เมื่อวันที่ 8 มี.ค.68 กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์ ยืนยัน “อดีตผู้กำกับโจ้-ถุงดำ” ที่ศาลอาญาทุจริตพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ใช้ผ้าขนหนู “ผูกคอตัวเอง” เสียชีวิตกับลูกกรง เมื่อคืนนี้
เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มี.ค.68 เวลาประมาณ 20.50 น. เจ้าพนักงานเรือนจำปฏิบัติหน้าที่เวรพยาบาล แจ้งเหตุผู้ต้องขังเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ ผู้ต้องขังชายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “โจ้”
สภาพผู้ต้องขัง นั่งหลังพิงกับประตูห้องขัง เจ้าหน้าที่ได้พยายามเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้แจ้งพัศดีเวรฯ และพยาบาลเวรฯ เข้าเปิดห้องขังเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
พบว่า ผู้ต้องขังใช้ผ้าขนหนูขนาดเล็กผูกคอกับประตูห้องขัง ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก ไม่รู้สึกตัว ปลายนิ้วมือซีดเขียวคล้ำ ไม่พบชีพจรบริเวณหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 7 มี.ค. ภรรยาได้มาเยี่ยมผู้ต้องขัง โดยเจ้าพนักงานเรือนจำไม่พบเหตุผิดปกติแต่อย่างใด ต่อมาช่วงเกิดเหตุ เจ้าพนักงานเวรรักษาการณ์ เดินไปจ่ายยาประจำตัวให้กับ “อดีตผู้กำกับโจ้” จึงพบเหตุดังกล่าว
ในเบื้องต้น เรือนจำฯได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าทางเดินของห้องขังผู้ต้องขัง ไม่พบว่า มีผู้ใดเข้า-ออกห้องดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมทั้งแจ้งพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ แพทย์เวร ฝ่ายปกครอง ร่วมชันสูตร

ก่อนหน้านี้ “อดีตผู้กำกับโจ้-ถุงดำ” มีโรคประจำตัวคือ ภาวะหัวใจสั่น มีไขมันในเลือดสูง และ มีอาการป่วยด้วยโรคทางจิตเวชวิตกกังวล ซึ่งได้รับการรักษาและรับยาต่อเนื่อง โดยพบจิตแพทย์ล่าสุด ในวันที่ 18 ก.พ.68 ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และมีนัดพบจิตแพทย์อีกในเดือนเม.ย.นี้
ขณะควบคุมในเรือนจำฯ ผู้ต้องขังมีพฤติกรรมหวาดระแวง กลัวผู้ต้องขังอื่นทำร้าย เนื่องจากเป็นอดีตข้าราชการตำรวจ ทางเรือนจำฯ จึงได้รับคำร้องของผู้ต้องขัง และพิจารณาอนุญาตให้แยกการควบคุมจากผู้ต้องขังอื่น
โดยหลังจากนี้ กรมราชทัณฑ์อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิต และขอยืนยันว่า ไม่มีเจ้าพนักงานเรือนจำหรือผู้ต้องขังรายใดทำร้าย “ผู้ต้องขังชายธิติสรรค์ฯ” และขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ต้องขัง
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ปรากฏโดยทันที และขอเรียนว่า เรือนจำฯได้ยึดถือปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ต้องขัง และดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชน
สำหรับ “อดีตผู้กำกับโจ้” ถูกดำเนินคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อเสรีภาพ ความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ
ต่อมา วันที่ 8 มิ.ย.65 ศาลอาญาคดีทุจริตฯพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต นับตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.64 ตามหมายจำคุกระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ต้องจำมาแล้วในเรือนจำ 3 ปี 6 เดือน 13 วัน รับตัวคุมขังเมื่อวันที่ 3 ก.ย.64 ปัจจุบันถูกคุมขังที่ห้องแยกการควบคุม แดน 5

สำหรับ “อดีตผู้กำกับโจ้” เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 41 และนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 57 เติบโตในกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ย้ายไปลงโรงพักในกองบัญชาการภาค 6 ก่อนย้ายมาเป็นผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อปลายปี 2563 ในวัย 41 ปี
นอกจากจะเป็นที่รู้จักในวงการตำรวจว่า “ผู้กำกับโจ้” แล้ว “พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล” มีอีกฉายาหนึ่งคือ “โจ้ เฟอร์รารี” ซึ่งสื่อถึงความนิยมชมชอบในการ “ครอบครองรถหรู” ของเขาที่ไม่ได้มีเพียง เฟอร์รารี แต่ยังมี ลัมโบร์กินี และอื่นๆ และยัง เคยคบหากับอดีตดาราสาว
จนกระทั่งวันที่ 5 ส.ค.64 มีการ “ปล่อยคลิป” ซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติด ด้วยการใช้ “ถุงดำคลุมหัว” ให้ขาดอากาศหายใจ เพื่อรีดเงิน 2 ล้านบาท ที่ห้องสืบสวนโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ จนกระทั่ง “อดีตผู้กำกับโจ้กับพวก 6 คน” ถูกจับกุมดำเนินคดี จบชีวิตดาวรุ่งพุ่งแรงในวงการตำรวจ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
……………..
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม