ต้องยกเครดิตการแฉ ให้กับ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่ออกมาแฉข้อมูลความสัมพันธ์ลับระหว่าง “บิ๊ก ปปง.” (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) กับ “นายตู้ห่าว” และ “กลุ่มทุนจีนสีเทา” เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจและช่วยเหลือกันทางกฎหมาย แต่ไม่ดำเนินคดีฟอกเงิน
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. “ชูวิทย์” โพสต์ข้อความและเอกสารราชการระบุว่า “ประธาน ปปง. ลาออก ต้องยอมรับว่าเป็นลูกผู้ชาย ชื่นชมความกล้าหาญในการตัดสินใจ”
ถือเป็นวิถีทางที่หาได้ยากยิ่งสำหรับคนมีอำนาจในสังคมไทยทุกวันนี้ เพื่อตอบข้อครหา และพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ ไร้ซึ่งตำแหน่งเป็นเกราะป้องกัน
สำหรับเอกสารฉบับดังกล่าว พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ระบุเหตุผลขอลาออกจากตำแหน่งปประธาน ปปง. และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ปปง. ว่า ได้รับแต่งตั้งเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพทางร่างกาย ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มความสามารถ จึงขอลาออก ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม
“บิ๊ก ปปง.” กับทายาทป้องอาณาจักรธุรกิจสีเทา
แม้ว่า พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ย้ำว่า ตัวเองมีปัญหาสุขภาพ แต่กรณีที่คุณชุวิทย์ ได้ออกมาแฉเรื่อง “ข้าราชการระดับสูง” หรือ “บิ๊ก ปปง.” บางท่าน ถูกโยงกับทุนจีนสีเทา และบ่อนพนันออนไลน์ น่าจะมีน้ำหนักในการตัดสินใจครั้งนี้เช่นกัน
แหล่งข่าวระดับสูงใน ปปง. เปิดเผยว่า มีการจัดปาร์ตี้ ห้องผู้บริหารระดับสูงที่ชั้น 3 มีกลุ่มทุนจีนสีเทา กลุ่มเว็บพนันออนไลน์ ขึ้นลิฟต์เข้า-ออกห้อง ส่งบรรณาการทั้งไวน์และอาหารเลิศรส ปาร์ตี้กันแทบทุกเย็น
นัยว่า หากเว็บพนันออนไลน์…เว็บไหน ไม่อยากถูกตรวจสอบเส้นทางการเงิน หนทางเดียวที่จะทำได้ ก็ต้องมาที่ชั้น 3 สำนักงานหรูย่านสะพานหัวช้าง เพราะสิ่งที่เว็บพนันออนไลน์ กลัวที่สุด ก็คือ คดีข้อหาฟอกเงิน
ดังนั้น จึงไม่แปลก ที่ “บิ๊ก ปปง.” จะวางทายาทที่ไว้ใจได้ หลายตำแหน่ง / หลายระดับ สืบทอดอำนาจป้องกันอาณาจักรธุรกิจสีเทา ที่มีผลประโยชน์มหาศาล มาบำเรอให้พวกเขากินกันพุงกาง แต่เวรกรรมตามทันเสมอ
ลือว่า ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บุคคลระดับสูงใน ปปง. ย่องไปเก็บข้าวของจากห้องทำงานเสียเกลี้ยง รวมถังกระติกแช่ไวน์ ที่ใช้ประจำด้วย
ทีมข่าวได้หลักฐานเป็นภาพสำคัญ ที่สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์บางอย่าง ที่ต้องตั้งคำถามกันดังๆ ว่าสมควรหรือไม่
เมื่ออดีตดาราสาว “แยมกับสามี” ที่เพิ่งถูกจับในคดีเปิดเว็บพนันบอล โดยตำรวจสอบสวนกลาง ถูกยึดทรัพย์ไปกว่า 700 ล้านบาท และปรากฎภาพของผู้ต้องหา โพสต์เอาไว้ในสื่อสังคมออนไลน์
เป็นภาพที่ “เธอ-สามี” ร่วมทำบุญที่วัด นั่งอยู่ด้านหลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.ระดับสูง ที่ต้องเรียกเป็นระดับ “บิ๊ก ปปง.” ที่สั่งเจ้าหน้าที่ซ้ายหัน-ขวาหันได้
นอกจากนี้ “ลูกน้องคนสนิท” ที่ถูกวางตัวเป็นทายาท ปปง. ได้นั่งเก้าอี้ด้านหลัง ไกลกว่าที่นั่งของอดีตดารา สะท้อน “ความสำคัญ” และ “ลำดับชั้น” ได้พอสมควร
ที่เหลือเป็นคนสนิท ทั้งผู้ช่วยเลขา และ ผอ.ส่วน ที่รับหน้าที่เปิดตั๋ว “รับเคลียร์” กลุ่มธุรกิจสีเทา ที่หวาดกลัวการถูกตรวจสอบเส้นทางการเงิน…ร่วมงานอยู่ด้วย
ถึงปัจจุบัน มีคำถามเดียว ถึงหน่วยงานซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอย่าง ปปง. ที่ต้องทำหน้าที่ “ตัดเส้นทางการเงินคนร้าย”
ในวันนี้ ได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินบุคคลในองค์กรของตัวเอง ที่ไปพัวพันธุรกิจสีเทาผิดกฎหมาย กอบโกยผลประโยชน์แบบไม่เกรงกลัวฟ้าดินบ้างหรือยัง ???
อาจจะเริ่มจาก “ผอ.ส่วนบางคน” ที่ออกรถยุโรปป้ายแดงเป็นว่าเล่น ก่อนจะสาวไปถึง “บุคคลระดับบิ๊กๆ” ที่มีอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ก็ถือเป็นแนวทางที่ดี
ให้ประชาชนเห็นผลงานเป็นที่ประจักษ์ เพื่อเรียกความเชื่อมั่น ศรัทธา กลับคืนมาให้เร็วที่สุด
……….
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม