“เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นำแถลงข่าวภายหลังเป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet
โดยรัฐบาลจะเร่งสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ผ่านการเติมเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจมูลค่า 600,000 ล้านบาท โดยจะอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 500,000 ล้านบาท ครอบคลุม 50 ล้านคน และอีก 100,000 ล้านบาท ในกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ
โดยรัฐบาลได้ฟังความคิดเห็นจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และ หน่วยงานอื่นๆ ทำงานร่วมกันและปรับเงื่อนไขโครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้รัดกุมขึ้น
สำหรับผู้มีสิทธิ์รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีหลักเกณฑ์สำคัญคือ
1.คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป
2.มีรายได้ไม่ถึง 70,000 บาทต่อเดือน
3.มีเงินฝากต่ำกว่า 500,000 บาท
ทั้งนี้ ให้สิทธิ์ใช้ครั้งแรกในระยะเวลา 6 เดือนหลังโครงการเริ่มขยายพื้นที่การใช้จ่ายครอบคลุมระดับอำเภอ
“ถ้ามีรายได้เกิน 70,000 บาท แต่มีเงินฝากน้อยกว่า 500,000 บาท ก็จะไม่ได้รับสิทธิ์ หรือถ้ารายได้น้อยกว่า 70,000 บาท แต่มีเงินฝากมากกว่า 500,000 บาท ก็จะไม่ได้รับสิทธิ์เช่นกัน” นายกฯเศรษฐา กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนการใช้จ่ายนั้น จะจ่ายในระดับอำเภอ มีระยะเวลาใช้จ่ายก้อนแรกภาย 6 เดือน สามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้เท่านั้น ซื้อบริการไม่ได้ แลกเปลี่ยนเป็นเงินสดไม่ได้ ซื้อทองเพรชพลอย หรือนำไปชำระหนี้ไม่ได้
สำหรับร้านค้าไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ร้านค้าที่สามารถขึ้นเป็นเงินสดได้ ต้องเป็นร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น
ผุดโครงการ “อี-รีฟันด์” ให้คนพลาดดิจิทัลวอลเล็ต
นอกจากนี้ รัฐบาลจะออก โครงการ e-Refund ให้คนไทยสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคล จากการซื้อสินค้าและบริการมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท โดยใช้ใบกำกับภาษีมายื่นภาษีบุคคล และรัฐจะคืนเงินภาษีให้
โดยคนที่ไม่ได้รับสิทธิ์ดิจิทัล วอลเล็ต ก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการนี้ได้ และจะทำให้ร้านค้าเข้าระบบภาษีดิจิทัลมากขึ้นด้วย
สำหรับที่มาของโครงการ รัฐบาลจะดำเนินการออกเป็นพ.ร.บ.เงินกู้ 500,000 ล้านบาท เป็นไปตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 และนายกฯเชื่อว่าจะได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา
เมื่อไล่เรียงไทม์ไลน์ โครงการ Digital Wallet จะเป็นดังนี้
1.ปลายปี 2566 ส่งเรื่องตีความโดยกฤษฎีกา และกระบวนการกฎหมาย
2.ต้นปี 2567 นำเรื่องเข้าสู่สภา จัดเตรียมงบประมาณ
3.พ.ค. 2567 เปิดให้ประชาชนได้ใช้เงิน Digital Wallet
นายกรัฐมนตรี สรุปว่า นโยบายทั้งหมดนี้จะส่งผลดีต่อประเทศ 2 ด้าน คือ
1.กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในระยะสั้น โดยมีประชาชนทุกภาคส่วนเป็นกลไกที่สำคัญ ผ่านการบริโภคและการลงทุน
2.วางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อนำไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและ E-Government ซึ่งเป็นการวางและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศในระยะยาว
………
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม