เรียกว่า ฝุ่นตลบทุ่งปทุมวัน กันเลย เมื่อวันนี้มีการบุกบ้าน “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตร. เนื่องจากมี “ลูกน้องมือทำงาน” ถูกจับกุมใน คดีพัวพันเว็บไซต์พนัน
แต่อีกหนึ่งปมปัญหาที่มีการพูดถึง ว่าการบุกค้นครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ที่มีการพิจารณาในวันที่ 27 ก.ย.นี้ด้วยหรือไม่
เมื่อเราลองเรียงลำดับอาวุโสของรอง ผบ.ตร. จะเป็นดังนี้
อาวุโสลำดับ 1 พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์
อาวุโสลำดับ 2 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
อาวุโสลำดับ 3 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
อาวุโสลำดับ 4 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล
จะเห็นได้ว่า “บิ๊กโจ๊ก” ถือว่าเป็นแคนดิเดตคนสำคัญ ที่จะได้ดำรงตำแหน่ง “พิทักษ์ 1” รหัสเรียกขาน “ผบ.ตร.” แม้ว่าจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งในปีนี้ แต่ปีถัดไปกับอายุราชการที่เหลือ เรียกว่า “บิ๊กโจ๊ก” มีเส้นทางที่สดใสรออยู่ จนกระทั่งการตรวจค้นบ้านพักเมื่อเช้าวันนี้
ขณะเดียวกัน มีการเผยแพร่ เอกสารร่างคำฟ้อง ในกรณี “ที่อาจ” มีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ข้ามลำดับอาวุโส เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียมี จำเลย 2 ราย คือ ประธาน ก.ตร. (นายกรัฐมนตรีโดยตำแหน่ง) และ คณะกรรมการ ก.ตร. โดยเอกสารดังกล่าว มีข้อเรียกร้องที่น่าสนใจหลายประเด็น คือ
–แคนดิเดต 3 ราย จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ใช้เวลา 4 ปีเต็ม
–แคนดิเดตบางราย จบหลักสูตร กอส. ที่มีระยะเวลาอบรมเพียง 4 เดือน
–แคนดิเดตบางราย ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ครองตำแหน่ง จากรองผกก.-รองผบ.ตร. ใช้เวลาเพียง 9 ปี 6 เดือน
–แคนดิเดตบางราย มีประสบการณ์สืบสวนปราบปรามแค่ 24 ปี ต่างจากแคนดิเดตรายอื่น ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี (34 ปี)
ดังนั้น จึงไม่สามารถอ้างเรื่องผลงาน หรือเหตุผล ให้มีการข้ามลำดับอาวุโสได้
เอาผิด 157 ผู้เกี่ยวข้อง ชี้ผิดรธน.-พ.ร.บ.ตำรวจ 65
ท้ายร่างคำฟ้องฉบับนี้ บอกไว้ด้วยว่า หากมีการแต่งตั้งข้ามลำดับอาวุโส เป็นการมิชอบและขัดกฎหมาย เป็นใช้ดุลพินิจที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 รวมทั้งไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม ระบบคุณธรรม และหลักเกณฑ์ที่กฎหมาย
ดังนั้น จึงเป็นการร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91 และโจทก์ไม่ได้ร้องทุกข์ เพราะประสงค์จะดำเนินคดีเอง
……………….
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม