หลังจากที่ ทีมทนายความของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ชี้แจงใน 4 ประเด็นสำคัญ ที่ไปพัวพันกับ “บัญชีม้าเว็บพนัน” ที่คนใกล้ชิดเป็นผู้ถือบัญชีนี้เอาไว้
มีการนำภาพถ่าย ตั๋วเครื่องบิน ของ “พ.ต.ท.คริษฐ์” ที่ซื้อตั๋วไปกลับกรุงเทพ-หาดใหญ่ พร้อมลูกเมีย และยืนยันว่าไม่มีการซื้อตั๋วเครื่องใบให้กับเจ้าหน้าที่รัฐคนใด ไปหาดใหญ่ ตามข่าวที่มีการบิดเบือนออกมา นั่นเป็น 1 ใน 4 ประเด็นใหญ่ ที่ทีมทนายความได้แถลงไขไป
จากการตรวจสอบเบื้องลึก “ทีมข่าว” ได้หนังสือร้องเรียนจากคณะพนักงานสอบสวน ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดีมินนี่และเว็บพนันวีนัสมาสเตอร์ ได้ข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
คณะพนักงานสอบสวน ทำหนังสือร้องเรียนขอให้ตรวจสอบพิจารณาผู้เกี่ยวข้อง กับผู้พิจารณาไต่สวน ไปยังหน่วยงานปราบปรามทุจริตหน่วยงานหนึ่ง เนื่องจากพบความสัมพันธ์อันน่าสงสัยของ เจ้าหน้าที่ปราบทุจริต 3 คน ตามที่เราเคยรายงานไปก่อนหน้านี้ เราย้อนความจำกันนิดเดียว
1.นาย ส.
เป็นอนุกรรมการกลั่นกรองตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยังเป็นที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. หลายสมัย
2.นาย ว.
พนักงานไต่สวนระดับสูง สำนักไต่สวนการทุจริต ที่กำกับดูแล สตช.
3.นาย จ.
พนักงานไต่สวนระดับกลาง สำนักทุจริตภาคการเมือง เป็นลูกน้องขอนาย ส.
วันที่ 11 มี.ค.ถึงวันที่ 13 มี.ค.65 เจ้าหน้าที่ปราบทุจริต 3 นาย พาลูกเมียไปร่วมทริปไหว้พระ ทานอาหารที่หาดใหญ่ จ.สงขลา เราลงลึกรายละเอียดดังนี้
นาย ส. พาลูก 2 คนไปด้วย / นาย จ.พาแฟนสาว ที่ฝากฝังเป็นตำรวจไปด้วย / ส่วนนาย ว. ไปคนเดียว
รวมทริปนี้ มีผู้ร่วมเดินทาง 6 คน และแน่นอนว่า “พ่อบ้านพล.ต.อ.คนดัง” ใช้บัญชีม้าในการจองตั๋วเดินทางให้
ที่น่าสังเกต คือช่วงเวลาเดียวกันนั้น “พล.ต.อ.คนดัง” ขออนุมัติเปลี่ยนวันเดินทางไปราชการในพื้นที่จ.สงขลา และพื้นที่ใกล้เคียงในวันที่ 11-13 มี.ค.65
นอกจากนี้ ยังพบความเกี่ยวพันสนิทสนม มีการช่วยเหลือกันในด้านต่างๆ มานาน โดย “นาย ส.” เป็นผู้เกี่ยวข้องในการจัดทำเอกสารเพื่อยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของ “พล.ต.อ.คนดัง” รวมทั้งเอกสารต่างๆ เช่น สัญญาซื้อชายที่ดิน หนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของบุคคลต่างๆ
เราตรวจพบ พฤติกรรมที่ “นาย จ.” ยังแนะนำให้ “เซียนพระ” ถ่ายภาพโชว์ธนบัตรจำนวนหลายล้านบาท มีการกำกับท่าทางต่างๆ ให้ด้วย เพื่อประกอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินให้ตำรวจคนดัง
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการนัดทานอาหารและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องชี้แจง ป.ป.ช. กันบ่อยครั้ง มีลักษณะท่าทางต่างฝ่ายต่างให้การช่วยเหลือดูแลกัน เกินเลยมากกว่าการประสานงานกันตามปกติ
ส่วนผลประโยชน์ต่างตอบแทน คือ “นาย ส.” และ “นาย จ.” ฝากคนสนิท-คนใกล้ชิด ให้ได้รับข้าราชการตำรวจ ในวาระการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ด้วยวิธีการคัดเลือกและสอบสัมภาษณ์ และการอบรมหลักสูตร กอส.49
นอกจากนี้ ยังพบการฝากประวัติข้าราชการตำรวจ เพื่อขอรับการสนับสนุนให้ตำรงตำแหน่งสูงขึ้นในระดับสารวัตรและผู้กำกับการ แสดงให้เห็นว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีความใกล้ชิด สนิทสนมกันกับ “พล.ต.อ.นายนี้”
ดังนั้น คณะพนักงานสอบสวน ตำรวจสืบสวนคดีเว็บพนันดังกล่าว จึงหวั่นเกรงว่า ความใกล้ชิดสนิทสนม สัมพันธ์อันเกินควรนี้ จะกระทบต่อการทำคดีหรือไม่ จึงทำหนังสือร้องเรียนให้หน่วยปราบทุจริตหน่วยงานนี้ตรวจสอบ
และหากพบว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 รายเกี่ยวข้องกับคดี ขอให้เปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบที่ทำการพิจารณา ตรวจสอบ หรือเกี่ยวข้องในการไต่สวนเรื่องดังกล่าว เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย
รวมถึงเพื่อให้กระบวนการทั้งปวงในชั้นการพิจารณาของหน่วยงานปราบทุจริต เปี่ยมไปด้วยความชอบธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับกระบวนการยุติธรรม
อนึ่ง หากข้อมูลที่ปรากฏจากการตรวจสอบดังกล่าวข้างต้น พบเหตุอันควรสงสัยว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย มีพฤติการณ์ส่อเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมหรือวินัย ขอได้โปรดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย
เพื่อปกป้องชื่อเสียงของหน่วยงานปราบทุจริต และยังความยุติธรรมให้แก่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีเว็บพนันรายใหญ่ ที่เกิดขึ้นในสังคมในขณะนี้ด้วย
……….
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม
