วันอังคาร, มิถุนายน 18, 2024
หน้าแรกEXCLUSIVEจากคดีเรียกค่าไถ่“อินโดฯ” ปิดเกมจับ “แป้ง นาโหนด”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

จากคดีเรียกค่าไถ่“อินโดฯ” ปิดเกมจับ “แป้ง นาโหนด”

สำหรับ คดีอุ้มเรียกค่าไถ่ชาวอินโดนีเซีย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พ.ค.67 สถานกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำสังหวัดสงขลา ประสานให้ตำรวจไทยช่วยเหลือ นายชาวานา อายุ 29 ปี ที่ถูกจับตัวไป เรียกค่าไถ่ 2.3 ล้านบาท รวมทั้งช่วยเหลือชาวอินโดนีเซีย อีก 2 คน ที่ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วย

“ชาวานา” ถูกกลุ่มคนร้ายซ้อมทรมานอัดคลิปวิดีโอ ส่งให้กับทางครอบครัวเหยื่อ เพื่อเรียกเงินค่าไถ่ และทางญาติโอนเงินให้แล้ว 8 แสนบาท โดยพบว่า คนร้ายนำตัวมาควบคุม ที่บ้านญาติภรรยา “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หรือ “ชวลิต ทองด้วง” ผู้ต้องหาหนีคดีจากเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่กำลังหลบหนีอยู่

ต่อมา ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน ทราบชื่อ “รูสวัณ”, “ไซดี” ทั้งคู่เป็นชาวจ.นราธิวาส ถูกสอบในฐานะพยาน และ “วีระศักดิ์ ทองอุบล” หรือ “ปาน” ชาวจ.พัทลุง พร้อมอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก กุญแจมือ 1 อัน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง พัทลุง

มีรายงานว่า “วีระศักดิ์” ผู้ต้องหาคนสำคัญนั้นเป็นสมุนของ “แป้ง นาโหนด” นักโทษหลบหนีจากเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช / การสอบปากคำในครั้งแรกนั้น “วีระศักดิ์” ยังปกปิดรายละเอียด จนกระทั่งสุดท้าย…ยอมคายข้อมูลออกมาทั้งหมด

ต่อมาในวันที่ 18 พ.ค.67 ศาลจังหวัดพัทลุงได้อนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่ม 1 ราย คือ “ด.ต.หญิงเพลินพิศ จันทร์เทศ” สังกัด บช.ภ.9 ตามที่ “วีระศักดิ์” ให้การซัดทอดว่า ตำรวจหญิงคนดังกล่าว ขับรถนำผู้เสียหายชาวอินโดนีเซียมาส่งที่บ้าน โดยมอบหมายให้ “วีระศักดิ์” หรือ “ปาน” คอยดูแล

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด จนมีหลักฐานชัดเจนว่า “ด.ต.หญิงเพลินพิศ” เป็นผู้ร่วมขบวนการ ทางตำรวจได้เข้าควบคุมตัวได้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะขับรถยนต์กลับจากกรุงเทพฯ และนำมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทลุง

ในเบื้องต้น “ด.ต.หญิงเพลินพิศ” ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวแต่อย่างใด จะขอต่อสู้คดีตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุด โดยในเบื้องต้นศาลได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา

รายงานการสืบสวนในเชิงลึก ทราบว่า “ดาบเพลินพิศ” ถือเป็นญาติคนสนิทของเสี่ยแป้ง

เมื่อเรื่องทราบถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม จึงได้ส่งคนไปสอบปากคำ “ด.ต.หญิงเพลินพิศ” ถึงในเรือนจำ จนเจ้าตัวสารภาพว่า “เสี่ยแป้ง นาโหนด” กบดานอยู่ที่อินโดนีเซีย

ขณะที่ในช่วงดังกล่าว พ.ต.อ.ทวีเดินทางไปอินโดนีเซีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เลยประสานงานการติดตามตัว “แป้ง นาโหนด” ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย โดยมี พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ช่วยดำเนินการอย่างใกล้ชิด เพราะพล.อ.นิพัทธ์ มีสายสัมพันธ์ที่ดีมากกับอินโดนีเซีย

หลังจากนั้น ตำรวจไทยประสานตำรวจอินโดฯ และเข้าจับกุม “แป้ง นาโหนด” ได้ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย โดยทางการไทย มีสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานกงสุล เพื่อทำการส่งผู้ร้ายข้ามแดน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

แฉ “แป้ง นาโหนด” แกล้งใบ้-ใช้พาสปอร์ตปลอม สาวเวียนหาไม่ซ้ำหน้า

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า คดีนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีให้ตนบินไปที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อประสานกับทางการของอินโดนีเซีย ภายหลังได้รับรายงานว่า “แป้ง นาโหนด” ได้ปลอมหนังสือเดินทาง และเข้าไปอยู่ในอินโดนีเซีย

โดยมีรายงานว่า “เสี่ยแป้ง” กบดานอยู่อย่างระมัดระวังที่เมืองเมดาน เกาะสุมาตรา ที่บาหลี และอีกหลายแห่ง ทั้งนี้ตำรวจของอินโดนีเซียได้ให้ความร่วมมือ จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเข้าควบคุมตัว “แป้ง นาโหนด” ได้ที่บาหลี เบาะแสสำคัญคือ มีผู้หญิงหลายคนบินไปหา “แป้ง นาโหนด” ที่อินโดนีเซียตลอด แต่รายละเอียดอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน

รมว.ยุติธรรม ยังเปิดเผยด้วยว่า ทางการอินโดนีเซียได้วีดีโอคอลมายังตนเองเพื่อให้สอบปากคำ “แป้ง นาโหนด” และเป็นการยืนยันว่าเป็น “แป้ง นาโหนด” จริง พร้อมกันนี้ต้องขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะตำรวจภูธรภาค 9

ที่สำคัญเมื่อได้ตัว “แป้ง นาโหนด” แล้ว อาจจะนำมาซึ่งเบาะแส เชื่อมไปเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย

ส่วนขั้นตอนการนำตัวกลับมาดำเนินคดีนั้น รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการของตำรวจอินโดนีเซีย เนื่องจาก แป้ง นาโหนดถือหนังสือเดินทางปลอม

โดย “แป้ง นาโหนด” อาจจะเคยถูกตำรวจ ที่อินโดนีเซียจับกลุ่มหลายครั้ง แต่จะแสดงตัวเป็น “คนใบ้” เพราะไม่สามารถพูดภาษาอินโดนีเซียได้

แฉ “แป้ง นาโหนด” ย่ามใจ บินไปเที่ยวบาหลี

ส่วนตอนที่ไปจับกุม พบว่ามีเซฟเฮาส์หรือไม่ รมว.ยุติธรรม ระบุว่า เค้าเพิ่งบินไปเที่ยวบาหลี แต่ปกติพักอยู่ที่เมดัน เนื่องจากมีคอนโดใหญ่อยู่ที่นั่น ส่วนจะมีเส้นทางทางการเงินส่งไปให้ “แป้ง นาโหนด” ตลอดใช่หรือไม่นั้น ขอให้มีการสอบสวนก่อน

ทั้งนี้จากการพูดคุย “แป้ง นาโหนด” ยอมรับว่า จนมุมแล้ว ซึ่งทางเราได้ขอให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และจะรับรองเรื่องความปลอดภัย อีกทั้ง “แป้ง นาโหนด” ไม่เคยเตรียมตัวว่าจะถูกจับกุมได้ เพราะคงคิดว่าเป็นช่วงที่ปลอดภัยที่สุด จึงบินไปเที่ยว

…………..

รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img