน้าแรกEXCLUSIVE30ปีมีครั้ง“ดาวพระเสาร์เข้าราศีมังกร” ปชช.ขัดแย้งรัฐบาล-เกิดเปลี่ยนแปลง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

30ปีมีครั้ง“ดาวพระเสาร์เข้าราศีมังกร” ปชช.ขัดแย้งรัฐบาล-เกิดเปลี่ยนแปลง

เปิดศักราชใหม่ 2565 ปีที่มี 2 นำหน้าเลข 5 ขนาบเลข 6 ตรงกับนักษัตรลำดับที่ 3 ปีขาล หรือปีเสือโฮก ๆ นั่นเอง ปีนี้ดวงประเทศ ดวงการเมือง จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ไปฟังคำทำนายจาก “นายภิญโญ พงษ์เจริญ” นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ นักโหราศาสตร์แถวหน้าของเมืองไทย

“ปี 2565 อายุเมืองจะมีสองช่วง ช่วงแรกอายุเมืองย่างเข้า 240 ปี ตรงกับวันที่ 21 เม.ย.2565 และช่วงที่ 2 อายุเมืองย่างเข้า 241 ปี” ดวงดาวบนท้องฟ้าน่าสนใจหลายดวง โดยดาวใหญ่มี 5 ดวง ซึ่งมีดาวมฤตยู ยังโคจร อยู่ราศีเมษ ทับลัคนาเมือง และทับดาวพระอาทิตย์ในดวงเมือง ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.2565 จากนั้นย้ายเข้าราศีพฤษภ โคจรในราศีพฤษภจนถึงวันที่ 1 ธ.ค.2565 ก็จะโคจรเข้าราศีเมษ อยู่ถึงเดือน มี.ค.2566 จึงจะยกออก การเข้าราศีเมษถือเป็นภพที่ 1 ของดวงเมือง หมายถึงประเทศชาติ ประชาชน พลเมือง หรือส่วนรวมทั้งหมด สภาพทั่วไปอาจแสดงถึงความรุ่งเรือง ไพบูลย์ หรือความตกต่ำ ดูถึงสุขภาพอนามัยของประชาชน ประการสำคัญ ฉะนั้น ช่วงราศีเมษในภพที่ 1 ในดวงเมือง มีทั้งเกณฑ์ดีและไม่ดี โดยดาวมฤตยูอยู่มาแล้วกว่า 6 ปีที่ผ่านมา นำความดีและไม่ดีมาสู่ แต่ทำให้คุณเกิดความั่นคงของรัฐบาล อำนาจฝ่ายปกครอง ทำให้ประเทศเข้มแข็ง ความสำเร็จบางอย่างดีขึ้น เกียรติภูมิชาติเพิ่มพูน

แต่ถ้าโยกเข้าเกณฑ์ร้าย ก็จะเกิดยุ่งยากไปตามสภาพ มีการชุมนุม ประท้วง ขับไล่รัฐบาล อาจนัดหยุดงาน หรือมีการปฏิบัตินอกกฏหมายทำให้เกิดการแตกแยก หรือเกิดการกบฏ ดาวมฤตยูไปตรงไหนทำเกิดการเปลี่ยนไปสู่อนาคตใหม่ ๆ สิ่งใหม่ ๆ มีทั้งดีและไม่ดี สิ่งเก่าถูกทำลายไปมีทั้งดีและไม่ดี ประการสำคัญ ดาวมฤตยูไม่พอใจ ระเบียบกฏหมายเก่าๆ จะนำโชคร้ายมาสู่รัฐบาล และวิถีทางของรัฐสภา จะไม่ราบรื่น ส่วนบ้านเมืองมักจะมีอาชญากรรมร้ายแรงเกิดขึ้น

หลังจากวันที่ 7 ก.ค.ถึงปลายปี 2565 ดาวมฤตยูจะย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ จะเป็นภพที่ 2 เรื่องเศรษฐกิจ ทรัพย์สมบัติของชาติ การจัดเก็บภาษี ธุรกิจทั้งหมด การเงินการธนาคาร สถาบันการเงิน ตลาดหุ้น การค้า การปริวรรตเงินตรา จะมีการเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจ เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในธรุกรรมการเงิน และจะมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบใหม่

มีทั้งดีและร้าย มีเรื่องจัดเก็บภาษีอากรได้เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ ผิดความคาดหมาย เรื่องการเงินของประเทศอาจผันผวน พระราชบัญญัติการเงินต่าง ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลง ถ้าทางด้านร้ายเกิดปัญหาขุลขลักการเงิน ผันผวน สูญเสียในตลาดหุ้น ธนาคาร สถาบันการเงิน การลงทุน ยุ่งยาก ธุรกิจการค้า ส่งผลไปสู่รัฐสภา มีหน้าที่ออกกฏหมายเรื่องการเงิน นำไปสู่ปัญหาเรื่องการเงิน และจะเกิดขึ้นทั่วโลกด้วย จะมีการแข่งขันต่อสู้ด้านการเงิน อาจรุนแรงจนเกิดสงครามเศรษฐกิจ หรือสงครามการค้าโลกขึ้นได้ เป็นลีลาดาวมฤตยูในปี 2565 และดาวราหู ขณะโคจรในราศีพฤษภ ซึ่งอยู่มาตั้งแต่เดือน ก.ย. ปี 2563 และราหูจะอยู่ต่อไปถึง 30 มี.ค.65 จึงจะยกสู่ราศีเมษ โคจรย้อนวิถี ถึงวันที่ 17 ต.ค.2566

ส่วนดาวพระราหู อยู่ราศีพฤษภ ดวงชะตาที่ 2 ของดวงเมือง ในเรือนกดุมภะ หมายถึงเศรษฐทรัพย์ ราหูเป็นเจ้าเรือนแปลว่า รายได้ผลประโยชน์ การจัดเก็บภาษีอากร การกำหนดนโยบาย การออกกฏหมาย และยังหมายถึงพันธมิตรประเทศต่างๆ ดาวราหูอยู่ภพนี้มีโอกาสหาเงินหาทอง แต่ดาวราหูเป็นดาวปบาพระเคราะห์ ให้โทษมากกว่าให้คุณ เรียกว่า “ราหูค้นทรัพย์” จะอยู่นานปีครึ่ง เพราะฉะนั้นมีทรัพย์สินเท่าไหร่ จะถูกค้นมาใช้จนหมด เมื่อไม่พอต้องไปกู้ยืม จะเห็นว่ารัฐบาลได้ออกพ.ร.บ.กู้จำนวนมาก อาจจะมากที่สุดตั้งแต่สร้างบ้านสร้างเมืองมา เพื่อเอามาใช้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะวิกฤติการณ์โควิดที่เป็นโรคร้าย ช่วงดาวราหูอยู่ตรงนี้จะเกิดหนี้ท่วมโลก ท่วมประเทศ เพราะฉะนั้น หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน หนี้เอกชน จะเป็นหนี้กันหมด

“ขนาดเทวดา ฟ้าดิน ยังทนไม่ได้ ทำไมพูดว่า เทวดาทนไม่ได้ ก็ปรากฏจากข่าวที่กระทรวงการคลัง มีเทพพยาดาคุ้มสมบัติ เกิดอาเพศ มีลักษณะน้ำสนิมไหลคล้ายเลือดไหลตกจากหลอดไฟ ลงมาที่เศียรเทวรูปเทวดาพระคลังมหาสมบัติ” อาการอย่างนี้เป็นอาถรรพ์ เรียกว่า เป็นอุบาทว์พระนารายณ์ เทวดาสำแดงเหตุเพราะสงสารมนุษย์ จะได้รู้ตัวหาทางปรับปรุงแก้ไข แต่คนที่มีอำนาจไม่ฟัง มองเป็นเรื่องสนิมเหล็กน่าเสียดาย

“คำภีร์อภิไทยโพธิบาทว์” เป็นคำภีร์เกี่ยวกับเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การแสดงนิมิตร การแสงอภินิหาร เพื่อเตือนผู้ปกครองให้ดูแลแก้ไข บังเอิญมาเกิดที่กระทรวงการคลัง จึงให้เตรียมแก้ไข เรื่องการเงิน หนี้สิน เศรษฐกิจ เพราะดาวราหูค้นทรัพย์ จะหนักขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.2565 และต้องระวังเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง หลังจากนั้นดาวราหูโคจรเข้าสู่ราศีเมษ เข้าสู่ภพตนุ ของดวงเมือง จะเกิดอุปราคา ในปี 2565 ตรงราศีเมษ สองครั้ง เกิดตรงราศีพิจิก 1 ครั้ง ราศีตุลย์อีก 1 ครั้ง

การเกิดอุปราคาตรงราศีเมษ จะเกิดสุริยุปราคราวงแหวน วันที่ 1 พ.ค.2565 เวลา 03.41 น.ระยะ16 องศา กับ 19 ลิบดา มองไม่เห็นที่กรุงเทพ แล้วอีกครั้งจะเกิดตรงราศีเมษ วันที่ 8 พ.ย.เวลา 17.16 น. ระยะ 22 องศา 46 ลิบดา มองไม่เห็นที่กรุงเทพเช่นกัน แต่ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟ การเกิดอุปราคา เป็นจรราศี จะก่อให้เกิดผลขึ้นอย่างรวดเร็ว และผ่านพ้นไปรวดเร็ว แต่ยังความก่อกวน ยุ่งยาก ให้กับการต่างประเทศ และนำความยุ่งยากมาสู่รัฐบาล ตลอดจนประชาชนและพืชผลทางการเกษตร เกิดเหตุการณ์สาธารณะ ทำให้ตื่นเต้น ก่อกวน เป็นปากเสียง มีคดีฆาตกรรม อาจเกิดภัยของสงคราม ความขัดแย้ง เกิดการเคลื่อนไหวของกองทัพ และมีการสูญเสียของบุคคลสำคัญชั้นสูง ต้องระวังเรื่องความร้อน ภัยแล้ง เรื่องใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก มีการขึ้นภาษี จัดเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้น

“อุปราคาเกิดขึ้นภพที่ 1 ราศีเมษ จะเกิดผันแปรไปตามธรรมชาติ อุบัติภัย เกิดปัญหาประเทศ รัฐบาลได้รับความกระทบกระเทือน บุคคลสำคัญถึงแก่กรรม เกิดปัญหาสุขภาพอนามัยของประเทศ แล้วปรากฏว่าเป็นสุริยุปราคา จันทรุปราคา ประชาชนจะเกิดความไม่พอใจ ก่อความวุ่นวาย คนส่วนใหญ่ กรรมกร ชาวนาชาวไร่ เกิดการเดินขบวนประท้วง นัดหยุดงาน”

ส่วนอุปราคาที่เกิดในราศีพิจิก จะเป็นจันทรุปราคาเต็มดวง วันที่ 16 พ.ค. 565 เวลา 11.11 น. ระยะ 1 องศา กับ 58 ลิบดา มองไม่เห็นที่กรุงเทพ จะเป็นกรณีเกิดอย่างฉับพลันทันที โดยไม่ทันคาดหมาย เกิดรุนแรง ทำให้เกิดภัยพิบัติใหญ่โต มีอิทธิพลครอบงำรัฐสภาและการเงินของชาติ และการเปลี่ยนแปลง อาจทำให้เกิดโรคภัยระบาดใหญ่ มีคนตายจำนวนมาก หรือมีการตายของบุคคลสำคัญด้วย

แต่ราศีเมษเป็นราศีธาตุน้ำ จึงต้องระมัดระวังภัยจากน้ำ อุทกภัย น้ำท่วม ภัยแล้ง เกิดความตายทางน้ำ อุบัติเหตุทางทะเลหรือในแม่น้ำ เกิดความยุ่งยากในอาชีพเกี่ยวกับน้ำ หรือของเหลว ความเจ็บไข้โรคภัยยังระบาด ทำให้เกิดการตายสูงขึ้น ซึ่งจันทรุปราคาเต็มดวง หมายถึงชนชั้นกรรมมาชีพ ประชาชนส่วนใหญ่ จะเดือดร้อน เป็นปัญหาเกี่ยวกับคนหมู่มาก

สุริยุปราคาวงแหวน วันที่ 25 ต.ค. 2565 เวลา 19.59 น. ระยะ 7 องศา กับ 50 ลิบดา มองไม่เห็นกรุงเทพ เกิดขึ้นภายในภพที่ 7 ปัตนิภพ การต่างประเทศ อาจถูกรบกวน จะก่อความยุ่งยาก ผันแปร ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขัดแย้งมีภัยจากคู่แข่ง หรือคู่ค้า คู่สัญญา หรือผู้เป็นศัตรู เกิดความอับโชคแก่รัฐบาล หรือเกียรติภูมิของประเทศ

สิ่งสำคัญดาวราหูอยู่ตรงราศีเมษ นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่บ้านเมือง มักจะนำภัยพิบัติเข้ามา อย่างรอบที่แล้ว 2546 และ2548 ปีนั้นเกิดปัญหาการเมือง เดินขบวนขับไล่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมีภัยธรรมชาติเกิดสึนามิ เกิดแผ่นดินไหวธรณีพิบัติ และตั้งแต่ดาวมฤตยูทับดวงเมือง ยังเกิดการสูญเสียใหญ่หลวงอย่างการสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และตามมาด้วยโรคระบาดร้ายแรง จนมีผู้คนต้องล้มตายจำนวนมาก ทั้งดาวมฤตยู ราหู จรในภพที่ 1 จะเกิดการสูญเสียใหญ่เสมอ

สำหรับดาวพระเสาร์ ค่อนข้างสำคัญ เป็นประธานฝ่ายบาปพระเคราะห์ มักให้โทษมากกว่าให้คุณ เป็นดาวขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลมาก ตลอดปี 2565 โคจรอยู่ตรงราศีมังกร ภพที่ 10 ของดวงเมือง หมายถึงคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะคณะรัฐบาลและผู้รับผิดชอบ บริหารราชการแผ่นดิน บุคคลสำคัญของชาติ เมื่อดาวเสาร์เข้าสูภพ 10 จะมีทั้งดีและร้าย ถ้าโยกเกณฑ์ร้าย ยังความอับโชคให้แก่ผู้ปกครอง หรือรัฐบาล ส่งผลฐานะของรัฐบาลขาดความนิยม ขาดกำลังการสนับสนุนหากมีการเลือกตั้งก็จะแพ้คะแนนเสียง หรือประสบความล้มเหลวในการเลือกตั้ง เรื่องผู้นำและบุคคลสำคัญของประเทศ อาจมีการเจ็บป่วยและถึงแก่กรรม จะเกิดความแตกแยก ความยุ่งยากในวงการเมือง ดาวเสาร์ใช้เวลาในการโคจร 30 ปี จะมาอยู่ราศีมังกร หากจะดูอิทธิพลดาวเสาร์ย้อนหลังไป 30 ปี จะเป็นปี 2535 เกิดพฤษภาทมิฬ ฆ่ากันตายใจกลางพระนครตายหมู่ ตายมาก ๆ นายกรัฐมนตรี รัฐบาล หมดสภาพไป และได้คณะรัฐบาลใหม่ในปี 2535 ย้อนกลับอีก 30 ปี เป็นปี 2505 สมัยจอมพลสฤษดิ์ รัฐบาลเผด็จการ นักศึกษาจับอาวุธต่อสู้กับรัฐ ช่วงชิงอำนาจรัฐ คนไทยสู้กันเอง ต่อมาปี 2506 เกิดวาตะภัยแหลมตะลุมพุก จอมพลสฤษดิ์ ถึงแก่อนิจกรรมอำนาจมาสู่จอมพลถนอม กิตติขจร หากยังไม่เชื่อย้อนกลับอีก 30 ปี ไปเจอปี 2475 เกิดปฏิวัติสยาม เปลี่ยนแปลงปกครอง 24 มิ.ย.2475 ตามมาด้วยขบฏบวรเดช พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า สละราชสมบัติในปี 2477

