“จตช.” เผยผลทุจริตอมเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 พบคนทำผิด 189 ราย เป็นระดับนายพล 5 ราย ระดับพ.ต.อ. 48 นาย ย้ำใครหาพยานหลักฐานมาหักล้างได้ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ได้ ก็ต้องเจอวินัยร้ายแรง พ่วงคดีอาญาด้วย
เมื่อวันที่ 12 ม.ค.64 ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบเบี้ยเลี้ยงโควิด-19 ครั้งที่ 4 หลังจากนั้น พล.ต.อ.วิสนุ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการพูดคุยเพื่อสรุปตัวเลขผู้ที่กระทำความผิด ตัวเลขผู้ที่ถูกลงโทษไปแล้ว และผู้ที่อยู่ในกระบวนการสอบสวนทางวินัย หากหาพยานหลักฐานมาหักล้างได้ ก็ไม่เป็นไร หากหามาไม่ได้ ก็เป็นกระบวนการของวินัยร้ายแรง โทษสูงสุด ไล่ออก ปลดออก หากมีคดีอาญาด้วย ก็ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา
“เบื้องต้นที่ทราบตอนนี้มีผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 189 นาย เป็นระดับนายพล 5 นาย ระดับ พ.ต.อ. 48 นาย อย่างไรก็ตามจะสรุปผลการประชุมอย่างเป็นทางการให้ทราบต่อไป”พล.ต.อ.วิสนุกล่าว
สำหรับรายละเอียดในที่ประชุม มีการรายงานว่า ทุก บช. มีข้าราชการตำรวจที่เข้าสู่กระบวนการทางวินัย ประมาณ 189 นาย จากพื้นที่ นครบาล และ ภ.จว.รวม 23 จังหวัด ทั้งระดับกองบังคับการ ภูธจังหวัก และ ระดับสถานีตำรวจ รวม 73 หน่วย โดยมีตั้งแต่ระดับพล.ต.ต. หรือผู้บังคับการ 5 นาย พ.ต.อ. 48 นาย นอกนั้นเป็นระดับ รอง ผกก., สว. ,รอง สว. และ ผบ.หมู่ รวม 136 นาย ซึ่งมีการพิจารณาโทษตามแต่มูลเจตนาของผู้กระทำผิดตั้งแต่ เบาไปถึงหนัก ตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน การภาคฑัณฑ์ การกักยาม การกักขัง การตัดเงินเดือน และหนักสุดคือ การเสนอเข้าสู่การสอบสวนพิจารณาวินัยร้ายแรงซึ่งหากมีหลักฐานยืนยัน ก็จะเข้าสู่การลงโทษ ปลดออก ไล่ออก และดำเนินคดีทางอาญาต่อไป
นอกจากนั้นยังได้ดำเนินการทางการปกครองอีกส่วนหนึ่ง โดยมีการย้ายข้าราชการตำรวจที่ถูกพิจารณาโทษ โดยเฉพาะระดับ ผกก.-สว. ออกจากพื้นที่ไปทำหน้าที่อื่น เช่น ตำรวจภูธรภาค 6 และ ตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งพล.ต.อ.วิสนุได้กำชับไม่ให้มีการย้ายผู้ที่ถูกย้าย กลับไปที่เดิมโดยเด็ดขาด
ในที่ประชุม พล.ต.อ.วิสนุ ได้ย้ำให้ ทุก บช.ระมัดระวัง การเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกประเภท โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งตำรวจโดยเฉพาะในพื้นที่ประกาศล็อคดาวน์ จำเป็นต้องใช้กำลังพลสนับสนุนภารกิจ ทั้งการลาดตระเวน และจุดคัดกรอง ดังนั้นการพิจารณาโทษในครั้งนี้ ให้ทุกหน่วยถอดบทเรียน และต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยอีกแล้ว การเบิกจ่ายทุกชนิด ต้องไม่บกพร่อง จะอ้างว่า ไม่รู้ไม่เข้าใจระเบียบไม่ได้ ต้องทำให้ถูกต้องตั้งแต่กระดุมเม็ดแรก และในวันนี้เงินเบี้ยเลี้ยงที่เบิกมาต้องถึงมือผู้ได้รับสิทธิทั้งหมด โดยให้ ผบช.สตส. เข้าตรวจสอบตามกระบวนการตรวจสอบภายในให้เรียบร้อย โดยในลำดับต่อไป ทาง ตร.จะส่งรายงานผลการดำเนินการให้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และ ป.ป.ช. ทราบเป็นข้อมูล ต่อไป