‘โรม’ วีนนายกฯ ด้อยค่าฝ่ายค้าน เบี้ยวตอบกระทู้ค้ามนุษย์-คอลเซ็นเตอร์ บอกประเด็นล่วงหน้าจนไม่ใช่กระทู้สด แต่ยังไม่มีรัฐมนตรีมาตอบ เหลืออดจ่อร้อง ป.ป.ช.สอบทุกครั้งที่ชิ่ง ด้าน ‘มนพร’ รับหน้า ยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ มอบ ‘ประเสริฐ’ มาตอบสัปดาห์หน้า
วันนี้ (16 ม.ค. 68) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีถึงเรื่องการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซนเตอร์ว่า เรื่องดังกล่าวกัดกินสังคมไทยและสังคมทั่วโลกมานาน เราไม่ต้องติดตามการเมืองมากก็ได้แต่หากติดตามข่าวสารทั่วไป เราจะเห็นคนฆ่าตัวตาย คนหมดตัว ความเสียหายมีมากถึง 7-8 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีคนที่ยังไม่กล้าออกมาชี้แจงกับสังคม มูลค่าความเสียหายจริงจึงอาจสูงถึงแสนล้านบาท ความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่คนทั่วไป แม้แต่คนสำคัญในบ้านเมืองอย่างนายกรัฐมนตรี ที่พูดว่าเกือบจะเป็นเหยื่อให้แก๊งคอลเซนเตอร์แล้ว จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนควรรู้ว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร
ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ไม่ได้มีปัญหาแค่เรื่องเงินในกระเป๋าประชาชนที่ถูกดูดออกไป แต่รวมถึงปัญหาค้ามนุษย์ที่นับวันยิ่งจะใหหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ ทำลายชื่อเสียงของประเทศไทยอย่างรุนแรง เช่น กรณีนายซิง ซิง นักแสดงจีน ซึ่งมีข่าวออกมาแล้วว่าทัวร์จีนยกเลิกมาเที่ยวประเทศไทย ตนเองตั้งใจจะถามเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันหลายกระทรวง วิปฝ่ายค้านได้ประสานล่วงหน้ากับรัฐบาล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เวลา 18.55 น. ว่าเราจะมีการตั้งกระทู้ถามถึงนายกรัฐมนตรี และยังบอกว่าถ้าไม่สามารถมาตอบได้ ท่านสามารถมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาตอบแทนก็ได้ เพราะกระทรวงเหล่านี้เกี่ยวพันกับงานที่จะเข้าไปแก้ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ตามแนวชายแดนไทย แต่กลับไม่มีรัฐมนตรีคนใดมาตอบ
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าท่านอาจจะบอกว่าเป็นการเลื่อนตอบกระทู้ตามข้อบังคับที่ 151 แต่ข้อบังคับข้อที่ 160 กำหนดไว้ว่ากระทู้ถามสดให้ถามได้เป็นเวลารวมกัน 90 นาที ในแต่ละครั้งบรรจุได้เต็มที่อยู่แค่ 3 กระทู้ การเลื่อนตอบกระทู้ของนายกรัฐมนตรี เท่ากับว่ากระทู้ของตนเองนั้นถูกปัดตกไป สิทธิ์ของสมาชิกที่จะถามกระทู้ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี จะต้องมาตอบตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับไม่สามารถทำได้ เท่าที่ตนเองเก็บสถิติทราบมาว่าฝ่ายค้านได้ถามกระทู้สด โดยยื่นไปแล้ว 20 กระทู้ ซึ่งนับตั้งแต่นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีมาตอบเพียง 13 กระทู้ หรือคิดเป็น 65% เท่านั้น
เราอยู่ในยุคสมัยที่ถูกละเลยการตอบกระทู้ พวกเราบอกล่วงหน้า จะเอากระทรวงไหนมาตอบเรายินดี เราทำถึงขนาดนี้ จากเดิมที่กระทู้สด จะรู้ล่วงหน้าก็ต่อเมื่อเวลา 8.00 น. ของวันที่จะถามกระทู้ แต่เราบอกล่วงหน้าจนกระทู้สดแทบจะไม่สดแล้ว แต่ท่านก็ไม่มาตอบเรา ตนเองต้องยื่นกระทู้ที่รัฐมนตรีทุกคนมีสิทธิ์มาตอบใช่หรือไม่ ถึงจะได้รับคำตอบ ตนเองยื่นกระทู้ถามไป 4-5 กระทรวง นายกรัฐมนตรีไม่มาตอบไม่เป็นไร ให้รัฐมนตรีแต่ละกระทวงมาตอบก็ได้ แต่สุดท้ายไม่มีใครมาตอบเลย
“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เป็นวาระสำคัญขนาดนี้ ทำลายชื่อเสียงของประเทศขนาดนี้ ททท.ออกมาวางแผนแก้เกมจะทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาท่องที่ยวเหมือนเดิม เสียหายขนาดนี้ แต่ไม่มี” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าตนเองพูดเรื่องนี้ด้วยความเหลืออด และได้หารือกับนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านว่า ต่อแต่นี้ไปเราคงไม่บอกล่วงหน้าอีกแล้ว เพราะบอกล่วงหน้าไปสุดท้ายไม่ให้ความร่วมมืออยู่ดี ถ้าเป็นแบบนี้เราจะใช้วิธีการตั้งแต่สภาฯ ชุดที่แล้ว เราไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะถามอะไร แต่พวกเราก็ได้รับความร่วมมือค่อนข้างมากกว่า ดังนั้นเราจะกลับไปใช้วิธีการแบบเดิม ตามข้อบังคับการประชุมเวลา 08.00 น.รู้กัน จะมาตอบหรือไม่มาตอบ ก็ให้สังคมได้รู้ว่าท่านให้ความสำคัญกับสภาฯ แห่งนี้อย่างไร ท่านให้ความสำคัญกับปัญหาสังคมที่เขาเดือดร้อนอย่างไร
ตนเองถือว่าการที่นายกรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ ไม่ใช่การใช้สิทธิ์เลื่อนแบบทั่วไปแล้ว เพราะเป็นหน้าที่ที่ท่านต้องมาตอบ หากมีภารกิจสำคัญจริง ๆ เราเคารพ แต่จากสถิติบอกว่า มันคือวิธีการที่ทำให้ฝ่ายค้าน ไม่ได้รับคำตอบและไม่สามารถใช้สิทธิ์ตามขอบังคับได้อย่างเต็มที่ ถือว่าสิ่งที่ท่านทำเป็นเจตนาไม่สุจริต หลังจากวันนี้ ตนเองจะนำเรื่องยื่นสู่ ป.ป.ช.ให้มันรู้กันไปว่า ทุกครั้งที่ยื่นกระทู้ที่ท่านไม่มาตอบ เราจะยื่นเข้าสู่ ป.ป.ช.ทุกครั้ง ไม่รู้ว่าผลการดำเนินการของ ป.ป.ช.จะเป็นอย่างไร แต่ถือว่าท่านละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ละเมิดรัฐธรรมนูญ ละเมิดข้อบังคับการประชุม ไม่เคารพต่อสภาฯ และใช้วิธีการนี้ด้อยค่าฝ่ายค้าน ก็ให้มันรู้กันไป
ขณะเดียวกันนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ประธานในที่ประชุม กล่าวภายหลังว่า ตามที่จริงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มีดำริไปยังประธานวิปรัฐบาลหลายรอบ เพื่อประสานให้ความสำคัญในการตอบกระทู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทู้ทั่วไป และกระทู้ถามสด ซึ่งวันนี้ตนเองทราบว่ามีการตั้ง 3 กระทู้ถาม รัฐมนตรีก็ตอบถึง 2 กระทู้ จากที่ตนเองอยู่สภาฯ มาก็เห็นถึงแนวทางที่ดีขึ้น การประสานงานจากฝ่ายค้านที่ดี ที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดของประชาชน จากการประสานงานเรื่องหัวข้อกระทู้ ที่มีมาตั้งแต่วันจันทร์แล้ว พร้อมฝากไปยังนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม ให้กำชับในคณะรัฐมนตรีอีกครั้งว่า ให้มาช่วยตอบกระทู้ของสภาฯ หากไม่ติดภารกิจเร่งด่วน เพราะถือเป็นการให้เกียรติพี่น้องประชาชน
นางมนพร ในฐานะวิปคณะรัฐมนตรี (ครม.) ระบุว่าเมื่อวานนี้ (15 ม.ค. 88) ได้รับการประสานมาจากตัวแทนของวิปฝ่ายค้าน เรื่องประเด็นคำถามว่าจะเชิญรัฐมนตรีท่านใดมาบ้าง แต่กระทู้ในวันนี้จากพรรคประชาชน ได้ถามถึงนายกรัฐมนตรี โดยได้มอบให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม แต่วันนี้ไปจนถึงวันเสาร์ นายประเสริฐ ต้องเป็นประธานการประชุมดีอี และแจ้งว่าไม่สามารถขยับเวลาได้ เนื่องจากต้องเป็นประธานการประชุม ซึ่งคำถามของนายรังสิมันต์นั้น นายประเสริฐ จะมาตอบในสัปดาห์ถัดไป ซึ่งเรื่องที่ได้ถาม ก็เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ในเรื่องการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ การบูรณาการการทำงานของกระทรวงต่าง ๆ นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาให้ประชาชน
ด้านนายปกรณ์วุฒิได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า ในความคิดเห็นของตนเอง การได้รับความร่วมมือจาก ครม.ชุดนี้ เมื่อเทียบกับสมัยที่แล้วได้รับความร่วมมือที่น้อยกว่า ทั้งที่มีการประสานไว้ ตนเองเห็นใจนางมนพร ไม่อยากให้แรงกดดันไปอยู่ที่ประธานวิป ครม. และยืนยันตามที่นายรังสิมันต์บอกว่า หลังจากนี้จะไม่มีการประสานล่วงหน้า เป็นความรับผิดชอบของรัฐมนตรีแต่ละท่านโดยตรง
นายรังสิมันต์ ลุกขึ้นพูดต่อว่า ตนเองเข้าใจว่านางมนพร ทำเต็มที่แล้วในหน้าที่ของท่าน ตนเองคิดว่าเรื่องที่ตนเองถาม พยายามช่วยถามไปหลายกระทรวง จะสามารถหยิบกระทรวงไหนก็ได้ ถ้ากระทรวงดีอีไม่ว่าง สามารถมอบหมายไปยังกระทรวงอื่น ที่อาจว่างได้ ตนเองคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในสมัยประชุมที่แล้ว ที่นางมพรบอกว่า จะมาตอบในสัปดาห์หน้านั้น กระทู้ถามสดทั้ง 3 กระทู้ ซึ่งเป็นของฝ่ายค้าน 2 กระทู้ ที่ทางฝ่ายค้านจะต้องถามต่อไปในการตรวจสอบ และซักถาม ซึ่งเป็นพื้นที่เดียว ที่ฝ่ายค้านสามารถทำได้ ในสภาชุดที่แล้ว ฝ่ายรัฐบาลเมื่อมีเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ ตนเองยินดีหากท่านจะยอมเสียโควตาของท่าน และตนเองก็ยินดีถามในรอบหน้า แต่ที่ผ่านมาตนเองก็อนุมานเอาว่า คงจะไม่มีใครยอมใคร เมื่อเป็นเช่นนี้ ตนเองก็ต้องเสียสิทธิ์ในการถามไป จะให้ตนเองหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร เพราะในความเป็นจริงการเลื่อน ไม่ใช่การเลื่อน แต่เป็นการไม่ให้ตนเองถามต่อไปได้ และสุดท้าย จะมีเรื่องอื่น และวาระอื่นที่สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าเกิดเป็นไปได้ ตนเองคิดว่า ถ้าหาทางออกร่วมกันตรงนี้ได้ ตนเองยินดี เช่น ถ้ากระทู้ไหน ที่รัฐบาลไม่มาตอบ จะต้องใช้สิทธิ์โควตารัฐบาล ฝ่ายค้านไม่ติด แต่ตนเองก็รู้ว่าในทางปฏิบัติ ท่านก็ไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด ตนเองต้องขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามกฏหมาย ที่ตนเองมีความเห็นว่า การที่ท่านไม่มาตอบคำถาม ซึ่งเป็นหน้าที่ของท่าน ตามรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้สิทธิ์ที่ไม่สุจริต และน่าจะเข้าข่ายการละเมิด