หน้าแรกHighlightวันแรกถก GBC “กัมพูชา”ยังคงถล่มไม่ยั้ง ระดมยิง BM-21 ใส่ทหารไทยพลีชีพอีก1

วันแรกถก GBC “กัมพูชา”ยังคงถล่มไม่ยั้ง ระดมยิง BM-21 ใส่ทหารไทยพลีชีพอีก1

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ เผยสถานการณ์ปะทะไทย–กัมพูชายังยืดเยื้อ ชี้ฝ่ายกัมพูชาขาดความจริงใจในการลดความตึงเครียด หลังระดมยิงอาวุธหนักใส่ไทยต่อเนื่องทั้งที่อยู่ในช่วงริเริ่มประชุมคณะกรรมการชายแดนฯ พบโรงพยาบาลและ รพ.สต. ได้รับผลกระทบระนาวกว่า 258 แห่ง เตือนชาวบ้านระวังระเบิดตกค้างในพื้นที่เกษตร

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.68 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย–กัมพูชา สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงถึงสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ทำให้ยอดทหารไทยที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะเพิ่มเป็น 23 นายแล้ว

ต่อมาในเวลา 17.00 น. ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก ยิงจรวดหลายลำกล้อง บีเอ็ม-21 เข้าใส่พื้นที่อุทยานแห่งชาติผามออีแดง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้อาคารที่ทำการอุทยานได้รับความเสียหาย โดยขณะนี้ยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่องใน 2 พื้นที่หลัก คือ บริเวณบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว และพื้นที่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ

พล.ร.ต.สุรสันต์ ระบุว่า ในช่วงเวลา 10.15 น. ของวันนี้ (24 ธ.ค.) ฝ่ายกัมพูชายังระดมยิงจรวด บีเอ็ม-21 กว่า 80 ลูก เข้าใส่พื้นที่อำเภอตาพระยา และบริเวณบ้านคลองแผง จังหวัดสระแก้ว ภายหลังถูกฝ่ายไทยผลักดันออกจากพื้นที่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชายังคงดำเนินปฏิบัติการทางทหารด้วยอาวุธหนัก แม้อยู่ในช่วงที่ทั้งสองฝ่ายกำลังริเริ่มการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา เพื่อหาทางลดความตึงเครียดและนำไปสู่สันติภาพ

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงระดับความจริงใจของฝ่ายกัมพูชาในการร่วมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับไทย และทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องดำเนินการป้องกันตนเอง พร้อมตอบโต้ตามหลักกฎหมายและหลักการสากล เพื่อยุติการโจมตีดังกล่าว

สำหรับผลกระทบต่อภาคประชาชน ขณะนี้มีประชาชนอพยพเข้าพักในศูนย์พักพิงชั่วคราวรวม 150,529 คน จากศูนย์พักพิงทั้งหมด 779 แห่ง มีประชาชนเสียชีวิตจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาโดยตรง 1 ราย และเสียชีวิตจากผลกระทบทางอ้อมของสถานการณ์ความขัดแย้งอีก 41 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย

นอกจากนี้ ยังมีสถานพยาบาลได้รับผลกระทบ รวมทั้งสิ้น 18 โรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 240 แห่ง

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในบางพื้นที่ที่สถานการณ์เริ่มผ่อนคลาย ประชาชนสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง หากพบวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่เกษตรหรือบริเวณบ้านเรือน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เนื่องจากอาจเป็นวัตถุระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาและยังตกค้างอยู่ในพื้นที่พลเรือน

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img