วันนี้ ต้องบอกว่า พายุยังคงพัดโหมกระหน่ำ องค์กรสีกากี แห่งทุ่งปทุมวัน เพราะหลังจบกระแสข่าว ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ไปตั้งด่านรีดไถเพื่อนดาราสาวไต้หวัน ที่พกพาบุหรี่ไฟฟ้าได้ไม่นาน ก็มาถึงพายุลูกใหญ่กว่า นั่นคือบ่อนพนันออนไลน์ ที่มีกลุ่มสีกากีนอกแถวบางคนเข้าไปยุ่งเกี่ยว
เริ่มจากตัว “สารวัตรซัว” เบอร์หนึ่งบอนไซซ์แอล ที่ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” กล่าวถึงบ่อยๆ สารวัตรซัวเป็นเจ้าของแฟรนไชส์อาร์คมีเบ็ต เจ้าเดียวในไทย การที่ใครจะมาจดทะเบียนทำเว็บไซต์พนัน ต้องผ่านเว็บไซต์ของสารวัตรซัวเท่านั้น มีการคิดค่าบริการเป็นรายเดือน และเก็บเปอร์เซ็นต์จากยอดแทงรายเดือนต่างหาก
สารวัตรซัวมีเพื่อนๆ ที่เก่งกาจด้านโปรแกรมเมอร์ ตัวเขาเองก็เชี่ยวชาญไม่แพ้กัน เลยถือเป็นกลุ่มที่บุกเบิกเว็บพนันเจ้าแรกๆ ในไทย เว็บไซต์ต่างๆ ต้องวิ่งมาหาตัวเขาทั้งนั้น
ดังนั้น รายได้ของสารวัตรซัวจึงมหาศาล คาดว่าทรัพย์สินทั้งหมดของเขาในปัจจุบัน มีมากกว่าพันล้านบาทและอาจแตะหลักหมื่นล้านบาท
ขณะนี้เจ้าตัวใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ และชี้แจงผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว บอกว่าเขาไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา และพร้อมกลับมาชี้แจงข้อเท็จจริง
ปัจจุบันสารวัตรซัว ถูกออกจากราชการตำรวจ ฐานทำผิดวินัยร้ายแรง ขาดราชการ แต่ยังไม่มีคดีอาญาเข้ามาเกี่ยวข้อง
“ผู้กองลุค” รุ่นน้องคนสนิท ลูกของดาบมนัส เปิดเว็บไซต์เครือข่าย
ส่วนเครือข่ายสารวัตรซัว มีอดีตทหารอีกหนึ่งคน คือ “ผู้กองลุค” เป็นอดีตทหารบกเพิ่งบรรจุ แล้วไปอบรมตำรวจโครงการ กอส. ก่อนย้ายมาบรรจุเป็นตำรวจตามสารวัตรซัว รุ่นพี่
“ผู้กองลุค” ปัจจุบันสังกัดกองบังคับการอำนวยการ แบ็กกราวน์สำคัญของเขา คือ มีศักดิ์เป็นบุตรบุญธรรมของ “ดาบมนัส” เจ้าของบ่อนลอยฟ้าอันโด่งดัง
“สารวัตรซัว” และ “ผู้กองลุค” สนิทสนมกันมาก ไปทริปต่างประเทศด้วยกันบ่อยๆ โดย “ลุค” ได้เปิดเว็บไซต์พนัน แยกเป็นอีกสายหนึ่งจากสารวัตรซัว ใช้ชีวิตหรูหราไม่ต่างกัน โดยเอาชื่อมาแปะเป็นตำรวจไว้
ในปี 2564 “สารวัตรซัว” จับมือกับ “ดาบมนัส” เปิดตลาดสดใหญ่และทันสมัยที่สุดย่านฝั่งธนบุรี ขยายธุรกิจเพิ่มเติมจากเดิม ที่มีบริษัทในเครือกว่า 10 บริษัท ทุนจดทะเบียนรวมนับพันล้านบาท
รู้จัก “รูบี้” สมุนสารวัตรซัว หลานอดีตบิ๊กตร. เจ้าของเว็บพนัน
ตัวละครสุดท้ายที่สำคัญมาก คือ “รูบี้” น้องรักที่ซี้ย่ำปึ้กกับสารวัตรซัว ถูกหล่อหลอมมาจากสถาบันเดียวกับสารวัตรซัว แต่ประวัติเขาไม่ธรรมดา เพราะ เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพี่สาวอดีตบิ๊กตำรวจท่านหนึ่ง
