แม้จนถึงตอนนี้ ทางการไทยมีความพยายามในการออกหมายจับ “พ.อ.หม่อง ชิต ตู่” และพวก ในความผิดเกี่ยวกับ การค้ามนุษย์ บังคับเหยื่อทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขณะเดียวกัน มีการสั่งเด้งนายพลฝั่งไทย ที่มีกระแสข่าวว่า ไปเกี่ยวข้องกับการเปิดกาสิโน ทางฝั่งเมียวดี
เราลองไปทำความรู้จักกับ “หม่อง ชิต ตู่” กับ การเปิดกาสิโนเมืองใหม่หลายแห่งให้ “กลุ่มจีนเทา” เข้ามาลงทุนในจังหวัดเมียวดี และตัวเขาในฐานะ ผู้นำบีจีเอฟ คอยเก็บผลประโยชน์ต่างๆ ดังนี้
1.ชเวเก๊กโก่ หรือ ฉ่วยก๊กโก
ในปี 2560 “พ.อ.หม่อง ชิต ตู่” ร่วมกับ “เสอ จื้อ เจียง” นักธุรกิจชาวจีนสัญชาติกัมพูชา ประธานหย่าไถ่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป พัฒนาเมืองชเวก๊กโก่
ครอบคลุมพื้นที่ 130,000 เอเคอร์ ด้วยการลงทุน 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 5 แสนล้านบาท
ในครั้งนั้น มีความพยายามบิดเบือนว่า เป็นโครงการวันเบลท์วันโรด ของประเทศจีน แต่สุดท้ายทางการจีนยืนยันไม่เกี่ยวข้อง
สุดท้ายกลายเป็น เมืองสแกมเมอร์ หลอกลวงเหยื่อจากทั่วโลก มาทำ “คอลเซ็นเตอร์-เว็บพนันออนไลน์” โดย “หม่อง ชิต ตู่” อ้างว่า…เขาถูกทุนจีนหลอก
ต่อมา “เสอ จื้อ เจียง” ถูกจับกุมตัวที่ไทย ในปี 2565 และทางการจีนพยายามขอตัวกลับไปดำเนินคดี
ที่ผ่านมา ตัวแทน หย่าไถ่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เคยเข้าให้ข้อมูลเรื่องกาสิโน กับกรรมาธิการคณะหนึ่ง และยังเป็นเจ้าของโครงการไทยสไมล์ บนถนนเพชรบุรี
2.เคเคพาร์ค
เกี่ยวข้องกับ “วั่น คว็อก คอย” อดีตผู้นำกลุ่ม 14K ไทรแอด อาชญากรที่สหรัฐฯขึ้นบัญชีดำ และมาเลเซียต้องการตัว ก่ออาชญากรรม เช่น การลักลอบขนยาเสพติด การฟอกเงินและการพนันออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหรัฐอเมริกา
โดยนายทุนจีนทั้ง 2 ราย คือ “เสอ จื้อ เจียง” และ “วั่น คว็อก คอย” นำเงินมาลงทุนในเมียนมา หลังมีการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง ในสีหนุวิลล์ กัมพูชา
ขณะที่ “พ.อ.หม่อง ชิตตู่” ผู้นำกะเหรี่ยงบีจีเอฟ นอกจากเก็บรายได้จากธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเรียกเก็บภาษีครั้งแรกของแรงงานที่ไปทำงาน 1-2 พันบาทแล้ว ยังมีธุรกิจครบวงจร เพื่อหล่อเลี้ยงเมืองสแกมเมอร์ อาทิ
- บริษัทไฟฟ้า ที่ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับทางการไทย
- บริษัทพลังงาน แก๊ส น้ำมัน
- บริษัทโทรคมนาคม ที่ร่วมลงทุนกับทางเวียดนาม
- บริษัทเหมืองแร่ เหมืองหินปูนในรัฐกะเหรี่ยง
ธุรกิจเหล่านี้ คือ เครือข่ายบริษัทในครอบครัว “พ.อ.หม่อง ชิต ตู่” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หากวันใดมีการงดจ่ายกระแสไฟ เขาก็มีบริษัทน้ำมัน มีแก๊สธรรมชาติ มีอินเทอร์เน็ต ไว้คอยรองรับ
นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญ ที่กลุ่มประเทศอียู ใช้มาตรการ “แซงก์ชั่น” บริษัทที่เกี่ยวข้องกับ “หม่อง ชิต ตู่” ทำให้เอกชนหลายแห่งไม่กล้าคบค้าสมาคมด้วย กับผู้อยู่เบื้องหลัง เมืองสแกมเมอร์-ค้ามนุษย์
จนกระทั่ง รัฐบาลไทย ในวันที่ 5 ก.พ. ได้ใช้มาตรการ “ตัดไฟ-ตัดน้ำมัน-ตัดเน็ต” ไปเมื่อไม่นานนี้ และจะมีการอนุมัติหมายจับ “หม่อง ชิต ตู่” ต่อไป
ส่วนความเคลื่อนไหวของรัฐบาลไทย “ภูมิธรรม เวชชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีการลงพื้นที่ชายแดนสระแก้ว
โดยทางจังหวัด และฝ่ายความมั่นคง เสนอให้มีการสร้างแนวรั้วกั้นชายแดนสระแก้ว ระยะทาง 55 กิโลเมตร เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามชายแดน
“ภูมิธรรม” ได้รับข้อเสนอไปพิจารณา โดยคาดว่า จะใช้งบประมาณ 286 ล้านบาท เพื่อดำเนินการ
จ่อตัดไฟชายแดน อรัญ-ช่องจอม-ช่องสะงำ-เกาะกง
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเตรียมขยายมาตรการระงับการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง และสัญญาณโทรคมนาคม ไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, พื้นที่ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์, พื้นที่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และพื้นที่ จ.ตราด และเกาะกง เพื่อให้การปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ “ภูมิธรรม” มั่นใจว่า ภายในระยะเวลา 6 เดือนนี้ มาตรการ “ตัดไฟ-ตัดน้ำมัน-ตัดอินเทอร์เน็ต” ที่หล่อเลี้ยงไปยังเมืองบาปชายแดน จะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
……………
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม
