วันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินหน้า เตรียมขออนุมัติ หมายจับ “หม่อง ชิต ตู่” ผู้นำบีจีเอฟ ผู้มีอิทธิพลสูงสุดในจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา พร้อมลูกสมุน อีก 2 ราย ในคดีค้ามนุษย์ชาวอินเดีย เมื่อปี 2565
สำหรับ “พ.อ.หม่อง ชิต ตู่” ถูกระบุว่า เป็นผู้นำกองกำลังชายแดน ที่มีส่วนเกี่ยวพันกับ “กลุ่มจีนเทา” ทั้ง “แก๊งสแกมเมอร์-แก๊งค้ามนุษย์” ในเมืองชเวก๊กโก่ รวมทั้ง “เคเคปาร์ค” จนทำให้ทางการไทย ต้องใช้มาตรการเด็ดขาด “ตัดไฟฟ้า-งดส่งน้ำมัน-ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต” ตามแนวชายแดน 5 จุด
“ดีเอสไอ” หอบเอกสารเข้ามาหารือกับ สำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 สำนักงานอัยการสูงสุด ในคดีพิเศษที่ 304/2565 ที่กลุ่มผู้ต้องหา นำโดย “พ.อ.หม่อง ชิต ตู่” ลวงเหยื่อชาวอินเดียไปรค้ามนุษย์ บังคับทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ่อนเฮงเชง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ในปี 2565
ผู้เสียหายของขบวนการดังกล่าว เป็นชาวอินเดีย 7 ราย ครั้งนั้นประเทศไทยถูกใช้เป็นทางผ่าน คล้ายกรณีของนักแสดงชายชาวจีน “ซิง ซิง” ต่อมา มีการช่วยเหลือเหยื่อออกมาได้ จากนั้นดีเอสไอรับสอบสวนคดีนี้เป็นคดีพิเศษ
มีรายงานว่า “ดีเอสไอ” เตรียมเสนอศาล เพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ 3 ราย ประกอบด้วย
1.พ.อ.ซอ ชิต ตู่ (Colonel Saw Chit Thu) หรือ พ.อ.หม่อง ชิต ตู่
2.พ.ท.โมเต โธน (Lieutenant Colonel Mote Thone)
3.พ.ต.ทิน วิน Tin Win (Major Tin Win)
สำหรับ “พ.อ.หม่อง ชิต ตู่” เคยเป็นทหารในกองทัพสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง เพื่อปลดปล่อยคนกะเหรี่ยง ต่อมาในปี 2538 เขาแยกกลุ่มออกมา แล้วเข้าร่วมกับกองทัพเมียนมา และค่อยๆ แผ่อิทธิพลมาถึงฝั่งตะวันออกเมียนมา ในจังหวัดเมียวดี ติดชายแดนไทย
ปี 2553 เขาตั้งกองกำลัง BGF ขึ้น และขึ้นตรงกับกองทัพเมียนมาเต็มตัว ด้วยภารกิจพิทักษ์ชายแดน
ในปี 2561 พ.อ.หม่อง ชิต ตู่ ได้ร่วมมือกับ “เสอจื้อเจียง” เจ้าพ่อเว็บพนันชาวจีน ที่ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่ประเทศไทย เดิมที “เสอจื้อเจียง” เปิดเว็บพนัน คอลเซ็นเตอร์ ที่สีหนุวิลล์ กัมพูชา
ต่อมาทางการจีน ร่วมกับกัมพูชา กวาดล้างอย่างหนัก ทำให้กลุ่มจีนเทา-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เลยหนีออกมาสร้างเมืองใหม่คือ “ชเวก๊กโก่” และ “เคเคพาร์ค” ที่ “เสอจื้อเจียง” ภายใต้ชื่อ บริษัท หย่าไถ่กรุ๊ป ลงทุนสร้าง เนรมิตเมืองใหม่ขึ้นมาด้วยเม็ดเงินกว่า 5 แสนล้านบาท
ครั้งนั้น “เสอจื้อเจียง” ยังมีแนวคิดพัฒนาเมืองใหม่ใกล้กับชายแดนไทยอีกด้วย แต่ต่อมาเขาถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัว ตามคำร้องขอของทางการจีน ปัจจุบัน “เสอจื้อเจียง” พยายามต่อสู้ ไม่ให้ส่งตัวเขากลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีน
สำหรับ “พ.อ.หม่อง ชิต ตู่” มีกำลังพลในมือ 8,000 คน คอยดูแลเมืองใหม่ให้กับ “เสอจื้อเจียง” ต่างคนต่างแลกผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน จน “พรรคประชาชน” (ปชน.) โดย “รังสิมันต์ โรม” เรียกร้องให้ทางการไทย ขออนุมัติหมายจับกุมตัว “พ.อ.หม่อง ชิต ตู่”
แน่นอนว่า การส่งกำลังไปจับกุมตัว “พ.อ.หม่อง ชิต ตู่” แทบไม่มีความเป็นไปได้ แต่การเดินหน้าขออนุมัติหมายจับตัว “พ.อ.หม่อง ชิต ตู่” เอาไว้ ก็ถือเป็นแนวทาง “ป้องปราม” ที่ถูกต้องในการ ตัดวงจรอาชญากรรมแนวชายแดนไทย ที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนคนไทย
อีกฝากฝั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังมี คำสั่งเด้ง “พล.ต.ต.รายหนึ่ง” ที่ถูกระบุว่า เป็นเจ้าของเมียวดีคอมเพล็กซ์ บ่อนพนันชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก และอาจเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ โดยตั้งชุดสอบให้รู้ผลใน 30 วัน พร้อมสั่งเด้ง “ผู้การจังหวัด” ที่ปล่อยปละละเลยไปด้วยในคราวเดียว
แต่ในขณะเดียวกัน หากมองเรื่องนี้ในมุมการเมืองย่อมส่งผลดี ว่ารัฐบาลมีแอคชั่นอย่างทันท่วงที ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวตะเข็บชายแดน ทั้ง “ตัดไฟฟ้า-งดส่งน้ำมัน-ตัดสัญญาณเน็ต-ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง”
โดยเชื่อว่าเรื่องนี้ จะเป็นเป้าโจมตีหลักของ “ฝ่ายค้าน” ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
…………..
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม
