กลายเป็นคลื่นโหมกระหน่ำ องค์กรสีกากี อีกครั้ง เมื่อเน็ตไอดอลชาวจีน ที่ใช้ชื่อในสังคมออนไลน์ว่า “choudan0302” ได้โพสต์คลิปที่เธอจ่าย “ทิป” พิเศษ เพื่อซื้อบริการพิเศษของตำรวจ ที่ไปรับเธอกับแม่ถึงในสนามบิน ผ่านขั้นตอนประทับวีซ่าลงตราอย่างรวดเร็ว และมีรถนำขบวน พาไปส่งที่พัทยา
เรื่องนี้ ทำให้ทางต้นสังกัดของตำรวจที่เกี่ยวข้องในคลิป 3 นาย เป็น ตำรวจท่องเที่ยว และ ตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร ต้องออกมาชี้แจงประเด็นที่สังคมสงสัย อาทิ…
หากจ่ายเงินราว 1 หมื่นบาท เธอสามารถได้ประทับตราวีซ่าเข้าประเทศผ่านช่องทาง “ฟาสต์เเทร็ค” และยังมีบริการรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ นำขบวนไปส่งนักท่องเที่ยวกับแม่ ในเวลาอันรวดเร็ว ประมาณ 1 ชั่วโมงจากสนามบินสุวรรณภูมิ
เป็นคำถามที่สะท้อนไปยังองค์กรที่บังคับใช้กฎหมายว่า การกระทำเช่นนี้ มีกฎหมาย ระเบียบใดรองรับให้ทำได้หรือไม่ รวมทั้ง เป็นการใช้รถยนต์ น้ำมันหลวง ไปหาประโยชน์ส่วนตนหรือไม่ และสุดท้าย เงินค่าบริการที่เก็บจากนักท่องเที่ยว ไปเข้ากระเป๋าใคร???
ล่าสุด มีการชี้แจงว่า ยานพาหนะที่ปรากฎในภาพ เป็นรถจักรยานยนต์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร นอกจากนี้ ทางต้นสังกัดนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยแล้ว จะมีการดำเนินคดีเอาผิดฐานติดไซเรน และเปิดใช้สัญญาณฉุกเฉินโดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อลองตรวจสอบ หลักเกณฑ์ในการพิจารณาการขอรถนำขบวน ได้แก่
1.เส้นทางที่จะไป เป็นเส้นทางอันตรายเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
2.มีจำนวนรถในขบวน รถโดยสารไม่ประจำทาง 8 คัน หรือ รถยนต์เก๋ง 10 คัน หรือ รวมกัน 10 คันขึ้นไป
3.ต้องมีรถวิทยุตรวจการณ์เพียงพอ ไม่กระทบภารกิจหลักหรือการถวายความปลอดภัยฯ, คำนึงถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในภารกิจประจำด้วย
4.เอกสารและเหตุผลประกอบการขอรถนำขบวน ต้องยื่นที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยต้องร้องขอล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน
นอกจากนี้ ยังมีหลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญหรือนักการเมือง หรือการใช้รับรองแขกต่างประเทศในการเยือนประเทศไทย ซึ่งจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป
แต่ไม่มีกรณีใด ที่ระบุถึงการใช้รถนำขบวนให้กับนักท่องเที่ยวได้
“โซเชียลจีน” ขย้ำซ้ำ “7 สิ่งใช้เงินซื้อได้ในเมืองไทย”
ล่าสุดโซเชียล ยังได้แชร์ข้อความจากแอปพลิเคชันของจีนที่มีการส่งต่อและแปลข้อความเอาไว้ ซึ่งได้ระบุว่า นอกจากบริการรถตำรวจนำทางแล้ว ยังมีบริการอื่น ๆที่สามารถใช้ได้ในประเทศไทย ได้แก่
-บริการทดสอบเด็กหลอดแก้ว
-บริการตำรวจรับจากในสนามบินแบบ VIP (กรณีนักท่องเที่ยวจีนทดลองใช้)
-บริการทำวีซ่าอีลิท 5 ปี 10 ปี 20 ปี (เป็นนโยบายของรัฐบาล)
-บริการเปิดบัญชีธนาคาร ทำบัตร ATM
-บริการทำใบขับขี่
-บริการเช่ารถรายวัน รายเดือน
-บริการเช่าเรือยอชต์ วิลล่า บอดี้การ์ด และตำรวจนำขบวน
ย้อนคดีฉาว ตม.เรียกเก็บค่าบริการประทับวีซ่าจีน 300 บาท
หากย้อนไปก่อนสถานการณ์โควิด-19 ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยว 35 ล้านคนเดินทางไปประเทศไทย โดยเป็นชาวจีนถึง 1 ใน 4 ครองสัดส่วนมากที่สุด (ราวๆ 8-10 ล้านคน) ซึ่งนักท่องเที่ยวจีน โดยปกติจะต้องเข้าคิวยาวที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และจ่ายค่าธรรมเนียมในการทำวีซ่าเข้าไทยที่ปลายทาง (Visa on Arrival) คนละ 2,000 บาท
ช่วงเดือนก.ย.ปี 2561 เกิดข่าวครึกโครมขึ้น เป็น คลิปเจ้าหน้าที่สนามบินดอนเมืองตบหน้านักท่องเที่ยวจีน คนจีนถ่ายคลิปไว้แล้วโพสในเมืองจีน แชร์กันไปแล้วเป็นล้านครั้ง กลายเป็นกระแสโกรธแค้นเพราะถูกเหยียดยาม ต่อต้านการท่องเที่ยวไทย
ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะว่า นักท่องเที่ยวจีนไม่ยอมจ่ายค่าบริการพิเศษที่ ตม. เรียกเก็บ ซึ่งเรียกกันเป็นประจำในอัตรา 2,000+300 บาท ใน 2,000 บาทนั้นมีใบเสร็จ แต่อีก 300 บาทไม่มีใบเสร็จ ถือเป็นค่าบริการให้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
ตามข่าวยังมีอีกว่า นอกจากนี้ก็ยังมีอีกว่า เมื่อไปถึงจุด Visa on Arrival ก็จะมีแบ่งเคาน์เตอร์เป็นแบบธรรมดา กับ Fast Track โดย Fast Track ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่ช่องธรรมดาไม่มีเจ้าหน้าที่นั่ง ทุกคนเลยต้องเข้าช่อง Fast Track ทั้งหมดอีกด้วย
แม้ต่อมา ข้อเท็จจริงจะปรากฎว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธการปั๊มวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนรายนี้ เพราะเขามีเอกสารไม่ครบ และต้องถูกส่งตัวกลับประเทศ แต่ก็มีการสั่งสอบสวน “ค่าบริการพิเศษ” 300 บาท นี้ให้สะเด็ดน้ำ
ในครั้งนั้น ช่วงปลายปี 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ยศและตำแหน่งขณะนั้น) กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่า หากจ่าย “ค่าธรรมเนียมพิเศษ” 300 บาท ก็จะสามารถรับวีซ่าได้โดยเร็ว ซึ่งได้ยินว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว จึงต้องมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพื่อแก้ไขปัญหาที่สะสมมานาน
ชี้แจงไม่มีจ่ายพิเศษ 300 บาท “ฟาสต์แทร็ค” ปั๊มวีซ่า
ขณะที่ พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผลดี รองผู้บังคับการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (ตำแหน่งขณะนั้น) กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าเข้าประเทศ ณ ปลายทางประเทศไทยหรือ Visa on Arrival หากทำเรื่องที่สถานทูตจะเสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
แต่ถ้าทำผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินจะเสียเพิ่มเป็น 2,000 บาท เพื่อช่วยลดขั้นตอนการปฏิบัติ ในส่วนกระแสข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่ของ ตม. เรียกเก็บเงิน 200-300 บาท เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เป็นความเข้าใจผิดของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่จะไม่รับพร้อมทำการคืนเงิน โดยบันทึกภาพเป็นหลักฐานทุกครั้ง
ต่อมา สำนักข่าวแชนแนลนิวส์เอเชียของสิงคโปร์ รายงานเมื่อวันที่ 9 ต.ค.2561 ว่า ประเด็นร้องเรียน เรื่องตำรวจตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานดอนเมือง 4 นาย เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินอำนวยความสะดวก ในการทำวีซ่าจากนักท่องเที่ยวจีน ได้ถูกสั่งย้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
………….
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม