ต่อมไทรอยด์ เป็นต่อมที่อยู่ด้านหน้าลำคอ เมื่อผิดปกติจะโตขึ้นจะเห็นเป็นก้อนบางครั้งก็เห็นเป็นก้อนเดี่ยว บางครั้งมีลักษณะหลายๆ ก้อนติดกัน และในช่วง 2-3 ปีนี้พบผู้ป่วยใหม่ที่เป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มมากขึ้น
นพ.ณัฐนนท์ มณีเสถียร อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า มะเร็งไทรอยด์ถ้าเริ่มเป็นจะไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆนอกจากคลำก้อนที่ต่อมไทรอยด์เจอ ดังนั้นเมื่อพบก้อนบริเวณด้านหน้าลำคอที่เคลื่อนขึ้นลงตามการกลืนน้ำลายควรพบแพทย์ แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายเพิ่มเติม
โดยจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง อายุน้อยกว่า 20 ปี หรือมากกว่า 70 ปี มีประวัติก้อนโตเร็ว มีประวัติเคยฉายแสงที่คอมาก่อนหรือมีประวัติเป็นมะเร็งไทรอยด์ในครอบครัว ส่วนการตรวจร่างกายจะคลำพบก้อนแข็ง ขอบเขตก้อนขรุขระไม่ชัดหรือมีอาการแสดงการกดเบียดอวัยวะข้างเคียง เช่น เสียงแหบ, หายใจลำบากหรือกลืนลำบาก
หลังจากนั้นแพทย์ส่งตรวจเลือดไทรอยด์ฮอร์โมนและตรวจ Ultrasound Thyroid ซึ่งแพทย์จะส่งตรวจ ultrasound เพื่อดูลักษณะก้อนว่าเข้าได้กับก้อนเนื้องอกไทรอยด์จริงหรือไม่, มีจำนวนกี่ก้อน จาก ultrasound สามารถวินิจฉัยมะเร็งไทรอยด์ได้ แต่การวินิจฉัยที่แน่นอนและแม่นยำแพทย์จะทำการตรวจโดยใช้เข็มขนาดเล็ก เจาะเอาเนื้อจากต่อมไทรอยด์มาตรวจ (Fine Needle Aspiration ) ง่ายต่อการวินิจฉัยโรคได้แม่นยำประมาณ 90 %
ซึ่งหลังจากวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งไทรอยด์ควรได้รับการผ่าตัด เนื่องจากมะเร็งไทรอยด์ส่วนใหญ่เป็นมะเร็งที่เติบโตช้าการพยากรณ์โรคจะดี ถ้าได้รับการผ่าตัดตั้งแต่ระยะแรกมักจะหายจากโรคได้
นพ. สมศักดิ์ หวานกิจเจริญ ศัลยแพทย์ด้านศีรษะ และลำคอ รพ.มะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า การผ่าตัดมะเร็งต่อมไทรอยด์ ประกอบด้วยการตัดต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมด และอาจมีการจำเป็นต้องตัดต่อมน้ำเหลืองโดยรอบที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ตรวจพบว่าอาจจะมีการกระจายไปต่อมน้ำเหลืองออกไปด้วย
โดยในปัจจุบันแพทย์จะเก็บรักษาต่อมพาราไทรอยด์ซึ่งติดอยู่ทางด้านหลังของต่อมไทรอยด์เพื่อป้องกันภาวะแคลเซี่ยมต่ำในกระแสเลือดหลังผ่าตัด และเก็บรักษาเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงสายเสียง เพื่อป้องกันภาวะเสียงแหบหลังผ่าตัดให้กับผู้ป่วยทุกราย
ต่อมไทรอยด์ที่ถูกตัดออกไปจะถูกนำส่งให้พยาธิแพทย์ ทำการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์อย่างละเอียด หากพบว่า มีลักษณะของการกระจาย หรือมีแนวโน้มว่าจะมีการกระจายของเซลล์มะเร็งไปยังอวัยวะอื่น ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำให้รับการรักษาด้วยรังสีไอโอดีนเพิ่มเติม ซึ่งมักเริ่มให้การรักษาด้วยวิธีนี้ หลังเสร็จสิ้นการผ่าตัดไปแล้ว 4 สัปดาห์ ในการรักษาด้วยรังสีไอโอดีนผู้ป่วยจำเป็นต้องรับการรักษาตัวใน รพ. ประมาณ 2-4 วัน และจะได้รับการอนุญาตให้ออกจาก รพ.เมื่อระดับรังสีที่ถูกขับถ่ายออกจากร่างกายทางปัสสาวะและอุจจาระ อยู่ในระดับที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการแพร่รังสีไปให้กับคนใกล้ชิดโดยไม่จำเป็น
การรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ ชนิดที่เป็นบ่อยได้ผลดี หากได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก อย่างครบถ้วนสมบูณ์โอกาสโรคแทรกซ้อนอยู่ในเกณฑ์ต่ำ หากรับการรักษาใน รพ.ที่ได้มาตรฐาน และศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ อัตราเกิดซ้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำ หลังการรักษาผู้ป่วยสามารถกลับไปมีคุณภาพชีวิตได้เหมือนปกติ