รัฐบาลไทยยืนยันดำเนินการเต็มความสามารถเพื่อแก้ไขปัญหาความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมเรียกร้องให้ทุกประเทศปกป้องหลากหลายทางชีวภาพ
เมื่อวันที่ 1ต.ค. เมื่อเวลา 03.00 ก.ย.(ตามเวลาประเทศไทย) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและกลาโหม ได้กล่าวถ้อยแถลงในการหารือระดับผู้นำ 1 (Leader Dialogue 1) การประชุมสุดยอดว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Summit on Biodiversity) ผ่านระบบการประชุมทางไกล ภายใต้หัวข้อหลัก “Addressing biodiversity loss and mainstreaming biodiversity for sustainable development”
โดยนายกรัฐมนตรีได้ระบุว่าไทยตระหนักดีถึงผลกระทบจากปัญหาการลดลงและความเสื่อมโทรมของความหลากหลายทางชีวภาพและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในทุกพื้นที่ทั่วโลก ถือเป็นสิ่งท้าทายรูปแบบใหม่ที่กระทบทุกชีวิต พร้อมเสนอการเตรียมรับมือกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปใน 3 ประเด็นหลัก ดังนี้
ดำเนินนโยบายเพื่ออนุรักษ์ คุ้มครอง ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยบรรจุประเด็นความหลากหลายทางชีวภาพไว้ในรัฐธรรมนูญและมีแผนแม่บทบูรณาการ เพื่อขับเคลื่อนงานตามอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
ย้ำการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมทั้งส่งเสริมการบูรณาการของหน่วยงานในทุกระดับ เพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
การเรียนรู้จากช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งพบว่า “เมื่อคนเว้นระยะจากธรรมชาติ ธรรมชาติและระบบนิเวศก็สามารถฟื้นตัวได้” โดยรัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำแผนเพื่อปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศเป็นเวลา3 เดือนเป็นประจำทุกปี เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงการขับเคลื่อน Bio-Circular-Green Economy (BCG) มุ่งหวังให้กระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ และส่งเสริมให้ประชาชนใช้ชีวิตกับธรรมชาติมากขึ้น พร้อมยืนยันว่าไทยจะดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มความสามารถ และขอเรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมกันปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพให้อยู่คู่กับอนุชนรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อ ๆ ไป