เราไปทำความรู้จัก ภาพรวมของเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศไทยในยุคนี้ ที่ต้องบอกว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุด ในยุค “รัฐบาลเพื่อไทย”
สอดรับกับวิสัยทัศน์ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่กล่าวย้ำว่า “กาสิโน” เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของสถานบันเทิงครบวงจร ที่คาดว่าจะดึงเม็ดเงิน ค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เป็นรายได้เข้าประเทศมหาศาล
จากบันทึกการประชุม กมธ.เอนเตอร์เทนเมน์คอมเพล็กซ์ ผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ประยุกต์รายได้จากเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ในประเทศสิงคโปร์
คาดการณ์ว่า ค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่เข้าสถานบันเทิงครบวงจร จากเดิม 750 บาท/คน/หนึ่งการเดินทาง จะเพิ่มเป็นระดับ 60,500 บาท/คน/หนึ่งการเดินทาง
เพื่อให้เห็นภาพเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์มากยิ่งขึ้น ลองไปตรวจสอบร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง
“สถานบันเทิงครบวงจร” ทำได้เฉพาะ บจก. หรือ บมจ. ที่จดทะเบียนในประเทศไทย
มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท
ใบอนุญาตมีอายุ 30 ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต
ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมรายปี
ประเมินประสิทธิภาพของการดำเนินงานทุก 5 ปี
เมื่อใบอนุญาตครบอายุ ต่ออายุได้คราวละไม่เกิน 10 ปี
ประเภทธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ประกอบด้วย
1.ห้างสรรพสินค้า
2.โรงแรม
3.ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ หรือบาร์
4.สนามกีฬา
5.ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ
6.สถานที่เล่นเกม
7.สระว่ายน้ำและสวนน้ำ
8.สวนสนุก
9.พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP
10.กิจการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
กาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร
มี 2 ประเภท คือ
1.ใช้เครื่องเล่นซึ่งใช้เครื่องกล พลังไฟฟ้า พลังแสงสว่าง หรือพลังอื่นใดที่ใช้เล่นโดยวิธีสัมผัส เลื่อน กด ดีด ดึง ยิง โยน โยก หมุน หรือวิธีอื่นใดซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้
2.ใช้อุปกรณ์ซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ ไม่ว่าจะโดยการนับแต้มหรือเครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ก็ตาม
บุคคลห้ามเข้าสถานประกอบการกาสิโน
1.ผู้มีอายุน้อยกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
2.ผู้ซึ่งสำนักงานสั่งห้ามเข้าสถานประกอบการกาสิโน
3.ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งยังมิได้ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมตามที่
คณะกรรมการนโยบายประกาศก าหนด
4.ผู้ที่มีลักษณะของบุคคลต้องห้ามตามที่สำนักงานประกาศกำหนด
หากฝ่าฝืน ต้องชำระเงินค่าปรับ 100,000 บาทให้สำนักงาน
ขณะนี้ ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร อยู่ในขั้นตอนรับฟังความคิดเห็น แต่ข่าวลือเรื่องดีลใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการ ทั้งไทยและต่างชาติ ราวๆ 10 ราย ได้ข้อสรุปหมดแล้ว
ดังนั้น เหลือขั้นตอนสุดท้ายที่ต้องจับตาดูกัน คือ ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะสามารถผ่านสภาได้ทันรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่
และสถานบันเทิงครบวงจรในไทย ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ดูแล้วอาจด้อยกว่าเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์กลุ่มทุนจีน ที่กฎหมายเข้าไม่ถึง และมีจำนวนมาก ล้อมรอบเมืองไทยอยู่ขณะนี้ จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว หรือดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ ได้ตามที่หวังจริงหรือไม่
……………..
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม