วันอังคาร, มิถุนายน 18, 2024
หน้าแรกEXCLUSIVEโลกจับตาไทยจับ“ผู้ขอลี้ภัย” ข้อหา“ก่อการร้าย” ส่งเวียดนาม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

โลกจับตาไทยจับ“ผู้ขอลี้ภัย” ข้อหา“ก่อการร้าย” ส่งเวียดนาม

ปฏิบัติการร่วม ที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนภาค 1 ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำกำลังจับกุมตัว “อิ ควิง เบดั๊บ” อายุ 32 ปี สัญชาติเวียดนาม ตามหมายจับของศาลอาญา โดยถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน “ก่อการร้าย” โดยจับตัวได้ที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ซอยลาดพร้าว 1

“วีโอเอ เวียดนาม” รายงานข่าวเรื่องนี้ว่า “อิ ควิง เบดั๊บ” เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพในการนับถือศาสนา เป็นผู้ก่อตั้ง “กลุ่มมองตานญาด ฟอร์ จัสติซ” หรือ “เอ็มเอสเอฟเจ” ที่ยื่นเรื่องขอลี้ภัยไปประเทศแคนาดา

เรื่องนี้ เป็นที่กังวลในระดับนานาชาติ เพราะมีรายงานว่า รัฐบาลเวียดนามขอให้ส่งตัวเขา เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับประเทศ เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ก่อการร้าย”

สำหรับ “อิ ควิง เบดั๊บ” ยื่นขอลี้ภัยที่สถานเอกอัครราชทูตแคนาดาในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ปรากฎว่า วันรุ่งขึ้น ได้ถูกตำรวจไทยจับกุม หลังจากเจ้าหน้าที่จากองค์การระหว่างประเทศ เพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานแห่งสหประชาชาติ (IOM) พาเขาเดินทางจากสถานทูตแคนาดา ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อรอการตัดสินใจจากรัฐบาลแคนาดา

“ทนายความของผู้ต้องหา” มองว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการปราบปรามข้ามชาติ ตำรวจไทยจับกุมผู้ลี้ภัยที่ได้รับสถานะจากข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR และหน่วยงานประกาศให้เขาเป็นผู้ลี้ภัย

สำหรับ “มองตานญาด” เป็นชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาคริสต์ในประเทศเวียดนาม บางส่วนได้อพยพหนีมาประเทศไทย เพราะความหวาดกลัวในการนับถือศาสนา ส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ปริมณฑล อย่างเช่น นนทบุรี ปทุมธานี

ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีหนังสือด่วนที่สุดถึง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เรื่อง ขอประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีบุคคลสัญชาติเวียดนามกลุ่มชาติพันธุ์มองตานญาด มีความเสี่ยงตกอยู่ในอันตราย หากถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทาง

โดย “กสม.” ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือเร่งด่วน กรณี “อิ ควิง เบดั๊บ” ซึ่งได้รับบัตรของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ โดยบุคคลดังกล่าวอยู่ในประเทศไทย และมีความเสี่ยงตกอยู่ในอันตราย หากถูกส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทาง

ทั้งนี้ จากการประสานข้อเท็จจริงเบื้องต้น ทราบว่า บุคคลดังกล่าวเตรียมเดินทางไปตั้งถิ่นฐานในประเทศแคนาดาในฐานะผู้ลี้ภัย โดยมีสถานเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย และองค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องสนับสนุน

โดยคาดว่า การสัมภาษณ์และเอกสารการเดินทางที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังประเทศดังกล่าว จะแล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.

“กสม.” จึงมอบหมายสำนักงาน กสม.ประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอย่างเร่งด่วน เพราะอยู่ในหน้าที่และอำนาจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กสม. จึงมอบหมายสำนักงาน กสม. ประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอย่างเร่งด่วน เพราะอยู่ในหน้าที่และอำนาจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

จึงมีมติส่งเรื่องมาเพื่อพิจารณาไม่ผลักดันหรือส่งกลับบุคคลข้างต้นไปยังประเทศต้นทาง ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 รวมทั้ง ตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2560 ประกอบข้อ 18 ของระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน

โดยขอทราบความคืบหน้าและหรือผลดำเนินการภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

………..

รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img