ดังนั้น “รูบี้” จึงมีศักดิ์เป็นหลานอดีตบิ๊กตำรวจท่านนี้นั่นเอง
“รูบี้” เข้ารับราชการตำรวจ เป็นตำรวจสายนายร้อยอบรม หลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร หรือ กอส. เช่นเดียวกับ “ลุค” ลูกบุญธรรมดาบมนัสบ่อนลอยฟ้า
กล่าวกันว่า หาก “ลุค” เป็นมือขวา-“หมวดรูบี้” ก็มือซ้ายของ “สารวัตรซัว” ดีๆ นี่เอง
“รูบี้” เหนือชั้นกว่าเว็บพนันอื่นๆ เนื่องจากได้รับความไว้วางใจจาก “สารวัตรซัว” มีโปรแกรมเมอร์ของตัวเอง ทำเว็บพนันที่มีชื่อเกี่ยวกับ “สลอต” นับเป็น “สายแข็ง” ระดับที่ “ไม่มีใครกล้าแตะ” เพราะเป็นถึง “หลานอดีตบิ๊กตำรวจ” ตามที่กล่าวมา
หากอยากรู้ว่า “รูบี้” ใช้ชีวิตหรูหราแค่ไหน ต้องไปติดตามช่องยูทูบเบอร์ระดับล้านซับ ของ “แฟนสาวรูบี้” เป็น “เน็ตไอดอล” สายแต่งหน้า-ขายเสื้อผ้าเครื่องสำอาง
ในแชนแนลของหญิงสาวคนนี้ จะเห็นไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตหรูหรา แต่งหน้าทำผมใส่ชุดสวยงามไปเที่ยวเมืองนอก รีวิวที่พักอาหารการกินในหลายประเทศ
และเงินที่นำมาใช้โปรโมทสินค้า เครื่องสำอางในแบรนด์เน็ตไอดอลท่านนี้ ก็เป็นเงินจากเว็บพนันของ “รูบี้” ทั้งนั้น
รวยตามรอยลูกพี่ ปลูกบ้าน 100 ล้าน มีรถสปอร์ตหรู
ในช่วงอายุ 30 ต้นๆ “รูบี้” เจริญรอยตามรุ่นพี่อย่างสารวัตรซัว มีบ้านราคาร้อยล้าน มีรถสปอร์ตหรูหลายคัน
แต่อย่างที่เคยบอกไว้ว่า แก๊งนายบ่อนสีกากีกลุ่มนี้ ค่อนข้างเหนือชั้น ในแง่ที่ทำตัวโลว์โพรไฟล์ในเมืองไทย แต่ไปใช้ชีวิตระดับไฮเอนด์ เสวยสุขที่ต่างประเทศ
“นายพล จ.” ยืนกรานไม่เกี่ยวข้องแก๊งเว็บไซต์พนัน
ส่วน “นายพล จ.” คนดังชอบออกสื่อโซเชียล ตอนนี้ถูกกระแสถาโถมเข้ามาไม่แพ้กัน ว่าเกี่ยวข้องกับ “สารวัตรซัว” เพราะถือเป็นลูกพี่ใหญ่ จากสถาบันการศึกษาที่หล่อหลอมมาด้วยกัน
ปัจจุบันนี้ “นายพล จ.” บอกว่าท่านไม่ได้อยู่ในหน่วยงานปราบปรามเว็บไซต์อาชญากรรมเว็บพนันแล้ว และไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มเว็บพนัน ไม่ว่าทางตรง-ทางอ้อม
แต่ท่านคงปฏิเสธยาก เพราะหลักฐานบนเฟซบุ๊ก ที่เคยโพสต์ขอบคุณ “สารวัตรซัว” ที่รู้จักมักคุ้นกันในฐานะรุ่นพี่-รุ่นน้อง ครั้งนั้นเป็นการที่ “สารวัตรซัว” มาช่วยจัดงานแข่งขันกีฬาของสถาบัน
ถึงวันนี้ พายุที่ถาโถมกระหน่ำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ล้วนเป็นผลจากการกระทำของ “ตำรวจนอกแถวส่วนหนึ่ง” เท่านั้น เชื่อเหลือเกินว่า “ตำรวจดีๆ” มีอยู่ในองค์กรเป็นส่วนใหญ่
แต่การหลับหูหลับตา ปล่อยให้ “นายบ่อนสีกากีกลุ่มนี้” ทำธุรกิจได้มาหลายสิบปี โดยไม่เคยถูกตรวจสอบ
บรรดา “นายระดับสูงทั้งหลาย” ก็ต้องตอบสังคมให้ได้เช่นกันว่า เป็นเพราะเหตุใด???
……….
รายงานพิเศษ….ฟ้าคำราม
