กรณี อดีตนักชกเหรียญทองฮีโร่โอลิมปิกส์ “บาส-สมรักษ์ คำสิงห์” เจ้าของฉายา “ไม่ได้โม้” ที่กลายเป็นผู้ต้องหา ในคดีอนาจารหญิงสาวอายุ 17 ปี จนกลายเป็นข่าวฉาวทั่วประเทศ ถูกตำรวจแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา คือ
1.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองฯ
2.ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารฯ
3.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ
4.พยายามข่มขืนผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ
ส่วน คนขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ชื่อ “แป๊กโก้” ที่เป็นคนสนิท และเป็นลูกศิษย์ค่ายมวย พา “สมรักษ์” และ “หญิงสาว” ไปส่งที่โรงแรม ถูกกล่าวหาว่า
1.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองฯ
2.ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารฯ
สังคมอาจตั้งข้อสังเกต แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ
1.ฝ่ายสนับสนุน “สมรักษ์” เพราะดูจากพฤติกรรมของ “หญิงสาว” อาจตั้งใจมีการแบล็กเมล์หรือไม่ และฝ่ายเพื่อนหญิงสาวเอง ให้ข้อมูลในทำนองว่า “ผู้เสียหาย” เป็นฝ่ายตั้งใจไปกับ “สมรักษ์” เอง
แต่จากการให้สัมภาษณ์ของผู้ใกล้ชิดเด็ก ทั้งแม่ พ่อเลี้ยง รวมถึงตัวเด็กเอง ต่างยืนยันว่า ไม่ต้องการเงิน และต้องการเอาผิด “สมรักษ์” ให้ถึงที่สุด
2.ฝ่ายสนับสนุน “หญิงสาว” ขอให้กฎหมายเอาผิดกับอดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกส์ถึงที่สุด เพราะไม่วางตัวให้เหมาะสม ทั้งที่เด็กสาวคนนี้ แทบจะเป็นลูกผู้ต้องหาได้
เรื่องนี้ “สมรักษ์” ได้ยอมออกมาขอโทษสังคมแล้ว ส่วนการต่อสู้คดีตามข้อกฎหมายนั้น จากพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ต้องเรียกว่า “สมรักษ์” มีโอกาสเสี่ยงคุก เสี่ยงตารางสูงมาก แม้ขณะนี้จะยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในคดีนี้ น่าจะมีผลต่อคดีค่อนข้างสูง
ขณะเดียวกัน ในโลกออนไลน์มีการส่งต่อสัญญาขอมีเพศสัมพันธ์แบบเฉพาะกิจ เพื่อป้องกันหลังประกอบกิจกรรมกันแล้วจะมีปัญหาแจ้งความดำเนินคดี ไม่ว่าทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชาย หลังมีข่าว “สมรักษ์ คำสิงห์” ถูกเด็กสาววัย 17 แจ้งความดำเนินคดี
เนื้อหาสาระในสัญญา มีรายละเอียดที่น่าสนใจ อาทิ
1.ผู้มีเพศสัมพันธ์ทั้งสองฝ่าย ตกลงยินยอมมีเพศสัมพันธ์ร่วมกันโตยมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และปราศจากการบังคับเข็ญใจ
2.ผู้มีเพศสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอมมีเพศสัมพันธ์ โดยใส่ถุงยางอนามัย
3.ผู้มีเพศสัมพันธ์ทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วยความรุนแรงโดยบทบาทสมมติ และให้หยุดกระทำความรุนแรงเมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเอ่ยคำสำคัญ ที่ได้ตกลงกัน เป็นต้น
จากการสอบถาม แหล่งข่าวผู้พิพากษาศาลยุติธรรม อธิบายว่า เรื่องนี้ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย มีคู่สมรสอยู่แล้ว หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เยาว์ หรือเป็นคู่หมั้นใครอยู่ ก็น่าจะเข้าข่ายเป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี
แต่ถ้าไม่ใช่ บุคคลดังกล่าวที่ลงนามในสัญญา ถ้ายึดตามหลักสิทธิเสรึภาพ ก็คิดว่าน่าจะเป็นหลักฐานบังคับใช้ได้ถูกต้องตามกฎหมาย
แต่ทั้งนี้ ต้องดูด้วยว่า เจตนาที่แท้จริงคือ การเลี่ยงการค้าประเวณีหรือไม่ หากพบเป็นการค้าประเวณี ก็ไม่สามารถบังคับใช้ได้อีกเช่นกัน
………
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม