ภายหลังจากเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า “ทักษิณ ชินวัตร” จะได้พักรักษาตัว ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ…ต่อไปอีก หลังจากแพทย์ได้ทำความเห็นมาให้ “กรมราชทัณฑ์” กรณีนักโทษรับการรักษาครบ 120 วัน
เมื่อลองตรวจสอบประกาศของกรมราชทัณฑ์ อย่างน้อย 3 ฉบับ เกี่ยวกับการพักโทษกรณีเหตุพิเศษ คือเ จ็บป่วยร้ายแรง หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป นี่อาจมองได้ว่า จะเป็นก้าวต่อไปของชายชั้น 14
ก่อนหน้านี้ ในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ตั้งแต่ปลายปี 2562 และเริ่มระบาดหนักในช่วงต้นปี 2563 / ทางกรมราชทัณฑ์ได้มีประกาศที่สำคัญออกมา 2 ฉบับคือ
วันที่ 28 ตุลาคม 2563
1.ประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
2.ประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตนักโทษเด็ดขาดสูงอายุ ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
ใจความโดยสรุปของประกาศทั้ง 2 ฉบับคือ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงต้องกำชับให้เรือนจำทุกแห่ง เร่งรัดตรวจสอบรายชื่อกลุ่มนักโทษสูงอายุทั้ง 2 กลุ่มนี้ ที่จะได้รับการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษตามโครงการ เพราะมีความเสี่ยงหากต้องอาศัยอยู่ในเรือนจำ
วันที่ 16 เมษายน 2564
ผ่านไป 6 เดือน มีประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง เร่งรัดการดำเนินการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษให้นักโทษทั้ง 2 กลุ่มข้างต้น ไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ทุกเรือนจำเร่งรัดการดำเนินการ
เมื่อลองไปตรวจสอบเงื่อนไขของนักโทษเด็ดขาด ที่จะได้รับการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากมีอาการเจ็บป่วยร้ายแรง กรมราชทัณฑ์ได้มีระเบียบหรือแนวทาง วางไว้ดังนี้
ข้อ 1. นักโทษเด็ดขาดที่จะได้รับการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ต้องมีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ทั่วไป ดังนี้
1.1 มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรา 52 (7) พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560
(รับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 ของกำหนดโทษ แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า ในที่นี้คุณทักษิณคือ 6 เดือน ครบ ก.พ.67)
1.2 เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางขึ้นไป
1.3 ต้องโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษฯ
1.4 ไม่มีโทษกักขัง หรือไม่ถูกคุมขัง ตามหมายขังในคดีอื่น
1.5 มีผู้อุปการะและยินดีรับอุปการะ
ข้อ 2 นักโทษเด็ดขาดที่จะได้รับการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากมีอาการเจ็บป่วยร้ายแรง ให้คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษพิจารณาดังนี้
1.คำนึงถึงอาการเจ็บป่วยร้ายแรง ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาด
2.เป็นผู้ป่วยที่ต้องการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง หรืออยู่ในภาวะวิกฤติเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
3.เป็นผู้ป่วยที่มีภาวะติดเตียง เป็นภาวะให้ผู้อื่นดูแล หรืออยู่ในภาวะพึ่งพิง เช่น ฟอกไต ล้างไต
4.โรคมะเร็งระยะลุกลามหรือระยะแพร่กระจาย
5.โรคเอดส์หรือภูมิคุ้มกันบกพร่องระยะมีโรคแทรกซ้อนแสดง
6.อาการร้ายแรง อัลไซเมอร์/สมองเสื่อม สมองพิการ อันอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิต หรือพิการ
7.หากถูกคุมขังในเรือนจำจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้เกิดอันตราย และทำให้มีโอกาสเสียชีวิตได้
8.เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพทางร่างกายแล้ว มีโอกาสจะกระทำผิดซ้ำน้อย ไม่เป็นอันตรายต่อสังคม
9.ต้องมีหลักฐานการรับรองจากแพทย์ 2 คน รับรองอาการเจ็บป่วย ประกอบการพิจารณาพักการลงโทษ
แน่นอนว่าประกาศที่ออกมา เพื่อดูแลกลุ่มนักโทษเปราะบาง ไม่ใช่ออกมาเพื่อเอื้อให้กับใคร คนใดคนหนึ่ง เนื่องจากช่วงนั้น มีวิกฤติโควิด-19 แพร่ระบาดเข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า “ชายชั้น 14” ย่อมได้อานิสงค์จากประกาศที่เกี่ยวข้องดังกล่าว โดยช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ น่าจะได้อิสรภาพ กลับไปพักโทษที่บ้าน
จึงนับได้ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่เคยถูกคุมขังในเรือนจำ แม้แต่วันเดียว
…………
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม