วันอาทิตย์, กันยายน 29, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightรัฐบาลเร่งเดินหน้ายกระดับโลจิสติกส์ครบวงจร ในพื้นที่ EEC
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

รัฐบาลเร่งเดินหน้ายกระดับโลจิสติกส์ครบวงจร ในพื้นที่ EEC

นายกรัฐมนตรีผลักดันการลงทุนใน EEC ยกระดับโลจิสติกส์ครบวงจร รถ ราง เรือ อากาศ ย้ำเป้าหมาย “เชื่อมไทย เชื่อมโลก”

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่จังหวัดชลบุรี พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธานการประชุมแนวทางการเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังกับนานาชาติและการประชุมแนวทางการส่งเสริมการลงทุนใน EEC ในยุค New Normal กับนักลงทุน

โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายว่า โครงการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ตอบโจทย์การลงทุนของอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต และเป็น Logistics Hub ของภูมิภาค ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ช่วงวิกฤติ COVID การลงทุนใน EEC ก็ยังอยู่ในระดับสูง ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีคำขอรับการส่งเสริมใน EEC จำนวน 277 โครงการ และมีมูลค่าเงินลงทุนกว่า 85,000 ล้านบาท โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 54 ของคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งประเทศ 

โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่าง ๆ ใน EEC ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการเมืองการบินอู่ตะเภา โครงการขยายท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด รวมทั้งโครงการพัฒนาเขตนวัตกรรม EECi ที่จังหวัดระยอง ได้ผู้ชนะการประมูลครบถ้วนแล้ว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหลักการสำคัญการศึกษาทั้ง 3 โครงการ ต้องสร้างความเชื่อมโยง ให้เห็นความคุ้มค่าในการลงทุน สามารถสร้างผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจระหว่างทางด้วย ด้วยรูปแบบการลงทุนแบบ PPP เพื่อประหยัดงบประมาณ และนำเงินไปช่วยเหลือประชาชน โดยทุกอย่างโปร่งใส ไม่ให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน โดยยึดประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ โดยนายกรัฐมนตรีเร่งทำงานโดยใช้ช่วงโควิด-19  เตรียมความพร้อมประเทศ เสริมความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยเป็นประเทศแรก ๆ ที่สามารถเปิดรับเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด 19 ผ่านได้ทันที

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรียังได้เชิญชวนนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ทั้งการลงทุนในไทยทั้งระยะสั้นและระยายาว พร้อมให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลเตรียมความพร้อมทั้งด้านโลจิสติกส์ ระบบรถไฟความเร็วสูง  สาธารณูปโภค  แหล่งน้ำเพื่อการบริโภคและอุตสาหกรรม  รวมทั้งแรงงานฝีมือทั้งในและนอกระบบเพื่อตอบสนองการลงทุนของภาคเอกชน 

หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ติดตามความก้าวหน้ารถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ณ บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง (ท่า C0)

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img