เมื่อศึกษาวงรอบดาวเสาร์ จะเห็นว่าเกิดปัญหาขึ้นทุกรอบ ในส่วนรอบนี้ยังไปเล็งดวงจันทร์ในดวงเมือง หมายถึงประชาชน จะมีความคิดเห็นขัดแย้งรัฐบาล เพราะฉะนั้นจะเกิดการขัดแย้งนำมาสู่เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางเมืองครั้งสำคัญ น่าจะเกิดปี 2565 เพราะดาวเสาร์อยู่ถึงวันที่ 1 มี.ค.2566 ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงหรือเหตุเภทภัยต่าง จะเกิดขึ้นก่อนในช่วงนี้แน่นอน

“การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลปี 2565 จุดน่าจะล่อแหลม มี 2-3 ช่วงความรุนแรง จะเกิดการมืองครั้งสำคัญ เกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัยทางธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 26 ก.พ.2565 ถึง 7 เม.ย.2565 ช่วงดาวอังคารโคจรไปกุมดาวเสาร์ ตรงราศีมังกร พระอังคารได้มาตรฐานมหาอุตม์ มีพลังสูงส่ง”

อีกช่วงวันที่ 26 มิ.ย.2565 ถึงวันที่ 9 ส.ค.2565 ห้วงเวลาดาวอังคาร โคจรราศีเมษ กุม ราหู และดาวมฤตยู ดวงอาทิตย์ โคจร ราศีกรกฏ เล็งดาวเสาร์ ทำให้พระเสาร์ เพ็ญตรงราศีมังกร ทำมุมฉาก กับ ดาวอังคาร ปรากฏการณ์ตรงนี้ ต้องระวังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เกินความคาดฝันของคนไทย

อย่างไรก็ตามยังมีดาวพฤหัส โคจร 2 ราศี ช่วงแรกราศีกุม ภพที่ 11 ของดวงบ้านดวงเมือง ภพที่ดี ภพลาภะ ปกติให้คุณ ดาวพฤหัส คุมชะตบ้านเมือง ระหว่าง 8 พ.ย.2564 จนถึง 8 เม.ย.2565 ดาวพฤหัส เข้าราศีมีนในภพที่ 12 ของดวงเมือง ถึง 19 เม.ย.2566 เพราะฉะนั้นการโคจรภพที่ 11 ยังส่งผลดีคุ้มครองชะตาบ้านเมือง ซึ่งตำรากล่าวว่าถ้ามีโยกเกณฑ์ดี รัฐบาลจะมั่นคง งานรัฐสภาจะก้าวหน้า แม้เผชิญหน้าฝ่ายค้านอย่างหนัก แต่จะมีความสำเร็จ ได้รับความสนับสนุนจากดวงดาว แต่ถ้าโยกเข้าเกณฑ์ร้าย การบัญญัติกฏหมาย จะชะงักชักช้า เกิดปัญหาคะแนน เกิดความไม่พอในพรรคการเมืองพวกเดียวกันเอง นำมาซึ่งความยุ่งยากต่าง ๆ และอาจสูญเสียรัฐบุรุษบางคน จนต้องมีการเลือกตั้งซ่อมตามมาได้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img